"สุเทพ-ไพบูลย์-สมศักดิ์" เคลื่อน...สะเทือนโรดแม็พ !!

 

               ในขณะที่สังคมกำลังจับจ้องไปที่เรื่องนาฬิกาหรู และ แหวนเพชรเม็ดโต ในข้อมือและนิ้วของ “บิ๊กป้อม” มีความเคลื่อนไหวอีกด้านที่มีนัยสำคัญต่อทิศทางการเมืองประเทศไทยเป็นอย่างมาก    

               เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา “วิษณุ เครืองาม” รองนายกฯมือกฎหมาย ออกมาปูดว่า ตอนนี้ทางสนช.ได้ส่งข้อเสนออย่างไม่เป็นทางการมายังรัฐบาลให้แก้ไขกฎหมายพรรคการเมือง ในส่วนของบทเฉพาะกาลที่กำหนดให้พรรคการเมืองต้องดำเนินการต่างๆภายในกรอบเวลาที่กำหนด 

               โดยเหตุผลของฝ่ายที่จะเสนอแก้กฎหมาย คือ เพื่อผ่อนคลายกฎให้กับพรรคการเมือง หลังจาก คสช.ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง (อ่านต่อ...“วิษณุ” ปูด สนช.ชงรบ. แก้พ.ร.บ.พรรคการเมือง ขยายกรอบเวลา)

               ฟังดูเหมือนจะดี แต่ความจริง สิ่งที่แลเห็นและตั้งข้อสังเกตกันมาตลอดคือ การที่ คสช.ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง จะส่งผลไปถึงปลายทาง คือ "การเลือกตั้ง" จะต้องขยับออกไป เพราะทุกอย่างถูกล็อคไว้ด้วยกรอบเวลาในขั้นตอนต่างๆ ที่เรียกว่า “โรดแม็พ” หากขยับเวลาการดำเนินการในช่วงใดช่วงหนึ่ง ก็จะส่งผลต่อกรอบระยะเวลาในภาพรวม 

               การเสนอแก้กฎหมายขยายเวลาให้พรรคการเมืองออกไป คือ จุดเริ่มของการดำเนินการ “ที่เป็นทางการ” ที่จะทำให้ต้องขยับวันเลือกตั้งทั่วไปออกไป จากเดิมจะเกิดขึ้นได้ภายในประมาณเดือน พฤศจิกายน 2561  

               วันเดียวกันแหล่งข่าวจาก สนช. ยอมรับว่า ทาง สนช.กำลังมีการหารือเรื่องการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองอยู่ แต่กำลังดูอยู่ว่า จะให้ใครเป็นคน “ชงเรื่อง” ระหว่าง สนช.ทำให้หรือจะให้ทาง ครม.เป็นคนทำ  

               ในทางการเมือง ใครก็มองออกว่า “ครม.” ไม่ควร เป็นผู้ชงเรื่องนี้เอง เพราะจะชัดเจนเกินไป การให้ "สนช." จัดการให้น่าจะเป็นทางที่สวยกว่า แม้จะเป็นที่รู้กันดีว่า "สนช." ก็คือ "กลไก" ของ คสช. 

               ช่างพอเหมาะพอเจาะ รุ่งขึ้น จู่ ๆ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” ผู้ที่ประกาศจะตั้งพรรคที่พร้อมจะสนับสนุนให้ “บิ๊กตู่” กลับมาเป็นนายกฯอีกครั้ง ก็ออกมายื่นหนังสือให้ สนช.แก้กฎหมายพรรคการเมือง    

               แม้ในเนื้อหาที่ “ไพบูลย์” เสนอแก้ไข จะแตกต่างออกไป คือ อ้างเหตุผลเพื่อความเท่าเทียมกันในการดำเนินการของพรรคใหม่กับพรรคเก่า แต่ถ้าดู “จังหวะ” ในการเคลื่อนไหว ต้องบอกว่า เหมาะเจาะพอดี  

               ความเคลื่อนไหวของอีกคนที่ถือว่าเป็น “เซอร์ไพรส์” แต่ก็ไม่เกินความคาดหมาย คือ “สุเทพ เทือกสุบรรณ” ที่คราวนี้ออกหน้าในฐานะ “เลขาธิการ กปปส.” ตำแหน่งที่เหมือนว่าเขาจะทิ้งไปแล้ว เมื่อครั้งที่ประกาศว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองถึงขนาดไปบวชอยู่พักหนึ่ง เมื่อสึกออกมา ก็ทำกิจกรรมต่างๆในนาม "ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย"

               วันก่อน “สุเทพ” ออกมาเคลื่อนไหวผ่านหน้าเฟซบุ๊ก ชวนให้ผู้คนรำลึกพลังของมวลมหาประชาชน ซึ่งถูกตีความไปว่าเขาออกมากระตุก “บิ๊กตู่” (อ่านต่อ...รีเทิร์น ออฟ “สุเทพ”...กลับมาทำไม?)

               แต่วันนี้ ท่าทีของ “สุเทพ” ชัดเจนยิ่ง ว่าออกมาเพื่อสนับสนุน “บิ๊กตู่”

               ครั้งนี้ “สุเทพ” ออกมาเสนอให้ สนช.แก้กฎหมายพรรคการเมือง รายละเอียดของการออกมาครั้งนี้น่าสนใจอย่างยิ่ง ทั้งสนับสนุนการที่ คสช.ยังไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง การใช้ถ้อยคำในเหตุผลที่สมควรให้มีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองว่าเพื่อ " ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ของประเทศ" 

               คุ้นๆว่าเป็นคำที่ “บิ๊กตู่” มักจะใช้ “ทุกอย่างขึ้นอยู่กับสถานการณ์...จะเลือกตั้งได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในตอนนั้น” (อ่านต่อ....เปิดจม. ‘สุเทพ’ เสนอแก้ กม.พรรคการเมือง ในนาม กปปส.) 

               อีกคนที่น่าจับสังเกต คือ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” นักการเมืองเก่าจากสุโขทัย ที่ช่วงหลังหันไปเอาดีด้านฟุตบอล กลับมาเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง 

               วันนี้ (14 ธ.ค.)  นายสมศักดิ์ นัดแถลงข่าว เวลา 13.00 น. หลังจากเมื่อวันก่อนเสนอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ให้มีการการงดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา เพื่อสร้างความปรองดอง  (อ่านต่อ..."สมศักดิ์ " สุดซอย เสนอ ส.ส.ไม่สังกัดพรรค)

               ว่ากันว่า ตอนนี้ สมศักดิ์ “แน่นปึ้ก” กับ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” รองนายกฯคนสำคัญของรัฐบาล คสช.

               การเคลื่อนไหวของเขาเหล่านี้จะนำไปสู่อะไร...ห้ามกระพริบตา !!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"สมศักดิ์ " สุดซอย เสนอ ส.ส.ไม่สังกัดพรรค