นายยงยศ แก้วเขียว ท้า สิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. ทุกเวทีกรณีวิจารณ์การเรียกร้องช่วยกำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน 5,000 เพื่อขวัญกำลังใจสู้ภัยไวรัสโควิด-19 อย่ากร่างสร้างภาพเอาดีใส่ตัว คนอื่นชั่วหมด ฝากถึง หน.พปชร.ช่วยกำกับ ดูแล ส.ส.ผู้นี้ให้ดีหน่อย
เมื่อค่ำที่ผ่านมา(12 เม.ย.2563) ที่บ้านพักใน จ.นครศรีธรรมราช นายยงยศ แก้วเขียว นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการที่ตนดำเนินการของบประมาณในการสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่ต่อสู้กับโรคโควิด- 19 ของคณะแพทย์พยาบาลและเจ้าหน้าที่ที่อยุ่ด่านหน้าในพื้นที่ปฏิบัติการในตำบลหมู่บ้านก็คือเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน(รพ.สต) และร่วมถึงอาสาสมัครสาธารณสุ ข (อสม.) กำนันผู้ใหญ่บ้านเราอยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ในสถานการณ์จริงในพื้นที่รับรู้เห็นได้ว่าทุกคนในพื้นที่เสี่ยงโรคโควิด-19 จะต้องไปคัดกรองผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ หรือเดินทางมาจาก กทม. และปริมณฑลที่มาอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลหมู่บ้าน ซึ่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล และ อสม. ไม่มีอุปกรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่แต่อย่างใดสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทยจึงทำหนังสือไปยังนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยส่งทางไปรษณีย์แบบตอบรับ ซึ่งได้ส่งจดหมายไปตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 และมีเอกสารตอบรับตามเอกสารไปรษณีย์ตอบรับเป็นหลักฐาน
“กำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้มีข้อมูลใกล้ชิดและอยุ่ในพื้นที่จริง พวกเรารับรู้รับทราบและปฏิบัติการร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุขมาด้วยกันตลอดเวลานานหลายเดือนแล้ว ตนจึงเห็นว่าเมื่อรัฐบาลออก พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.เพื่อกู้เงินเกือบ 2 ล้านล้านบาท เพื่อมาเยียวยาช่วยเหลือประชาชนเดือนละ 5,000 บาท ตนจึงจัดทำโครงการเพื่อของบประมาณให้นำเงินจากการกู้ดังกล่าวมาช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล และ อสม.ทุกคนทั่วประเทศด้วย แต่ขอให้เหลือจากการช่วยประชาชนทุกคนเรียบร้อยแล้ว ตนทำหน้าที่ในการเรียกร้องการช่วยเหลือให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการสู้กับภัยเชื้อโควิด-19 และในความเป็นจริงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเราออกมาปฏิบัติการต่อสู้กับโควิด-19 มานานแล่ว ก่อนที่รัฐบาลนี้จะออก พ.ร.ก.หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ เสียอีก โดยไม่มีค่าตอบแทนเพิ่มเติม และไม่ได้คาดหวังเรื่อง่าตอบแทนใด ๆ เราทำงานด้วยจิตสำนึกในหน้าที่และเกียรติยศและศักดิ์ศรีของผู้นำท้องถิ่น”
นายยงยศ แก้วเขียว กล่าวว่า ในกรณีที่ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ออกมาโจมตีถึงกรณีที่ตนในฐานะนายกสมาคมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย ได้ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอเพิ่มเงินเดือน 5,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล โดยนายสิระ เจนจาคะ ระบุว่า “กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อ้างว่าต้องออกตรวจเสี่ยงต่อการติดเชื้อว่า ตนไม่เข้าใจว่า คนพวกนี้คิดได้อย่างไร ในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนตกงาน ขาดรายได้ แต่พวกคุณอาสามาที่จะเข้ามารับใช้ชาวบ้าน รับเงินเดือนจากภาษีของประชาชนทุกบาท วันนี้ประเทศกำลังประสบกับวิกฤต พวกคุณไม่ตระหนัก แต่ยังแสดงออกเสมือนขูดรีดภาษีของประชาชน ที่ภาครัฐสามารถนำไปช่วยเหลือประชาชนได้ หากไม่มีจิตสำนึก อย่ามาทำหน้าแทนประชาชน ลาออกจากตำแหน่งไป อย่ามาทำพฤติกรรมขูดรีดภาษีประชาชนในเวลานี้ และให้คนอื่นที่มีความเหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่แทน เพราะผมเชื่อว่ายังมีคนที่เขาอยากจะทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริงอีกมาก และยังขอฝากไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ หากจะต้องเพิ่มเงินให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตนขอแนะนำให้นำงบประมาณตรงนี้ไปให้แพทย์ พยาบาล บุคคลากรทางการแพทย์ ตนเชื่อว่ายังมีประโยชน์มากกว่า เพราะพวกเขาต้องสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ และถือเป็นกลุ่มเสี่ยงโดยตรง และที่สำคัญคือ ตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา พวกเขาทำงานหนัก เสี่ยงชีวิต จนมีบุคคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไปหลายคน แต่พวกเขากลับไม่เรียกร้องขออะไรเลย”
นายกสมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผมคัดเอาคำให้สัมภาษณ์ทั้งหมดของนายสิระ เจนจาคะ มาเป็นหลักฐาน และตนขอเรียนว่านายสิระ เป็น ส.ส. กทม.สมัยแรก ที่สำคัญเพิ่งออกมาเคลื่อนไหวช่วยเหลือประชาชนต่อสู้กับโควิด-19 เมื่อไม่นานมานี่เอง แต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เขาออกมาต่อสู้มาเกือบ 2 เดือนแล้วออกมาต่อสู้ ๆทั้งที่เขาไม่มีเครื่องมือหรือสิ่งปกป้อง ป้องกันตัวแม้แต่น้อย โดยโควิดมันร้ายแรงมากแม้แต่มหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา มีงบประมาณ มีเรือดำน้ำ มีเครื่องบินไอพ่น ยานอาวกาศ มีแสนานุภาพมหาศาลเขายังสู้โควิดไม่ไหว แต่ในช่วงแรก ๆ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สราวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล และ อสม. ไม่มีอะไรเลย แต่เขาก็ออกมาสู้ ในตอนนั้นตนไม่ทราบ่ายสริ เจนจาคะ ส.ส.คนดี สุดยอดคุณภาพ ส.ส.ผู้นี้ไปอยู่ที่ไหน สำหรับที่ระบุว่าหากจะช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนันเดือนละ 5,000 บาท ให้เอาเงินจำนวนดังกล่าวมาช่วยเหลือบุลลากรทางการแพทย์ดีกว่า ตนขอให้นายสิระ รู้ว่าสิ่งที่สมาคมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านเรียกร้องเป็นลำดับแรก ๆ และส่งหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 26 มี.ค. 2563 นั้นรายละเอียดในหนังสือคือการเรียกร้องให้ช่วยเหลือแพทย์ พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนการเรียกร้องช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นเรื่องหลังสุดหากมีเงินกู้เหลือจากการช่วยเหลือแพทย์พยาบาล และประชาชนเรียบร้อยแล้วมีเงินงบประมาณเหลือก็มาช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจบ้างมันจะเป็นไรไป
“นายสิระ เพิ่งเป็น ส.ส.ได้ไม่กี่เดือน และมีเงินเดือนมากกว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านหลายเท่า เขารับเงินเดือน 1 เดือนยังมากกว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านรับเงินเดือน 1 ปี เขาทำงาน 4-5 เดือนได้เงินเดือนเท่ากับกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำงาน 5 ปี สำหรับตนไม่ได้ให้ราคานายสิระ แม้แต่น้อยและพร้อมที่จะท้าชนทุกที่ ทุกเวที อย่าคิดว่าตัวเองเป็น ส.ส.จะมีเกียรติยศศักดิ์ศรีมากกว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน แพทย์ประจำตำบล และ อสม. และการออกมาโจมตีกำนัน ผู้ใหญ่บ้านของนายสิระ เป็นการทำลายขวัญ กำลังใจ เกียรติยศและศักดิ์ศรีของผู้นำท้องถิ่นทั่วประเทศ จึงขอฝากเตือนไปยังหัวหนาพรรคพลังประชารัฐให้ช่วยกำกับดูแล ลูกพรรคพลังประชารัฐอย่างนายสิระ ให้ดี ๆเพราะมีเรื่องฮือฉาวเป็นภาพลบในพรรคในรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่อง แต่อย่ามาใช้พฤติกรรมสร้างภาพให้ตัวเองดูดี คนอื่น ๆ ชั่วหมด อย่าทำในลักษณะนี้กับผมและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน” ทั่วประเทศไทยจะกร่างทำลายเกียรติยศ ศักดิ์ศรีใครก็ได้ แต่หากเล่นกับผมและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจอดีแน่ ผมพร้อมจะท้าชน จะปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของพี่น้องกำนัน ผู้ใหญ่บ้านทั่วประเทศของผมจนถึงที่สุด นายยงยศ แก้วเขียวกล่าวอย่างมีอารมณ์ในที่สุด.
ยุทธนะ เตมะศิริ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช
ข่าวที่เกี่ยวข้อง