ข่าว

ไขข้อข้องใจ คุณแม่ตั้งครรภ์ ดื่มกาแฟได้หรือไม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่าน คงมีข้อสงสัย ว่าจะสามารถดื่มกาแฟได้หรือไม่ มากน้อยแค่ไหน จากข้อมูลระบุ ดื่มได้ในปริมาณที่กำหนด ไม่กระทบลูกน้อย

คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่าน ที่ก่อนหน้าที่จะมีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้อง ติดกาแฟมาก วันไหนไม่ได้ดื่ม ต้องเกิดอาการข้างเคียง คงมีข้อสงสัยอยู่ไม่น้อยว่า เมื่อเริ่มก้าวเข้าสู่การเป็นว่าที่คุณแม่แล้ว การดื่มกาแฟ ที่มีคาเฟอีน แบบที่เคยทำอยู่ทุกวัน ทำได้หรือไม่ และจะส่งผลกระทบต่อลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์มากน้อยแค่ไหน ทีมข่าวคมชัดลึกออนไลน์ มีคำตอบมาให้

 

ไขข้อข้องใจ คุณแม่ตั้งครรภ์ ดื่มกาแฟได้หรือไม่

ดื่มกาแฟกระทบลูกน้อยหรือไม่

          สำหรับคุณแม่ที่ดื่มชา หรือ กาแฟเป็นประจำ คงเป็นเรื่องยาก ต้องใช้ความอดทน และห้ามใจเป็นอย่างมาก เพื่อลูกน้อย แต่สารคาเฟอีนในเครื่องดื่ม ไม่ได้อันตรายเสียทีเดียว หากรู้จักที่จะบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะ

  • คาเฟอีนซึมผ่านรกไปสู่ลูกน้อยได้ แม้ร่างกายของคุณแม่อาจไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากคาเฟอีน แต่สำหรับทารกในครรภ์ที่ยังไม่สามารถกำจัดสารคาเฟอีนออกจากร่างกายได้ดีพอนั้น แม้มีคาเฟอีนเพียงในปริมาณเล็กน้อยก็อาจกระตุ้นให้ทารกตื่นตัว ซึ่งส่งผลต่อการนอนหลับ หรือการเคลื่อนไหวร่างกายในครรภ์ได้
  • ปัสสาวะบ่อยขึ้น คาเฟอีนมีฤทธิ์ในการขับปัสสาวะ ซึ่งส่งผลให้ร่างกายสูญเสียน้ำ หากคุณแม่ไม่ดื่มน้ำทดแทน อาจนำไปสู่ภาวะขาดน้ำได้
  • เด็กอาจพิการแต่กำเนิด มีงานวิจัยที่ทดลองกับสัตว์หลายชิ้นชี้ว่า การได้รับคาเฟอีนในระหว่างตั้งครรภ์ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับความพิการแต่กำเนิด การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ และอาจทำให้เด็กมีปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ได้ 
  • เด็กอาจมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า การบริโภคคาเฟอีนในระหว่างที่ตั้งครรภ์มากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เด็กมีน้ำหนักตัวแรกเกิดต่ำกว่าปกติ แต่หลักฐานก็ยังไม่เพียงพอที่จะนำมาเป็นข้อสรุปชัดเจนได้ในขณะนี้
  • อาจเกิดภาวะมีบุตรยาก งานวิจัยบางชิ้นชี้ว่าการบริโภคคาเฟอีนมากเกินไปอาจเชื่อมโยงกับภาวะตั้งครรภ์ยาก แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมให้แน่ชัดในด้านนี้ต่อไป

         

ควรบริโภคเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างไรให้พอดี 

- ประมาณไม่เกินวันละ 200 - 400 มิลลิกรัม หรือ 1-2 แก้วมัค คือปริมาณที่พอเหมาะต่อการบริโภค สำหรับคนทั่วไป เพราะได้มีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่า ในผู้หญิงที่ดื่มกาแฟหรือชา ปริมาณที่มากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการต่อวันมีโอกาสแท้งลูก หรือมีบุตรยากกว่าปกติ และในคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ มีโอกาสที่ครรภ์จะผิดปกติมากกว่าเดิม เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นเมนูที่ไม่แนะนำสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพราะส่งผลเสียกับลูกน้อยมากกว่าประโยชน์ที่จะได้รับ ควรบริโภคให้น้อยที่สุดจะดีมาก โดยหญิงตั้งครรภ์ ควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนให้ไม่เกินวันละ 200 มิลลิกรัม 

 

ไขข้อข้องใจ คุณแม่ตั้งครรภ์ ดื่มกาแฟได้หรือไม่

กาแฟ

  • กาแฟชง 237 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 95-165 มิลลิกรัม
  • กาแฟชงที่ผ่านการลดปริมาณคาเฟอีน 237 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 2-5 มิลลิกรัม
  • กาแฟสำเร็จรูป 237 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 63 มิลลิกรัม
  • กาแฟสำเร็จรูปที่ผ่านการลดปริมาณคาเฟอีน 237 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 2 มิลลิกรัม
  • กาแฟลาเต้หรือมอคค่า 237 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 63-126 มิลลิกรัม
  • กาแฟเอสเพรสโซ่ 30 มิลลิลิตร มีคาเฟอีนประมาณ 47-64 มิลลิกรัม

สำหรับคุณแม่ที่มีความกังวลใจ ข้อแนะนำง่าย ๆ ระหว่างตั้งครรภ์ ก็เลิกดื่มกาแฟไปก่อน ก็น่าจะดีที่สุด แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้แล้วจริง ๆ ก็จำกัดปริมาณตามที่กำหนด ลูกน้อยในครรภ์ของคุณ ก็จะแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดี

 

ที่มา : โรงพยาบาลเปาโล

 

- นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคเบาหวานในคนท้อง ที่มีสาเหตุมาจากน้ำตาลในกาแฟอีกด้วย

- ดื่มน้ำตามมาก ๆ ก็ช่วยได้ระดับหนึ่ง อย่างที่กล่าวไป การดื่มเครื่องที่มีคาเฟอีนนั้นจะทำให้ร่างกายขับปัสสาวะบ่อยกว่าที่ควร เกิดภาวะขาดน้ำได้ การดื่มน้ำก็ช่วยทดแทนได้เช่นเดียวกัน

  • เปลี่ยนจาก ชา กาแฟ มาเป็น น้ำผลไม้ ก็สามารถช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้เช่นกัน และยังช่วยลดอาการกระหายน้ำ จากเดิมที่เราจะชงกาแฟดื่มยามบ่าย ก็เปลี่ยนมาเป็น น้ำส้มคั่น น้ำฝรั่ง หรือ นม ก็เพิ่มความสดชื่น และ ชื่นใจได้ แถมยังดีต่อสุขภาพคุณแม่และลูกน้อยอีกด้วย
logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ