ส่งปืนยิงพ่อค้าลูกชิ้นตรวจสอบ พร้อมสอบปากคำผู้บาดเจ็บ

      จากกรณี พ.ต.ท.ปกรณ์ เส็งทอง ตำแหน่ง อาจารย์ (สบ.3) กลุ่มงานอาจรย์ภาควิชาสืบสวน ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 6 ใช้อาวุธปืนยิงนายวิศิษฏ์ วงศ์สวัสดิ์ภักดี หรือป๊อ ยอยาวใหญ่ เจ้าของกิจการร้านขายลูกชิ้นจนได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารชื่อดังกลางเมืองปากน้ำโพ จนทำให้ พ.ต.ท.ปกรณ์ ถูกนายวิศิษฏ์ แจ้งความดำเนินคดีฐานพยายามฆ่าผู้อื่น ซึ่งเมื่อวานนี้ (25 ธันวาคม 2562) พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้เรียกให้ พ.ต.ท.ปกรณ์ มารับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว รวมถึงยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนอีก 2 ข้อหาด้วย แต่เจ้าตัวให้การปฏิเสธทั้งหมด และไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (26 ธันวาคม 2562) มีรายงานว่า พ.ต.ต.สามารถ สาโรจน์ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ในฐานะเจ้าของคดี ได้มีการนำอาวุธปืนแมกกาซีนขนาด 6.35 รวมถึงปลอกกระสุนปืน ที่ พ.ต.ท.ปกรณ์ ใช้ก่อเหตุยิงนายวิศิษฏ์ ส่งให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ที่กรุงเทพ ในการตรวจเก็บเขม่าดินปืนแล้ว ซึ่งในเบื้องต้นพบว่า ปืน พ.ต.ท.ปกรณ์ ถูกใช้ยิงไปแล้ว 1 นัด และมีกระสุนปืนคาอยู่ในแมกกาซีนอีกจำนวน 4 นัด โดยต้องใช้เวลาในการตรวจสอบประมาณเกือบ 2 อาทิตย์ ถึงจะทราบผล

     ส่วนการสอบปากคำทั้งผู้บาดเจ็บและพยานแวดล้อมที่อยู่ในเหตุการณ์ มีรายงานว่า ได้มีการสอบปากคำมารดาของนายวิศิษฏ์ เพียงรายเดียวเท่านั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้ นายวิศิษฏ์ได้เข้าพักรักษาอาการบาดเจ็บอยู่ที่โรงพยาบาลโดยแจ้งว่า จะเดินทางมาให้ปากคำในช่วงสายวันที่ 27 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ รวมถึงพยานแวดล้อมคนอื่นๆ ทางพนักงานสอบสวนจะมีการเรียกมาสอบปากคำในวันเดียวกันด้วย เพื่อนำผลการสอบปากคำที่ได้มารวบรวมกับหลักฐานทั้งหมด ส่งฟ้องในชั้นอัยการต่อไป ซึ่งคาดว่า น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนอย่างไรก็ตาม ในส่วนของ พ.ต.ท.ปกรณ์ ที่ตอนนี้ยังไม่ถูกควบคุมตัวนั้น ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีระบุว่า แม้ตอนนี้ พ.ต.ท.ปกรณ์ จะตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว แต่เนื่องจากเจ้าตัวไม่มีพฤติการณ์หลบหนี อีกทั้งยังมีหน้าที่ และสถานที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง จึงได้ปล่อยตัวเป็นการชั่วคราว โดยไม่ต้องใช้ตำแหน่งประกันตัวแต่อย่างใด ซึ่งต้องรอจนกว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนครบถ้วน และเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนการส่งฟ้องอัยการ จึงจะมีการนำตัว พ.ต.ท.ปกรณ์ เข้าสู่ขั้นตอนนี้อีกครั้ง

    ด้าน พ.ต.อ.วีรภัสส์ ห้วยหงษ์ทอง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ได้เปิดเผยด้วยว่า ผลการสอบปากคำนางพนิต วงศ์สวัสดิ์ภักดี มารดาของนายวิศิษฏ์ ผู้บาดเจ็บ ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และทราบว่าในวันเกิดเหตุ ทาง พ.ต.ท.ปกรณ์ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาที่หน้าตู้เอทีเอ็มเพื่อรอกดเงินเช่นกัน ซึ่งอาจจะใช้เวลานานไปหน่อย จนทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันทั้งคำพูดและกิริยาบางอย่างของทั้ง 2 ฝ่าย จนทำให้เกิดเหตุการณ์บานปลายทะเลาะกันถึงขั้นรุนแรงดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม คงต้องรอผลการสอบปากคำนายวิศิษฏ์ รวมถึงพยานแวดล้อมคนอื่นๆ ถึงจะประมวลสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด มารวบรวมกับหลักฐานในการส่งฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหา

รณกฤต วรณันวรกุลผู้สื่อข่าวจังหวัดนครสวรรค์