คอลัมนิสต์

ปฏิบัติการ “รีเซตสมาชิกพรรค” สะเทือนใคร??

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ใครจะสั่นสะเทือนมากกว่ากัน ระหว่าง "เพื่อไทย" กับ "ประชาธิปัตย์"

 

               ในระหว่างสังคมกำลังชุลมุนอยู่กับเรื่อง แหวนเพชรเม็ดโต และ นาฬิกาหรู ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ต้องบอกว่า มีนัยสำคัญต่อทิศทางการเมืองหลังจากนี้อย่างมาก

               นั่นคือ ความเคลื่อนไหวของ สุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ครั้งนี้กลับมาเคลื่อนไหวในนามเลขาธิการ กปปส. ที่มีการเติมคำว่า “ปฏิรูป” เข้าไปในชื่อเต็มของ กปปส.ด้วย เป็น “คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

               ไม่มีที่ไปที่มาชัดๆว่าทำไมจึงมีการเติมคำว่า “ปฏิรูป” เข้าไปในชื่อเต็ม กปปส. นอกเหนือจากที่ปรากฏอยู่ด้านบนของหนังสือที่ “สุเทพ” ส่งถึงประธาน สนช.เพื่อเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองที่มีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่ 8 ตุลาคม ที่ผ่านมา

               นายสุเทพไม่ได้บอกชัดๆว่าต้องการให้มีการแก้ไขอะไรในกฎหมายพรรคการเมือง บอกแต่เพียงว่า เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และความเท่าเทียมในโอกาสทางการเมืองแก่พรรคการเมืองเก่าและพรรคการเมืองที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ จึงเห็นสมควรให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ เพื่อให้พรรคการเมืองสามารถปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายได้โดยสมบูรณ์ครบถ้วน

               และตอนต้นของหนังสือ แสดงความเห็นด้วยกับการที่ คสช.ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง

               ชัดเจนแบบไม่ต้องแปลความ คือ ดูจากบทเกริ่นนำในหนังสือ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ “สุเทพสนับสนุน "บิ๊กตู่" จากที่ก่อนหน้าอาจจะยังมีความสงสัยในเจตนาของ สุเทพ” ในการปล่อยคลิปรำลึกถึงพลังมวลมหาประชาชน ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

 

ปฏิบัติการ “รีเซตสมาชิกพรรค” สะเทือนใคร??

 

               อีกความเคลื่อนไหวที่สอดประสานกันอย่างยิ่ง คือ ไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ประกาศตัวว่าจะตั้งพรรคประชาชนปฏิรูป และพร้อมหนุน “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯอีกครั้ง

               “ไพบูลย์” ออกมายื่นหนังสือถึง “นายกฯประยุทธ์” และ ประธาน สนช. เสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง โดยระบุลงไปชัดเจนว่าต้องการให้แก้เรื่องสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งเขาบอกว่าตามกฎหมาย เขียนไว้อย่างไม่เป็นธรรม”

               คือ การให้สมาชิกพรรครายเดิมเป็นสมาชิกพรรคต่อได้โดยไม่ต้องเสียค่าสมัคร ซึ่งไม่เป็นธรรมกับสมาชิกใหม่ของพรรคเดียวกันที่ต้องเสียค่าสมัคร รวมทั้งสมาชิกพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งก็ต้องเสียเงินค่าสมัครสมาชิกเหมือนกัน

               ประเด็นนี้เป็นคนละเรื่องกับข้อเรียกร้องของพรรคต่างๆที่ต้องการให้ คสช.ปลดล็อค เพราะเกรงว่าจะทำตามกรอบเวลาที่กฎหมายกำหนดไม่ได้

               มีคนสงสัยว่า แล้วทำไมเพิ่งมาเสนอแก้ไขตอนนี้ มีเสียงอธิบายจาก “ไพบูลย์” ว่า เพราะเพิ่งเห็นปัญหา

               อีกคนที่ “โผล่” ออกมาช่วงนี้คือ สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ที่มาพร้อม “ข้อเสนอสุดซอย” ให้ลงสมัคร ส.ส.โดยไม่ต้องสังกัดพรรค หรือ รีเซตพรรคการเมือง และให้มีแต่ ส.ส.เขต ไม่ต้องมี ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

ปฏิบัติการ “รีเซตสมาชิกพรรค” สะเทือนใคร??

 

               ข้อเสนอของ “สมศักดิ์” ถ้าจะทำต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

               ย้อนกลับไปดูปูมหลังของ “ไพบูลย์” เขาคือ อดีต ส.ว.กลุ่ม 40 ส.ว. ที่มีจุดยืนทางการมืองอยู่คนละฟากกับ “รัฐบาลยิ่งลักษณ์” หรือฝั่ง “ทักษิณ” มาตลอด

               เขาคือคนที่ทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องกระเด็นจากเก้าอี้นายกฯ ด้วยการไปร้องศาลรัฐธรรมนูญกรณีการโยกย้าย “ถวิล เปลี่ยนศรี” อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

               เขา คือ คนที่ไปขึ้นเวที กปปส.และน่าจะพูดได้ว่า “ร่วมหัวจมท้าย” กับ “สุเทพ” ในการต่อสู้กับ “ฝ่ายทักษิณ” มาตลอด

               ไม่ต้องคิดว่า “ไพบูลย์กับ สุเทพนัดกันออกมาเรื่องนี้หรือไม่ ดูแค่ จุดมุ่งหมายก็น่าจะเพียงพอ แม้ สุเทพไม่ได้บอกชัดในรายละเอียดที่ต้องการแก้ไข แต่ดูจากถ้อยคำแล้ว ก็น่าจะใกล้คียงกับข้อเสนอของ ไพบูลย์

               ทีนี้ค่อยๆมาดูว่า หากมีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองตามข้อเสนอ ผลจะเป็นอย่างไร (ไม่ต้องถามว่าจะแก้ได้ไหม เพราะคนที่จะแก้คือ สนช. หรือไม่ก็มาตรา 44 ของ “บิ๊กตู่” )

               เท่าที่ดูรายละเอียดข้อกฎหมาย สิ่งที่ “ไพบูลย์” ต้องการ คือ ทุกคนที่ต้องการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง จะต้องมาเริ่มต้นใหม่ด้วยการเสียเงินสมัครเหมือนกัน ในความหมายคือ จากที่กฎหมายพรรคการเมืองรับรองสมาชิกพรรคเดิม ก็ให้ยกเลิกข้อกำหนดส่วนนี้

               เท่ากับ สลายสมาชิกพรรคของทุกพรรค ทุกคนต้องไปเริ่มต้นสมัครเข้ามาใหม่ ที่บางคนเรียกว่า รีเซตสมาชิกพรรค

               ย้ำว่าแค่ “รีเซตสมาชิกพรรคไม่ใช่ รีเซตพรรคการเมืองเหมือนข้อเสนอของ สมศักดิ์ เทพสุทินหรือ ที่อาจจะเป็นไอเดียเดิมของ คสช. ที่ รองนายกฯ วิษณุเคยออกมาพูดเมื่อปีก่อน แล้วโดนถล่มจนต้องพับแนวคิดนี้กันไป

               ถามต่อว่า สลายสมาชิกพรรคแล้วผลจะเป็นอย่างไร?

               สำหรับพรรคเล็กๆที่มีสมาชิกไม่มาก ก็คงไม่เดือดร้อนเท่าไรนัก ก็ไปเริ่มต้นหาสมาชิกใหม่ แต่พรรคที่มีสมาชิกเยอะๆ คงจะไม่ชอบใจนัก

               จากข้อมูลของ กกต.เมื่อพฤษภาคม ที่ผ่านมา พรรคที่มีสมาชิกมากที่สุดตอนนี้ คือ พรรคประชาธิปัตย์ มีสมาชิก 2,895,954 คน รองลงมาคือ พรรคมหาชน สมาชิก 1,181,015 คน พรรคภูมิใจไทย มีสมาชิก 153,087 คน ส่วนพรรคเพื่อไทย มีสมาชิก 134,834 คน

               “เพื่อความเป็นธรรมโดยเท่าเทียมอาจจะเป็นเหตุผลอย่างเป็นทางการ แต่ เป้าหมายของฝ่ายเสนอ ไม่น่าจะอยู่แค่ตรงนั้น

               การให้ทุกคนเริ่มสมัครเข้าเป็นสมาชิกใหม่ อีกนัยหนึ่ง คือ การทำให้ทุกคนมีอิสระในการ คิดในการตัดสินใจเลือกอีกครั้งว่าจะเข้าไปอยู่พรรคไหน จะกลับไปอยู่พรรคเดิมหรือไม่

               มีการมองกันว่า ความพยายามหนึ่งของฝ่าย คสช.ที่ผ่านมา คือ พยายามดึงคนออกจาก “ขั้วอำนาจเก่าพูดตรงๆ ก็คือพรรคเพื่อไทย แต่ยังคงทำไม่สำเร็จ เพราะ ส่วนหนึ่งยังเชื่อว่า หากอยู่ที่เดิมจะหาเสียงง่าย มีโอกาสได้กลับมาเป็น ส.ส.หากมีการเลือกตั้ง ขณะที่อีกส่วนหนึ่งไม่ออกมา เพราะยังมีความเกรงอกเกรงใจกันอยู่

               จึงมีการพูดกันว่า การสลายสมาชิกพรรค จะคล้ายๆกับการ “ปลดแอก” ให้กับบางคนบางกลุ่ม

                นอกจากนี้ ยังมีการมองกันว่า นอกจากเป้าหมาย “สลายขั้ว” แล้ว ยังหมายถึงคนที่เป็นกรรมการบริหารพรรคปัจจุบัน ก็จะน่าหลุดออกจากตำแหน่งด้วย เพราะทุกคนขาดจากสมาชิกพรรคแล้ว

                นี่น่าจะเป็นอีกเป้าใหญ่ !!

               และถ้าพูดถึงเป้านี้ จุดที่จะสั่นสะเทือนที่สุดน่าจะเป็น “พรรคประชาธิปัตย์” ส่วนพรรคเพื่อไทย ไม่น่าเดือดร้อน เพราะรู้อยู่ว่ากรรมการบริหารพรรค แค่ "หัวโขน" 

               พรรคประชาธิปัตย์ ตอนนี้อยู่ภายใต้การนำของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะโดยมี ชวน หลีกภัยคอยโอบอุ้มอยู่ ขณะที่มีกระแสข่าวอยู่เป็นระยะๆว่า คนในพรรคจำนวนหนึ่งต้องการให้มีการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค รวมทั้งกระแสข่าวที่ว่า ปีกสุเทพต้องการจะยึดพรรค

               ว่ากันว่า ก่อนหน้านี้มีการวางสูตรไว้ว่า หาก “พล.อ.ประยุทธ์” จะกลับมาเป็นนายกฯอีกครั้งหลังเลือกตั้ง น่าจะต้องได้การสนับสนุนจากพรรคประชาธิปัตย์ด้วย แต่ตอนหลัง “อภิสิทธิ์” ประกาศจุดยืนชัดไม่เอาด้วย แถมมีไพร่พลคนประชาธิปัตย์ออกมาถล่ม คสช.เป็นว่าเล่น บวกกับกระแสข่าวเรื่องสูตรประชาธิปัตย์จับมือกับเพื่อไทย

               จึงมีการมองกันว่า นี่คือปฏิบัติการ เอาคืน !!

               ส่วนปฏิบัติการครั้งนี้จะส่งผลให้โรดแม็พเลือกตั้งขยับออกไปหรือไม่? เรื่องนี้จะยังไม่มีผลโดยตรง 

               แต่ถ้าจะให้วันเลือกตั้งเลื่อนออกไป “ฝ่าย คสช.” ก็ยังมี "ไพ่" ให้เล่นอีกเยอะ ตอนนี้ยังไม่จำเป็น รวมถึง “ข้อเสนอสุดซอย” ของสมศักดิ์ เทพสุทิน ด้วย

               ตอนนี้แค่ “รีเซตเกมเท่านั้น!!

 

  • เรื่องโดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

=========

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

ถอดรหัส ม.44 ซ่อนเงื่อน "รีเซตโรดแม็พ-สมาชิกพรรค" ??

อภิสิทธิ์ เปิดหน้าชน "บิ๊กตู่ -สุเทพ"

เด็ก ปชป. ปูดอีก "ประชารัฐ" พรรคใหม่ทหาร

ปชป.ขอ "บิ๊กตู่"รอบคอบ แก้ กม.พรรคการเมือง

ปฏิบัติการ “รีเซตสมาชิกพรรค” สะเทือนใคร?? 

"สุเทพ-ไพบูลย์-สมศักดิ์" เคลื่อน...สะเทือนโรดแม็พ !!

"สมศักดิ์ " สุดซอย เสนอ ส.ส.ไม่สังกัดพรรค

เปิดจม. 'สุเทพ' เสนอแก้ กม.พรรคการเมือง ในนาม กปปส.

"ไพบูลย์" แก้กฎหมายพรรคการเมือง ระบุ ไม่เป็นธรรม

รีเทิร์น ออฟ “สุเทพ”...กลับมาทำไม?

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ