ข่าว

ลุยป่า "ปิล๊อกคี่" ไม่พบเสือเพิ่ม ชาวบ้านติดตั้งไฟส่องสว่างป้องกันอีกทาง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กล้องดักถ่ายที่ติดตั้ง ตามเส้นทางไปห้วยสะมะท้อ พบภาพสัตว์ป่าหลายชนิด ทั้งหมี เก้ง อีเห็น ชะมด บ่งชี้ชัดว่า ป่าอุทยานฯเขาแหลมบริเวณนี้ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ 

วันที่ 20 ก.พ. 65 ความคืบหน้ากรณีเสือ 3 แม่ลูกเข้าทำร้าย หนุ่มชาวกะเหรี่ยง บ้านปิล๊อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิจ.กาญจนบุรี ได้รับบาดเจ็บสาหัส รวมทั้งพบเสือโคร่งลักษณะพิการขา กัดควายชาวบ้านตาย บริเวณริมห้วยสะมะท้อ 

 

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเสือโคร่ง ว่ามาจากไหน รวมทั้งหาแนวทางป้องกัน ไม่ให้เสือเข้ามาทำร้ายสัตว์เลี้ยงและชาวบ้าน

ลุยป่า "ปิล๊อกคี่"  ไม่พบเสือเพิ่ม ชาวบ้านติดตั้งไฟส่องสว่างป้องกันอีกทาง ทั้งนี้ นายกมลาศ อิสสอาด หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานี วิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่สถานี วิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ มูลนิธิฟรีแลนด์ เจ้าหน้าที่ ขสป.สลักพระ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาแหลม กว่า 10 นาย ได้เดินทางด้วยเรือเร็ว ของอุทยานฯเขาแหลม ไปยังหมู่บ้านปิล๊อกคี่ ม.4 ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ ก่อนเดินเท้าต่อ เข้าป่าปิล๊อกคี่ ไปยังห้วยปิล๊อกคี่-ห้วยสะมะท้อ ซึ่งเป็นบริเวณที่เสือโคร่ง 3 ขา กัดควายชาวบ้าน

ลุยป่า "ปิล๊อกคี่"  ไม่พบเสือเพิ่ม ชาวบ้านติดตั้งไฟส่องสว่างป้องกันอีกทาง

จากหมู่บ้านราว 1 กิโลเมตร พบว่าชาวบ้านได้ทำรั้วไม้ไผ่กั้นขวางเส้นทางเดิน ตั้งแต่ในห้วยน้ำ จรดเชิงเขา ยาวกว่า 30 - 40 เมตร สูงราว 2 เมตร รวม 3 แห่ง ห่างกันประมาณ 500 เมตร เพื่อป้องกันวัวควายที่นำไปเลี้ยงในป่า ไม่ให้กลับหมู่บ้าน และที่บริเวณริมห้วยสะมะท้อ ซึ่งกล้องดักถ่ายจับภาพ เสือโคร่งพิการ 3 ขา กำลังกัดกินควายพบเพียงกะโหลกขาวโพลน รวมทั้งชิ้นส่วนกระดูก โดยไม่เหลือชิ้นเนื้อแม้แต่น้อย

ลุยป่า "ปิล๊อกคี่"  ไม่พบเสือเพิ่ม ชาวบ้านติดตั้งไฟส่องสว่างป้องกันอีกทาง

นายสมโภชน์ ดวงจันทราศิริ หัวหน้าสถานี วิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ พร้อมทีมงาน ได้ตรวจสอบ และเดินดูร่องรอยของเสือโคร่ง รอบบริเวณอย่างละเอียด พบว่าเสือ 3 ขาเดินเข้ามากินซากควาย ในแต่ละคืนนั้น จะไม่เดินซ้ำทางเก่า 

 

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เปิดกล้องดักถ่าย ซึ่งติดไว้ที่ต้นไม้ริมลำห้วย ห่างจากซากควาย ราว 2 เมตร ช่วงวันที่ 5-8 ก.พ.65 ที่ผ่านมา จับภาพเสือ 3 ขา ที่เข้ากินซากควายทุกคืนไว้ได้ 

ลุยป่า "ปิล๊อกคี่"  ไม่พบเสือเพิ่ม ชาวบ้านติดตั้งไฟส่องสว่างป้องกันอีกทาง

แต่จากวันที่ 9 ก.พ. 65 จนถึงขณะนี้ ไม่พบภาพเสือ 3 ขา หรือเสือตัวอื่นแต่อย่างใด ส่วนกล้องดักถ่ายที่ติดตั้ง ตามเส้นทางไปห้วยสะมะท้อ พบภาพสัตว์ป่าหลายชนิด ทั้งหมี เก้ง อีเห็น ชะมด ซึ่งบ่งชี้ชัดว่า ป่าอุทยานฯเขาแหลมบริเวณนี้ มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ 

 

จากการตรวจสอบร่องรอย พบว่าเสือโคร่งพิการ มี 3 ขา เป็นเสือรุ่น เพศเมีย ไม่ใช่เสือประจำถิ่น หากินผ่านมาบริเวณนี้ หลังล่าควายและกินจนหมด ก็เดินทางต่อไป สามารถดำรงชีวิตในป่าได้เช่นเดียวกับมี 4 ขา ส่วนซากอุ้งเท้าเสือที่เจ้าหน้าที่พบในลำห้วยปิล๊อกคี่ เป็นขาหน้า ยังมีเนื้อหนัง คาดว่าราว 1 เดือน ไม่ใช่ชิ้นส่วนขาของเสือ 3 ขา ที่ขาหลังด้านขวาขาด ร่องรอยบาดแผลก็ไม่พบแล้ว เชื่อว่าหายมานาน

 

สำหรับเสือโคร่ง ตัวที่ทำร้ายนายหวาน น่าจะเป็นเสือพเนจรเพศเมียเช่นกัน ส่วนอีก 2 ตัวคงจะเป็นลูก เสือแม่ลูกอ่อน จะดุ เพราะหวงลูก เมื่อแม่เสือพบนายหวาน จึงเข้าทำร้าย ส่วนเสือโคร่ง 2 ตัว ที่ถูก 5 พรานยิงนั้น ตรวจสอบอัตลักษณ์ พบว่าเป็นเสือประจำถิ่น ในป่าอุทยานฯทองผาภูมิ และเป็นแม่ลูกกัน เพศเมียทั้ง 2 ตัว 

 

ด้านนายประสาท แดงเถิน ผู้ใหญ่บ้านปิล๊อกคี่ เผยว่า ขณะนี้แม้ชาวบ้านจะต้อนวัวควายออกจากป่า มาเลี้ยงในหมู่บ้านแล้วก็ตาม ก็ยังหวาดระแวง ว่า เสือจะออกจากป่า ตามมากัดกินสัตว์เลี้ยงที่หมู่บ้านอีก ต่างก็เร่งติดตั้งไฟสปอร์ตไลท์ ส่องสว่างบริเวณคอกสัตว์ เพื่อป้องกันเสือ แต่ก็ยังสบายใจที่มีเจ้าหน้าที่อุทยานฯเขาแหลม มาประจำอยู่ที่หมู่บ้าน คอยดูแลลาดตระเวน รอบหมู่บ้านทุกวัน

ลุยป่า "ปิล๊อกคี่"  ไม่พบเสือเพิ่ม ชาวบ้านติดตั้งไฟส่องสว่างป้องกันอีกทาง ภาพ/ข่าว วุฒิเดช ก้อนทองคำ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. กาญจนบุรี

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ