ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ??

25 ธ.ค. 2560

00:05 น.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์

(ขยายปมร้อน) เมื่อ คสช.ถูกครหาว่า “เอื้อพรรคใหม่ วางยาพรรคเก่า” ท่ามกลางข่าวว่า คสช. และกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังคิดตั้งพรรค !!

ร้องจ๊ากกันเป็นแถว...สำหรับ “พรรคการเมืองเก่า” หลังจากเห็นกติกาตามคำสั่ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในฐานะ หัวหน้า คสช. ที่ใช้ “อำนาจพิเศษ” ตามมาตรา 44 แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง

ความจริงการใช้มาตรา 44 มาแก้กฎหมายพรรคการเมืองนี้ คำอธิบายแรกๆ คือ เพื่อ “ช่วย” พรรคการเมืองที่ตอนนี้ยังไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ เพราะมีประกาศ คสช. และ คำสั่งหัวหน้า คสช. “ล็อค” ไว้

คือ ประกาศ คสช. ฉบับที่ 57/2557 ที่ห้ามพรรคการเมืองประชุม หรือดําเนินกิจการใด ๆ ในทางการเมือง และห้ามการดําเนินการเพื่อการจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรคการเมืองใหม่ และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป

ที่ผ่านมามีเสียงเรียกร้องจากพรรคการเมืองให้ คสช. “ปลดล็อค” เพราะตามกฎหมายพรรคการเมืองที่มีผลบังคับใช้ไปตั้งแต่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา กำหนดให้พรรคเก่าต้องดำเนินการต่างๆตามระยะเวลาที่กำหนด โดยระยะเวลานั้นเริ่มนับทันทีที่กฎหมายพรรคการเมืองมีผลบังคับใช้ รวมถึงพรรคใหม่ด้วย

ฝ่าย คสช.บอกมาตลอด ทำนองว่าพรรคการเมืองไม่ต้องกังวล สามารถขยายเวลาออกไปได้

ขณะเดียวนั้น มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาของนักการเมืองคนสำคัญ คือ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่จู่ๆก็โผล่ออกมาในนามเลขาธิการ กปปส. เรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายพรรคการเมืองเพื่อความเป็นธรรมและเท่าเทียม ซึ่งสอดคล้องกับข้อเสนอของ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” คนกันเอง ที่เสนอให้ “รีเซตสมาชิกพรรคการเมือง” กันใหม่ ทำให้ "คนในพรรคประชาธิปัตย์" ถึงกับผวา

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า “สุเทพ” กำลังคิดตั้งพรรค ซึ่งอาจจะเป็นพรรคใหม่เลย หรืออาจจะเป็น "พรรคประชาธิปัตย์" อย่างไรก็ตาม เขาคงไม่ออกหน้า เพราะได้ลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะไม่กลับมาเล่นการเมือง

นอกจากนี้ยังมี “สมศักดิ์ เทพสุทิน” นักการเมืองที่ร้างเวทีไปนาน โผล่ออกมาพร้อมข้อเสนอแบบสุดซอย ว่า ผู้สมัคร ส.ส.ไม่ต้องสังกัดพรรคในการเลือกตั้งครั้งแรก

ทุกฝ่ายมองตรงกันว่า การออกมาของทั้งสามคน คือ “ชงลูก” ให้ คสช.

และคำตอบก็ชัดเจน เมื่อคำสั่งตามมาตรา 44 ของ “บิ๊กตู่” ประกาศออกมาในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ที่ผ่านมา

แม้ในคำสั่งดังกล่าวจะบอกว่า “ไม่ได้มีการสลายสมาชิกพรรคแต่อย่างใด” แต่ในเนื้อหาของคำสั่งไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเช่นนั้น

“นิกร จำนง” แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา บอกว่า "เขียนคำสั่งแบบนี้เท่ากับเป็นการรีเซตสมาชิกพรรคแบบซ่อนรูป สร้างความลำบากให้พรรคการเมืองมากกว่ากฎหมายพรรคการเมือง ก่อนที่จะมีการแก้ไข"

ขณะที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” คู่ปรับ คสช.จากพรรคประชาธิปัตย์ บอกทำนองเดียวกันว่า "คำสั่งที่ออกมาเกือบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย แต่กลับทำให้พรรคเก่ามีปัญหา"

จุดที่ “นิพิฏฐ์” และ “นิกร” แสดงความกังวล คือ ข้อกำหนดเรื่องสมาชิกพรรค ที่กำหนดว่า “สมาชิกที่ประสงค์จะเป็นสมาชิกพรรคต่อต้องทำหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิก พร้อมทั้งแสดงหลักฐานว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนไม่มีคุณสมบัติต้องห้าม และต้องเสียค่าบำรุงพรรคภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 หากพ้นกำหนดดังกล่าวแล้วยังไม่ดำเนินการดังกล่าวให้พ้นจากสมาชิกพรรค และให้พรรคแจ้งนายทะเบียนภายใน 30 วัน หลังพ้นกำหนดดังกล่าว”

ขณะที่ตามกฎหมายพรรคการเมือง 2560 กำหนดเพียงให้ “พรรคการเมือง” เป็นผู้แจ้งการเปลี่ยนแปลงสมาชิก โดยให้เวลาไว้ถึง 90 วัน

ไม่มีการกำหนดว่า 1.สมาชิกต้องทำหนังสือยืนยันการเป็นสมาชิก 2.ต้องแสดงหลักฐานเรื่องคุณสมบัติ 3.ต้องเสียค่าบำรุงพรรคด้วย

โดยเรื่องค่าบำรุงพรรคนี้ กฎหมายเดิมกำหนดให้จ่ายในภายหลัง โดยกำหนดเป็นระยะๆ ไป ตั้งแต่ภายใน 180 วันสำหรับ 500 คนแรก ภายใน 1 ปี สำหรับ 5,000 คน และภายใน 4 ปีสำหรับ 10,000 คน และถ้าพ้น 4 ปีแล้วใครยังไม่จ่ายก็ให้พ้นสมาชิกพรรค

เท่ากับเดิมมีเวลาจ่ายเงินนานสุดถึง 4 ปี แต่คำสั่งใหม่ทุกคนต้องจ่ายภายใน 30 วันเท่านั้น

จึงไม่แปลกที่ “นิกร” จะเรียกว่า "เป็นการรีเซตสมาชิกพรรคแบบซ่อนรูป"

แน่นอนพรรคการเมืองที่มีสมาชิกพรรคมากที่สุดย่อมจะเดือดร้อนที่สุด

จากข้อมูลของ กกต.เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา พรรคที่มีสมาชิกมากที่สุดตอนนี้ คือ พรรคประชาธิปัตย์ มีสมาชิก 2,895,954 คน รองลงมาคือ พรรคมหาชน 1,181,015 คน พรรคภูมิใจไทย 153,087 คน ส่วนพรรคเพื่อไทยมีสมาชิกเพียง 134,834 คน

“นิพิฏฐ์” บอก ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ 2.8 ล้านคน จะสามารถยืนยันการเป็นสมาชิกได้ทันภายใน 30 วัน

เขาบอกว่า ตอนนี้ในพรรคคุยกันว่า ถ้าต้นเดือนพฤษภาคม 2561 พรรคประชาธิปัตย์์มีสมาชิก 1 แสนคน ก็ถือว่าบุญแล้ว เพราะัทำไม่ทัน และสมาชิกไม่มายืนยันแน่

"เราทำเรื่องสร้างสมาชิกพรรคมา 71 ปี มาทำแบบนี้หมดกันภายใน 30 วัน” นิพิฏฐ์ บอก

หากต้องการรู้ถึงผลพวงจากเรื่องนี้ ว่าจะเป็นอย่างไรอีก ต้องชวนให้ย้อนไปอ่านเรื่องที่เคยวิเคราะห์ไว้ก่อนนี้ (อ่านต่อ...คือ ปฏิบัติการ “รีเซตสมาชิกพรรค” สะเทือนใคร?)

นี่แค่จุดเดียว แต่ถือว่าเป็น “หัวใจ” ของคำสั่งนี้

ยังมีอีกหลายจุดในคำสั่งที่เห็นแล้วอดคิดไม่ได้ว่า “เอื้อพรรคใหม่ วางยาพรรคเก่า”

บางคนบอกว่า ก็ดีนี่ เพราะทำให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างพรรคใหม่กับพรรคเก่า

ก็ใช่...หากไม่มีข้อมูลว่า ตอนนี้ คสช. และกลุ่มผู้สนับสนุนกำลังคิดตั้งพรรค

เมื่อเป็นอย่างนี้จึงไม่แคล้วถูกครหาว่า ใช้อำนาจเอื้อประโยชน์ตัวเอง เหมือนกับที่เคยประณาม “กลุ่มอำนาจเก่า”

เข้าทำนอง “ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง” !!

เรื่องโดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์ คมชัดลึกออนไลน์

==========

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

วิเคราะห์... เรื่องวุ่นๆ หลัง ม.44 รีเซตพรรคการเมือง??

"มาร์ค"อัดคำสั่งปลดล็อคพรรคการเมืองจงใจกลั่นแกล้งพรรคใหญ่

ถอดรหัส !! ม.44 ซ่อนเงื่อน "รีเซตสมาชิกพรรค-โรดแม็พ" ??