ข่าว

ตามรวบหนุ่มสงสัยติดโควิดหนีรพ.ป่าตอง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จ.สุราษฎร์ฯ บุกทลายปาร์ตี้ร้านดังบนชายหาดเกาะพะงัน เจอนักท่องเที่ยวอื้อ แจ้งข้อหาหนัก ส่วนฝ่าฝืนเคอร์ฟิวถูกดำเนินคดีอีก 308 ราย

ภาครัฐออก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และมาตรการเข้มในการสกัดการระบาด โควิด-19 แต่ยังมีผู้ฝ่าฝืนปรากฎขึ้นรายวัน

 

 

 

 

 

 

เมื่อวันที่ 5 เมษายน พ.ต.อ.อกนิษฐ ด่านพิทักษ์ศาสน์ ผกก.สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลป่าตองว่ามีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อโควิด-19 หลบหนีออกจากโรงพยาบาล ทราบชื่อคือ นายธงชัย (สงวนนามสกุล) คาดว่าไปหลบอยู่ในบ้านพักใน ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

 

 

 

 

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ รพ.ป่าตอง เดินทางไปยังบ้านพักหลังดังกล่าว โดยได้มีการสวมชุดพร้อมอุปกรณ์ป้องกันอย่างรัดกุม พบนายธงชัยอยู่ในบ้านพักจริง จึงได้เข้าควบคุมตัวและนำส่ง รพ.วชิระภูเก็ต เพื่อให้แพทย์ตรวจรักษาต่อไป

ส่วนที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 เม.ย.) นายสมชาย สมวงค์ ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอเกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี  พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิเศษฐ์ วิเศษวงศ์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน พ.ต.ท.แสงเพชร สานนท์ รอง ผกก.ป.สภ.เกาะพะงัน ได้สั่งการและมอบหมายให้ นายฉลอง พรหมจรรย์ ปลัดอำเภอเกาะพะงัน พร้อมด้วย ร.ต.อ.เทอดศักดิ์ ธวัชร์วรกุล รอง สว.ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ร.ต.อ.วีระศักดิ์ บัลลพ์วานิช รอง สวป.สภ.เกาะพะงัน ด.ต.สมศักดิ์ จันทร์แทน ผบ.หมู่งาน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ด.ต.ปัญกิตต์ ราชู ผบ.หมู่งาน ตม.จว.สุราษฎร์ธานี ด.ต.ธนกฤต สามเคี้ยม ผบ.หมู่งาน ป.สภ.เกาะพะงัน นำกำลังเข้าตรวจสอบบังกะโลชื่อดังแห่งหนึ่งที่แอบเปิดร้านอาหารบนชายหาด หมู่ 8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน ให้นักท่องเที่ยวจัดปาร์ตี้ 

ทั้งนี้พบว่าที่ร้านอาหารเปิดเป็นบาร์ มีโต๊ะเก้าอี้และพบนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 20 คน กำลังนั่งดื่มกินกันภายในร้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัว พร้อมควบคุมตัว น.ส.จารุณี คิดจิตต์ อายุ 37 ปี ผู้จัดการร้าน ไปสอบปากคำ โดยผู้ต้องหาให้การอ้างว่า “ไม่ทราบคำสั่ง" ของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่ 1980/2563 เรื่องมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันการแพร่เชื้อระบาดของโรคติดต่อไวรัสโควิด-19 (ฉบับที่ 2) โดยให้ปิดสถานบริการบางประเภท เช่น ให้ปิดสถานบันเทิง บริการ บาร์ และสถานที่มีอาหาร สุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย

ดังนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้สั่งปิดร้านอาหารพร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาไปดำเนินคดี โดยแจ้งข้อกล่าวหาเปิดสถานบริการบาร์และมีอาหารสุรา หรือเครื่องดื่มอย่างอื่นจำหน่าย เป็นการฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) กล่าวถึงผลการปฏิบัติช่วงเวลาเคอร์ฟิว วันที่ 4 เมษายน เวลา 22.00-04.00 น.วันรุ่งขึ้น ทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ตั้งจุดตรวจเคอร์ฟิวทั้งหมด 836 จุดทั่วประเทศ ใช้กำลังพลตำรวจ 9,141 นาย และเจ้าหน้าที่หน่วยอื่นรวม 18,893 คน ตรวจพบยานพาหนะ 14,344 คัน บุคคล 19,312 คน ตรวจพบกรณีฝ่าฝืนไม่มีเหตุอันควร ออกนอกเคหสถาน แยกเป็นยานพาหนะ 404 คัน บุคคล 541 คน กรณีผู้รวมกลุ่ม ชุมนุม หรือมั่วสุม ตรวจพบยานพาหนะ 6 คัน บุคคล 39 คน และมีการดำเนินการตักเตือน 299 ราย ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย 308 ราย ทั้งนี้ ผบ.ตร.ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยร่วมปฏิบัติในการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้และให้ระมัดระวังป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อโรค โดยเฉพาะคำสั่งให้กักตัวอยู่กับบ้านหรือสถานที่ที่ทางรัฐจัดเตรียมให้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามประกาศอาจมีความผิด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีปรับไม่เกิน 40,000 บาท และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท

ด้าน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. เปิดเผยว่า การปฏิบัติงานระหว่างการประกาศเคอร์ฟิว 2 วันที่ผ่าน (3-4 เม.ย.) พบการกระทำฝ่าฝืนโดยไม่มีเหตุผล เป็นยานพาหนะ 522 คัน ผู้กระทำผิด 677 คน มีการรวมกลุ่มมั่วสุมเสี่ยงต่อการระบาด เป็นยานพาหนะ 24 คัน และ 41 คน มีการตักเตือน 375 คน ดำเนินคดี 325 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพใบสั่งปรับ 4 หมื่นบาทและข้อความของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์เล่าประสบการณ์กลับเข้าที่พักอาศัยไม่ทันเวลา 22.00 น. เลยโดนลงโทษตามกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยระบุว่า “คนแรกของพรก.ฉบับนี้ สน.ทองหล่อ วันแรกก็โดนจับแถมนอนห้องขัง 1 คืน ไม่ได้เมาด้วย เช้านี้เพิ่งเคยได้กินข้าวหลวง ครั้งแรกประกันออกมา 1 วัน พิมพ์ลายนิ้วมือพรุ่งนี้ไปศาลแขวงใต้พระนคร รถที่ไม่เคยได้นั่งก็ต้องนั่งใช่มั้ย #ประสบการณ์ชีวิต ไม่ลองไม่รู้ #Covid19 #Thailand #Bangkok ต่อไปนี้ 2 ทุ่มจะกลับจากบริษัททันทีนอนอยู่อโศกดีๆ เผือกอยากกลับแบริ่งเป็นงัยล่ะมุง! งานเข้าทั้งคืน...”

 

 

 

 

 

ขณะที่ นายชนก มากพันธุ์ ปลัดจังหวัดพะเยา นายปัณณทัต ใจทน ผอ.สำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 5 พ.ต.อ.พรเทพ น้องการ รอง ผบก.ภ.จว. พะเยา พ.ต.อ.โรจน์รวี รัศมีคำเวียงสา ผกก.สส.ภ.จว.พะเยา พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.ภ.5 พ.อ.นิรันดร พรมมิรัตน์ กอ.รมน.จ.พะเยา พ.ต.ท.นพรัตน์ ยังดำรง สว.ตม.พะเยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพะเยา สำนักงานพาณิชย์จังหวัดพะเยา ร่วมกันทำการตรวจยึดแอลกอฮอล์ จำนวน 3.752 ลิตร จากผู้ครอบครองจำนวน 2 ราย สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิตร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องวางแผนติดตามทราบว่ามีการจำหน่ายแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดมือไม่ได้มาตรฐานประกาศขายทางออนไลน์ หลังจากติดต่อล่อซื้อ ทราบว่าที่บ้านพัก หมู่ 1 ต.ต๊ำ อ.เมือง จ.พะเยา เป็นสถานที่จำหน่ายแอลกอฮอล์ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจยึดจำนวน 252 ลิตร ซึ่งได้มีการบรรจุใส่ในภาชนะเพื่อจำหน่าย 

หลังจากนั้นได้ขยายผลตรวจยึดแอลกอฮอล์ อีกจำนวน 3,500 ลิตร ที่ได้นำใส่รถยนต์ปิกอัพบรรทุกเข้ามาในพื้นที่ จ.พะเยา บนถนนพหลโยธิน จ.พะเยา หลังจากนั้นได้ขยายผลไปยัง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นต้นตอแหล่งที่ส่งเข้ามาจำหน่าย โดยทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจยึดของกลางเพิ่มอีกจำนวน 2 หมื่นลิตร มูลค่า 1,088,080 บาท มูลค่าความเสียหายของรัฐ 5,763,072 บาท ทั้งนี้ของกลางที่ตรวจยึดมีค่าแอลกอฮอล์ เพียงแค่ 63.7% เท่านั้น ซึ่งแอลกอฮอล์ที่ได้มาตรฐานจะต้องมีค่าไม่ต่ำกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ