ผบ.ตร. สั่งจัดกำลังดูแลประชาชน พร้อมอำนวยการจราจร เปิดช่องทางพิเศษ ช่วง "เทศกาลปีใหม่" ย้ำบังคับใช้กฎหมายลดอุบัติเหตุ เน้นเมา-รถเร็ว
30 ม.ค.2565 พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึง การดูแลอำนวยความสะดวกการจราจร การป้องกัน และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ว่า ภาพรวมการเดินทางออกของประชาชน ปีนี้มากขึ้น
โดยเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2566 ที่ผ่านมา จากสถิติปริมาณการเดินทางของกรมทางหลวง และตำรวจทางหลวง พบว่า มีปริมาณรถการเดินทางออกจาก กทม. ถึง 649,871 คัน มากกว่าช่วงปกติถึง 31.2% และมากกว่าปีใหม่ 2565 (ปีที่แล้ว) 3.8% โดยเฉพาะถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ มีปริมาณการจราจรหนาแน่นที่สุด
ส่วนการเปิดใช้มอเตอร์เวย์ ช่วงปากช่อง-ขามทะเลสอ (M6) มีปริมาณรถใช้มอเตอร์เวย์จำนวน 48,921 คัน ทำให้ช่วยการจราจรถนนมิตรภาพได้เป็นอย่างดี
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เน้นย้ำให้ ตำรวจทางหลวง และตำรวจท้องที่ ช่วยกันดูแลอำนวยการจราจรอย่างเต็มที่ ตำรวจทางหลวงมีการเปิดช่องทางพิเศษ ตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยเปิดใน 3 สายทางหลัก ทั้งถนนพหลโยธิน ทล.1 ช่วงอยุธยา-สระบุรี ถนนมิตรภาพ , ทล.2 ช่วงทับกวาง-ปากช่อง และถนนช่องตะโก ทล.348 ช่วงตาพระยา-นางรอง รวมทั้งสิ้น 21 ครั้ง เพื่อส่งประชาชนกลับบ้านอย่างปลอดภัย
โดยให้ตำรวจทางหลวงประชาสัมพันธ์ผ่านทางไลฟ์สด สภาพการจร ผ่านเพจ “ตำรวจทางหลวง” ให้ประชาชนรับทราบข้อมูลอีกส่วนหนึ่งด้วย
สำหรับสถิติอุบัติเหตุ ข้อมูลศูนย์อำนวยการป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนน สรุปสถิติอุบัติเหตุวันแรกของ 7 วันอันตราย 29 ธ.ค.65 เกิดอุบัติเหตุ 349 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 37 ราย ผู้บาดเจ็บ 351 คน สาเหตุเกิดจากขับรถเร็ว 41.55% รองลงมาเมาแล้วขับ 23.50% จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด จ.ประจวบคีรีขันธ์ 3 ราย
สำหรับสถิติการจับกุม 10 ข้อหา ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของวันที่ 29 ธ.ค. จับกุมไปแล้ว 64,223 ราย โดยเฉพาะข้อหา เมาแล้วขับ จับกุม 1,936 ราย รถเร็ว 27,756 ราย
ส่วนมาตรการการควบคุมดูแลสถานบริการ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้งานป้องกันปราบปราม ลงไปควบคุมกำกับดูแล ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงในการสังสรรค์ รื่นเริง เพื่อให้ประชาชน มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ไทย
ผบ.ตร.ได้เน้นย้ำไปที่หน่วย สั่งการให้ตำรวจดูแลคอยอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะจุดที่มีการจราจรหนาแน่น ส่วนมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุ จะมีการบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหาหลัก โดยเฉพาะเมาแล้วขับ จะเน้นไปที่ด่านชุมชน หมู่บ้าน ถนนสายรอง ส่วนขับรถเร็วจะเน้นที่ถนนสายหลัก ที่รถใช้ความเร็วสูง
ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือประชาชนในการขับขี่ตามกฎจราจร ง่วงจอดพัก ไม่ขับรถเร็ว ไม่ขับรถขณะเมา เพื่อร่วมกันในการป้องกันอุบัติเหตุ หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพการจราจร เส้นทางเลี่ยง ขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อ 191,1599 หรือ ตำรวจทางหลวง 1193 ตลอด 24 ชม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง