เจ้าของฟาร์มจระเข้แจงยิบ หลังถูกวิจารณ์สนั่นปล่อยสัตว์ผอมโซน่าสงสาร

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า "ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เป็นสถานที่แห่งความทรงจำของผมตั้งแต่วัยเด็กมาจนจำเสียงอินโทรดนตรีได้ ชอบมาดูสัตว์ดูโชว์จระเข้ ดูการโชว์ของช้างแสนรู้ (เคยนอนให้ช้างข้ามด้วยละครับ) วันนี้มาย้อนรำลึกอีกหน ผมว่าน่าจะเกิน 20 ปีแล้วละ ที่ไม่ได้มาเที่ยวสถานที่แห่งนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด ที่นี่จะเปิดเฉพาะเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00 น-18.00 น. ค่าบัตร เด็ก 40 ผู้ใหญ่ 80

มารอบนี้มีสิ่งหนึ่งทำให้รูสึกหดหู่ใจ คือ สัตว์ที่นี่ผอมมาก ไม่รู้ว่าสัตว์มันหุ่นแบบนี้อยู่แล้ว อายุเยอะ หรือว่าอย่างไร แต่มองด้วยตา ไม่รู้ใคร แม้แต่นักท่องเที่ยวคนข้างๆยังเอ่ยว่า มันผอมจนรู้สึกน่าสงสาร เสือโคร่ง 3 ตัว ที่พยายามเงยหน้ามองมนุษย์แบบตาไม่กระพริบ มันเดินวนไปวนมาเงยหน้ามองอยู่ในน้ำแบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะหิว หรือหวังว่าจะมีคนเอาอะไรมาให้ หรือมันเป็นพฤติกรรมแบบนี้ของมันอยู่แล้ว แม้แต่ตอนเดินออกพ้นประตู ยังรู้สึกมีคำถามค้างคาใจว่า มันปกติหรืออย่างไร ซึ่งเราก็ได้แค่คิด รู้สึกสงสารในสิ่งที่เห็น ฟาร์มจระเข้ที่เปลี่ยนไป"

อ่านข่าว "บิ๊นท์" โพสต์เศร้าเล่าถึงความทรงจำที่มีต่อ "น้ำมนต์" น้องเล็กที่พี่ๆทุกคนรัก

 

ล่าสุดเมื่อช่วงสายของวันนี้ (15 ก.พ.2564) เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยผู้สื่อข่าว ได้เดินทางไปตรวจสอบสภาพสัตว์ต่างๆภายในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ว่าเป็นจริงตามที่มีการโพสต์ภาพและข้อความหรือไม่ โดยมีนายอุเทน ยังประภากร กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ  พาเจ้าหน้าที่กรมอุทยานและผู้สื่อข่าวเข้าตรวจดูสัตว์ต่างๆตามกรงที่มีการนำรูปไปโพสต์ และสัตว์อื่นที่เลี้ยงอยู่ภายในฟาร์มจระเข้

โดยนายอุเทน ได้อธิบายเกี่ยวกับรูปร่างสรีระของสัตว์ชนิดต่างๆว่าต้องมีสรีระอย่างไร ซึ่งพบว่าร่างกายของสัตว์ชนิดต่างๆนั้นก็ยังอยู่ในสภาพปกติ ไม่อ้วน ไม่ผอม ตามสายพันธุ์ของสัตว์ชนิดนั้นๆ โดยเฉพาะเสือและควายสายพันธุ์แอฟริกา และจระเข้ รวมทั้งลิงแฟนตาซี ที่ตามโพสต์อ้างว่ารูปร่างผอมโซจนน่าสงสาร

นายอุเทน กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ เปิดเผยว่า วันนี้ได้เชิญเจ้าหน้ากรมอุทยานฯมาตรวจพิสูจน์ และก็ได้เชิญสื่อมวลชนมาดูแล้ว เริ่มที่เสือก็ยังอยู่ในที่เดิม จุดเดิม มุมเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดูเสือทั้ง 3 ตัวแล้วลงความเห็นว่า เสือสมบูรณ์ดี ไม่ใช่เป็นเสือที่ผอมแต่อย่างใด พวกมันยังกินดีอยู่ดี

ส่วนเรื่องวัวที่ผอมนั้นอยากจะบอกว่าวัวตัวนี้ชื่อ "วาสุติ" เป็นวัวทางแอฟริกา สายพันธุ์ของเขาจะผอมแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ใช่ควายแบบบ้านเรา ถ้าควายแบบบ้านเราคือยักษ์อ้วน ดังนั้นจะเอาไปเปรียบเทียบกันไม่ได้ ในส่วนของลิงที่อยู่ในกรงใหญ่ก็ต้องดูที่ลูกลิง ซึ่งเราเลี้ยงด้วยนมผง เอฟ 26 เทียบเท่ากับทารกแรกเกิด ดังนั้นถามว่าสิ่งที่เราให้สัตว์ของเรากินดีหรือไม่ดีก็ให้สังคมไปคิดกันเอาเอง ส่วนผู้ที่โพสต์บอกด้วยว่าเสือค่อยๆแหงนหน้าขึ้นมามองคน ก็เพราะว่าบ่อของเรามันสูง เสืออยู่ในที่ที่ต่ำกว่าก็ต้องแหงนมองขึ้นมาเป็นธรรมดา

 

ส่วนจระเข้ที่บอกว่าผอมนั้นจะให้ตนทำอย่างไร จะย้ายก็ย้ายออกมาไม่ได้ เพราะจระเข้บ่อนั้นมันเป็นจระเข้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 70 ปีขึ้นไป เป็นจระเข้สายพันธุ์น้ำจืดแท้ สายพันธุ์สยามของไทยเรา ซึ่งเลือดมันไม่ได้ปนเปื้อนกับสายพันธุ์อื่น ไม่ใช่จระเข้พันธุ์ผสม เราต้องอนุรักษ์เก็บเอาไว้ และที่เราเลี้ยงไว้ตรงนั้นก็เหมือนสถานที่เลี้ยงคนชรา ท่านเห็นคนแก่ร่างกายเขาเป็นอย่างไร จระเข้เขาก็แก่เป็น ดังนั้นก็เหมือนกัน ก็ขอให้เข้าใจด้วย ถ้าจะให้อ้วนอย่างเดียวคงเป็นไปไม่ได้

"ทุกอย่างตนก็ไม่อยากตอบโต้ เดี๋ยวจะหาว่าแก้ตัว ก็เป็นตามที่ทุกท่านเห็นและตามที่ตนอธิบายไปว่ามันเป็นไปตามธรรมชาติของสัตว์ ก็ขอให้ท่านลองไปศึกษาดูว่าทุกอย่างที่ตนพูดไปมันตรงกันหรือไม่ และเพื่อความสบายใจวันนี้ก็เลยเจ้าหน้าที่ทางกรมอุทยานฯมาดู และเชิญสื่อมวลชนมาพิสูจน์ด้วย"

อีกเรื่องที่บอกว่ามีจระเข้ตายอยู่ในบ่อ มันก็มีบ้าง เพราะเราเลี้ยงเป็นหมื่นๆตัว ขนาดคนเรายังนอนตายกันได้ทุกวัน แล้วจระเข้จะไม่ตายหรือ จระเข้ในบ่อก็มีทั้งตัวผู้และตัวเมีย พอใกล้ฤดูผสมพันธุ์ก็จะมีช่วงเวลาที่จะต้องสร้างอนาจักรเพื่อเรียกตัวเมียเข้ามา ตัวผู้ก็จะต้องสู้กัน และมีบางครั้งถึงกับกัดกันตาย อันนี้เราก็ห้ามไม่ได้ มันเป็นธรรมชาติของเขา เราก็อยากเอาตัวที่ตายออกมาจากบ่ออยู่แล้ว แต่บางครั้งมันก็สุดความสามารถเพราะมันอยู่กลางบ่อ ก็อยากให้สังคมดูวิจารณญาณของผู้โพสต์ว่ามีจุดประสงค์อะไร ถ้าท่านไม่มีความรู้ตรงนั้นก็โทรมาถามได้ อย่าไปคิดเอาเอง

สัตวแพทย์หญิง กิรณา นรเดชานนท์ นายสัตวแพทย์ชำนาญการกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวหลังตรวจสอบสภาพสัตว์ภายในฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการแล้ว ระบุว่า เท่าที่ดูก็พบว่ามีสภาพร่างกายทุกอย่างเป็นปกติ แต่ก็มีบางตัวที่จะมีผอมบ้าง อาจจะเป็นเพราะว่าเลี้ยงอยู่ด้วยกันแล้วก็ต้องมีการแย่งกันกินก็เลยดูผอม ซึ่งก็ได้ให้คำแนะนำว่าตัวที่ผอมก็ต้องแบ่งแยกออกมาให้อาหาร เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องไปแย่งกัน โดยร่วมก็อยู่เกณฑ์ปกติดี ดูจากลักษณภายนอกก็ไม่มีบาดแผลอะไร ไม่ได้ผอมจนเห็นซี่โครงชัดเจน ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้

ส่วนวัวก็อาจจะเป็นเรื่องลักษณสายพันธุ์ของเขา ก็อย่างที่บอกพอเลี้ยงอยู่ด้วยกันมันก็จะมีตัวเปรียบเทียบ ตัวหนึ่งผอมตัวหนึ่งอ้วน มีการแย่งกันกิน ตัวผู้อาจจะแย่งกินได้มากกว่า เพราะฉะนั้นตัวที่ผอมมากๆก็ควรจะแยกออกมาให้อาหารต่างหาก ส่วนจระเข้เท่าที่ดูก็ไม่เห็นตัวไหนผอมเป็นพิเศษ อาจจะเป็นบางตัวที่อายุเยอะ เพราะอาจจะกินได้น้อยลง แต่เท่าที่ดูโดยรวมแล้วก็ไม่เห็นความผิดปกติแต่อย่างใด

สุธินันท์/ สุรศักดิ์ คงสินธ์/ ธนวัต นาคขำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สมุทรปราการ