ข่าว

กต. เผย คนไทยขอกลับบ้านเพิ่มเกือบ 4,000 เชื่อต่างชาติไม่ใช่เป้า 'ฮามาส'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กต. เผย ตัวเลขคนไทยขอกลับเพิ่มเป็น 3,862 คน ชุดแรกถึงไทย 12 ต.ค.นี้ ขณะที่เครื่องบินกองทัพ ลำแรกถึง 'อิสราเอล' 15 ต.ค. รับคนไทยกลับอีก 140 คน เชื่อคนต่างชาติไม่ใช่เป้า 'กลุ่มฮามาส'

นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉิน ได้รับรายงานจากนางสาวพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิต 18 ราย รอทางการอิสราเอลยืนยันอีกครั้ง ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และถูกจับเป็นตัวประกันอีก 11 ราย เช่นเดิม โดยมีผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เดินทางกลับประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 3,862 คน และผู้ประสงค์ยังไม่กลับจำนวน 52 คน

 

ทางการอิสราเอลอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไม่ปลอดภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงแรงงานไทยด้วยและนำส่งให้นายจ้างใหม่ เพื่อแรงงานจะได้มีรายได้ระหว่างที่อยู่อิสราเอล ซึ่งได้ให้ทางการอิสราเอลดูสถานการณ์ที่เหมาะสม 

 

ส่วนการอพยพครั้งที่ 1 จำนวน 15 คน จะเดินทางด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ วันที่ 12 ตุลาคม เวลา 10.35 น. จากนั้นจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแลทั้งเรื่องสุขภาพอนามัย ตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกระทรวงแรงงาน เตรียมความพร้อมเยียวยาตามระเบียบ 

ขณะเดียวกันรัฐบาลเตรียมส่งเครื่องบินของกองทัพอากาศ ด้วยเครื่องบินแอร์บัส 340 เดินทางถึงกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล วันที่ 15 ตุลาคม นี้ สามารถรับคนจำนวน 140 คน แต่ยังไม่สามารถที่จะลำเลียงผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกลับมา ซึ่งแรงงานไทยที่ผู้เสียชีวิต ต้องรออิสราเอลพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อรอกระบวนการเยียวยาด้วย ตั้งใช้เวลา จากนั้นจะยังมีเที่ยวบินที่วันที่ 18 ตุลาคม รับอีกจำนวน 80 คน 

 

ขณะนี้เตรียมขออนุญาตบินผ่านน่านฟ้าของแต่ละประเทศ ก่อนเข้าอิสราเอล เนื่องจากเป็นการใช้เครื่องบินของกองทัพไม่ใช่เครื่องบินพาณิชย์ที่สามารถบินตามเส้นทางได้เลย จะมีระยะเวลาบินประมาณ 8 - 12 ชั่วโมง ก็ขึ้นอยู่กับเส้นทางที่จะต้องใช้ในภาวะสงครามต่างจากสถานการณ์ปกติ ซึ่งทางการไทยพร้อมส่งเครื่องบินไปเพิ่มเติม แต่ยังมีข้อจำกัด คือ การพาคนมาสู่พื้นที่ปลอดภัย

 

นางกาญจนา ยอมรับว่า มีหารือแนวทางอพยพแรงงานไทยด้วยเรือ แต่ยังไม่ใช้ เนื่องจาก ทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ไม่แนะนำ เพราะท่าเรืออยู่ในพื้นที่ไม่ปลอดภัยและต้องผ่านเส้นทางอันตรายด้วย 
 

ส่วนแรงงานไทยที่ถูกจับกุมตัว 11 คน เป็นตัวเลขที่ได้รับรายงานมาจากนายจ้างไม่ใช่ทางการของอิสราเอล ข้อมูลในภาวะสงครามค่อนข้างยืนยันได้ยาก อาจจะมีเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมาได้ประสานงานกับมิตรประเทศ มีการเชิญทูตประเทศต่างๆ หารือ เพื่อขอความช่วยเหลือพี่น้องชาวไทย 

 

ส่วนประเด็นที่มีกระแสว่าทางกลุ่มฮามาสข่มขู่ว่าจะมีการสังหารตัวประกันทีละคน หากทางอิสราเอลโจมตี นางกาญจนา กล่าวว่า จากการประสานหลายฝ่าย คาดว่าเป้าหมายของกลุ่มฮามาส ไม่น่าใช่คนต่างชาติ เพราะกลุ่มฮามาสเองก็ไม่ได้ต้องการเปิดความขัดแย้งกับนานาประเทศ


โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ฝากถึงบุคคลที่ให้ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยัน เช่น แจ้งว่ามีคนไทยเสียชีวิตกว่า 100 คน นั้น ว่า สถานการณ์ในครั้งนี้ยังคงมีความผกผันอยู่ตลอดเวลาและอยู่ในภาวะสงคราม เรื่องจำนวนต่างๆที่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์ทราบอย่างชัดเจน ขอความกรุณาว่าอยากสร้างความตระหนัก ตกใจจนเกินเหตุ หากเป็นเพียงแค่การบอกเล่าปากต่อปาก ขอความกรุณาว่าอย่าเผยแพร่ เห็นใจครอบครัวแรงงานที่อยู่ในประเทศไทย

 

ส่วนค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศไทย หากประสานกับทางสถานทูต ลงทะเบียนกับทางการของไทย ผ่านช่องทางต่างๆ รัฐบาลจะรับผิดชอบให้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นแนวทางปฏิบัติในภาวะสงครามฉุกเฉิน ซึ่งคนที่เดินทางกลับเอง ไม่ได้อยู่ในกลุ่มขออพยพ เป็นแรงงานที่หมดสัญญาจ้าง อาจจะมีช่องทางในการเดินทางกลับมาเอง ซึ่งส่วนนี้จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ