ข่าว

"มาร์ค"อัดคำสั่งปลดล็อคพรรคการเมืองกลั่นแกล้งพรรคใหญ่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"มาร์ค" จวก คสช. ใช้ ม.44 พร่ำเพรื่อ อัดคำสั่งปลดล็อคพรรคการเมืองจงใจกลั่นแกล้งพรรคใหญ่

         

            เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีคำสั่งตามมาตรา 44 ปลดล็อกให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางธุรการได้ว่า การนำมาตรา 44 มาแก้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ที่เพิ่งมีผลบังคับใช้ไปไม่กี่เดือนและมีปัญหาก็เพราะมาตรา 44 ที่ประกาศใช้ก่อนหน้านั้น จึงทำให้รู้สึกว่าอำนาจเบ็ดเสร็จแต่ไม่ได้มีความชัดเจน ว่าจะบริหารจัดการสถานการณ์บ้านเมืองให้เปลี่ยนผ่าน แบบเป็นระบบอย่างไร ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หลายๆเรื่อง แต่สิ่งที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ.พยายามทำคือ การลำดับการจัดการเรื่องกฎหมาย  โดยจัดทำกฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อน จากนั้นตามด้วยกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. และกฎหมายการได้มาซึ่งสว.เพราะนายมีชัยรู้ว่าทันทีที่กฎหมาย 4 ฉบับเสร็จ  และต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 150 วันตามรัฐธรรมนูญ  แต่เมื่อต้องปฎิรูป พรรคการเมืองและกกต.จะเกิดการเปลี่ยนแปลง ถ้าไปทำให้พรรคการเมืองกับกกต.ต้องเปลี่ยนแปลงแล้วเหลือเวลา 150  วันในการจัดเลือกตั้ง จะทำให้เกิดความโกลาหล และความยากลำบากต่อผู้เกี่ยวข้อง กรธ.จึงทำกฎหมายสองฉบับแรกออกมาเร็ว แต่อยู่ดีๆ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กลับนำการทำงานของพรรคการเมืองไปผูกกับกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ว่าต้องประกาศใช้ก่อน

            "คำสั่งมาตรา 44 ที่ออกมาก็ยังเขียนว่าเอาเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งควรจะเตรียมการก่อนการเลือกตั้งไปผูกกับกฎหมายเลือกตั้งที่มีเวลาแค่ 150 วัน ซึ่งไม่มีเหตุผลอะไรเลย และที่อ้างว่าสถานการณ์ยังไม่เรียบร้อย ผมแปลกใจว่าอะไรที่ทำให้เกิดความไม่เรียบร้อย ทำไมผู้ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จไม่มีความตระหนัก หรือรอบคอบพียงพอที่จะรู้ว่าแผนการที่วางเป็นขั้นตอนด้วยเหตุด้วยผลคืออะไร ผมไม่อยากเชื่อว่าไม่รู้ แต่กลายเป็นว่าอาจจะมีความต้องการอะไรบางอย่าง และถ้ามีความต้องการในเรื่องการเลื่อนการเลือกตั้ง ทำไมไม่มีความกล้าหาญที่จะบอกอย่างตรงไปตรงมา ผมเห็นว่าเป็นชายชาติทหาร อยากจะเลื่อนการเลือกตั้งเพราะมีเหตุผลที่ดีเพื่อส่วนรวมก็บอกมาตรงๆ ไม่เอามาตรา 44 มาแก้ พอถึงเวลาเกิดขรุขระทำอะไรไม่ทันก็เอามาตรา 44 ออกมาอีก โดยที่ไม่บอกให้สังคมและประชาชนรู้อย่างตรงไปตรงมาว่าผู้มีอำนาจกำลังมองปัญหาอย่างนี้  ยิ่งทำเช่นนี้ และยิ่งมีอำนาจเบ็ดเสร็จเท่าไหร่ยิ่งต้องใช้ให้น้อยที่สุด อย่าใช้พร่ำเพรื่อ อำนาจเบ็ดเสร็จแต่ไปปักอยู่บนขี้เลน มันไม่ได้แก้ปัญหา ไม่ได้ปฏิรูป  ทั้งที่กฎหมายทั้งหมดก็มาจาก คสช.และแม่น้ำ 5 สายทั้งนั้น มีอำนาจเบ็ดเสร็จแต่ใช้อำนาจตามอำเภอใจ ตามใจชอบ เปลี่ยนแปลงเมื่อไหร่ก็ได้ และถ้าอำนาจเบ็ดเสร็จที่ใช้ไปเพื่อประโยชน์ให้กับตนเองหรือพวก ซึ่งทำได้ทั้งนั้น แต่อยากให้ระมัดระวังแล้วย้อนกลับไปดูประวัติศาสตร์ว่าเวลาใช้อำนาจแล้วขาดความชอบธรรมผลสุดท้ายผู้ใช้อำนาจจะต้องเผชิญกับอะไร ก็อยากจะเตือนไว้เท่านั้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

            นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อไปว่า คำสั่งมาตรา 44 ที่ประกาศดังกล่าวบอกให้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 61 ใครอยากตั้งพรรคให้เริ่มต้นดำเนินการได้ ซึ่งหนีไม่พ้นต้องไปหาสมาชิกด้วย จึงเป็นเรื่องแปลกว่ากฎหมายได้อนุญาตให้เฉพาะกลุ่มคนบางกลุ่มหาสมาชิกพรรคได้ แต่ขณะที่พรรคการเมืองเก่าไม่มีสิทธ์ทำอะไรเลย และต้องรอเดือนเม.ย.เท่านั้นจึงจะเริ่มดำเนินการได้ ดังนั้นการที่คสช.ระบุว่าในระหว่างนี้พรรคเก่าไปเตรียมการกับสมาชิกพรรคเก่า  ก็ต้องถามว่าทำได้หรือไม่ในเมื่อยังมีคำสั่งคสช.ห้ามเคลื่อนไหวอยู่ ซึ่งคสช.ต้องบอกให้ชัด ถ้าเป็นห่วงเรื่องความวุ่นวายทางการเมือง ตนขอถามว่าทำไมคนบางกลุ่มเคลื่อนไหวได้ โดยไม่กลัวว่าจะวุ่นวาย หรือรู้อยู่แล้วว่าจะมีใครตั้งพรรคใหม่ แล้วทำไมกลุ่มคนอื่นเคลื่อนไหวแบบเดียวกันไม่ได้  เป็นเรื่องไม่มีเหตุมีผล

          นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตามคำสั่งที่ออกมา ในเดือนเม.ย.นี้ ใครเป็นสมาชิกพรรคเก่ายืนยันและชำระเงิน เพื่อยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคของตนเอง ซึ่งพรรคที่ได้รับผลกระทบก็คือพรรคที่มีสมาชิกอยู่แล้ว โดยเฉพาะพรรคที่มีสมาชิกจำนวนมาก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีสมาชิกเกือบ 3 ล้านคน การจะติดต่อคน 3 ล้านคน โดยถูกห้ามเคลื่อนไหวและทำกิจกรรมอยู่ และให้ 3 ล้านคนทำหนังสือยืนยันกลับมาภายใน 30 วัน ในทางปฏิบัติทำได้หรือไม่ หากไม่ยืนยันก็ต้องหลุดไป ซึ่งเหมือนกับรีเซ็ตสมาชิกพรรค ซึ่งไม่ได้เป็นศูนย์แต่กลายเป็นติดลบ เพราะสมาชิกพรรคที่หลุดไปเสียความรู้สึกกับพรรคที่เขาผูกพันอยู่ ไม่แน่ใจว่า ระหว่างวันที่ 1-30  เม.ย. พวกตนจะสามารถไปทำงานเชิงธุรการที่จะให้สมาชิกเก่าทำหนังสือยืนยันและชำระเงินได้กี่คน ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไรไม่ใช่ง่ายๆ แต่พรรคใหม่เขาเดินไปชักชวนใครก็ได้ ตนถึงบอกว่า ถ้ากล้าหาญพอทำไมไม่เปิดให้มีการแข่งขันอย่างตรงไปตรงมา

           นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ไม่แน่ใจว่าเป็นความตั้งใจหรือไม่ที่ให้สมาชิกต้องยืนยันด้วยหนังสือ แทนที่จะให้ยืนยันทางอิเล็กทรอนิคส์  ตนไม่ได้มีปัญหาในเชิงการแข่งขัน เพราะถึงเวลาจริงๆ คือการหาคนมาลงคะแนนให้ สมาชิกเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่สิ่งที่พูด พูดในมุมผูกพันทางการเมืองในเชิงอุดมการณ์ของสมาชิกและพรรคการเมือง มาทำลายตรงนี้เพื่ออะไร และถ้ามองการเมืองแค่เรื่องการเลือกตั้งจำนวนสมาชิกก็ไม่มีผลอะไรเท่าไหร่วันก่อนนายกพูดว่าการเมืองที่ดีต้องปรับปรุงระบบตัวแทนต้องมีส่วนร่วม มีความผูกพัน แต่นี่คือสิ่งที่ท่านกำลังทำลายจากการที่อยู่ดีๆบังคับให้พรรคภายใต้คำสั่งคสช.ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งจะต้องมีคนอื่นๆอีกหลายล้านคนต้องทำหนังสือยืนยัน แต่วิธีการและรูปแบบกำหนดอย่างไรในขณะนี้ยังไม่ทราบได้ เพียงเพื่ออะไรก็ไม่ทราบ จริงๆการให้อนุญาตดำเนินการตามคำสั่งไม่สุ่มเสี่ยงต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองมากกว่าหรือ เพราะเป็นการกระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวในวงกว้าง

            "อยากบอกกับสมาชิกพรรคที่มีหัวใจเป็นประชาธิปัตย์ ก็เป็นประชาธิปัตย์ต่อไป กฎหมายจะมากลั่นแกล้งบีบคั่นแบบนี้เพื่อให้หลุดไปก็ไม่เป็นไร แต่เชื่อว่าคนที่ยังมีอุดมการณ์ก็ยังมีอุดมการณ์อยู่ แต่การทำลายความผูกพันระหว่างสมาชิกกับพรรคแบบนี้ มองไม่เห็นประโยชน์ส่วนร่วม และทำให้ความอ่อนแอทางการเมืองมีมากขึ้น เพราะทุกอย่างจะกลายเป็นการแข่งขันเฉพาะหน้า"นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า

       

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ