ข่าว

'บิ๊กต่อ' น้อมรับข้อผิดพลาด 'คดีป้าบัวผัน' ทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"บิ๊กต่อ" ลงพื้นที่สระแก้ว เร่งสางคดี "ป้าบัวผัน" น้อมรับความผิดพลาดขอโทษประชาชน ด้าน"บิ๊กโจ๊ก" เชื่อคลิปเสียงตำรวจเป็นคลิปจริง บ่นเหนื่อยใจ กับพฤติกรรมลูกน้อง ทำประชาชนเอียน เรียกร้องผู้บังคับชาระดับภาคทบทวนตัวเอง

19 ม.ค. 2567 พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) และคณะทำงาน บินด่วนลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อติดตามคดี 5 เยาวชน แก๊งลูกตำรวจ ก่อเหตุ ฆาตกรรม ป้าบัวผัน หรือ ป้ากบ และคดีพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ คลุมถุงดำบังคับให้ลุงเปี๊ยก สามีป้าบัวผันรับสารภาพเป็นแพะในคดี

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยก่อนการเดินทางว่า วันนี้ไปรับฟังข้อเท็จจริงกรณีเยาวชนกลุ่มนี้ ตลอดจนเยาวชนในแก๊งรายอื่น ที่ก่อความรุนแรงสะสมมานานหลายคดี ซึ่งจะต้องไล่ตรวจสอบย้อนหลังในทุกคดีทั้งหมดที่มีเบาะแส และเชิญผู้เสียหายแต่ละคดีมาสอบปากคำ เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน แม้จะเป็นคดีเก่าที่เกิดนานแล้ว แต่เชื่อว่าพนักงานสอบสวนมีแนวทางในการรวบรวมหลักฐานเพื่อเอาผิดกับผู้ก่อเหตุได้ นอกจากนี้จะต้องไปพิจารณาข้อกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับผู้ปกครองเด็กที่ปล่อยปละละเลยบุตรหลานด้วย

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ติดตามความคืบหน้าคดี ป้าบัวผัน

 

 

ส่วนการดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนที่บังคับให้ลุงเปี๊ยกรับสารภาพนั้น จะต้องตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดก่อนที่จะมีการชี้แจงให้สาธารณชนรับทราบ โดยเฉพาะประเด็นคลิปเสียงการสนทนาของชายที่คาดว่าเป็นตำรวจยศ พ.ต.ต. และ พ.ต.ท.รวมถึงดาบตำรวจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ทราบว่าเป็นคลิปจริงหรือไม่ หรือมีการตัดต่อบิดเบือนคลิปเสียง ซึ่งจะต้องเรียกบุคคลที่คาดว่าเป็นเจ้าของเสียงมาสอบปากคำว่าพูดจริงหรือไม่ และเมื่อทราบเรื่องแล้วเหตุใดจึงไม่ดำเนินการกับตำรวจที่กระทำความผิด พร้อมยืนยันว่าหากมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะต้องดำเนินการทั้งทางอาญาและวินัย ส่วนจะมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกี่รายนั้นยังไม่สามารถตอบได้ ต้องขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยมอบหมายให้พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินการสอบวินัยตำรวจทั้งหมดและรายงานผลให้ทราบโดยเร็ว แต่ส่วนของคดีอาญาทั้งหมดก็ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์  รับผิดชอบการสอบสวน

 

 

ผบ.ตร.ติดตามความคืบหน้าคดีป้าบัวผัน

 

 

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในฐานะ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอน้อมรับความผิดพลาดและขอโทษประชาชน ที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องและทำลายความเชื่อมั่นของประชาชน เพราะแม้แต่ตนเองก่อนหน้านี้ก็ยังตั้งข้อสงสัยถึงกระบวนการสอบสวนและคดีดังกล่าว และในฐานะที่ตนเองเป็นหัวหน้า เมื่อปัญหาเกิดขึ้นก็จะต้องแก้ไข และพยายามทำให้อยู่ในกรอบทั้งหมด

 

 

ลุงเปี๊ยก ให้ข้อมูลตำรวจ กรณีถูกถุงดำคลุมหัว

 

ต้องยอมรับว่าในองค์กรตำรวจที่มีคนจำนวนมาก มีตำรวจบางนายที่ประพฤติไม่ดี เมื่อปีที่ผ่านมา มีตำรวจที่ถูกให้ออกจำนวนกว่า 300 นาย  และในการประชุม ก.ตร. ครั้งที่จะถึงนี้ ก็มีคำสั่งให้ออกอีกกว่า 60 นาย ยืนยันว่าหนังเรื่องนี้ยังไม่จบ และใครผิดไม่เลี้ยงไว้ และในการลงพื้นที่วันนี้ก็จะต้องปรับปรุงเรื่องการสืบสวนสอบสวนด้วย เพราะปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปแล้ว ควรนำเทคโนโลยีและนิติวิทยาศาสตร์มาปรับใช้ในการสอบสวน ยกระดับให้ได้มาตรฐานและอยู่ในกรอบของกฎหมาย จะสอบสวนแบบเดิมๆ ไม่ได้ 

 

 

บิ๊กโจ๊ก ยอมรับเหนื่อยใจกับพฤติกรรมลูกน้อง

 

 

ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพฤติกรรมการก่อเหตุของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุ เบื้องพบว่ามีคดีค้างเก่าไม่น้อยกว่า 5-6 คดี ทั้งคดีกระทำชำเรา รุมโทรมหญิง ทำร้ายร่างกาย แต่ไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ก่อเหตุเลย ขณะนี้พบผู้เสียหายแล้ว และจะต้องเชิญผู้เสียหายทั้งหมดมาให้ข้อมูล แม้คดีจะผ่านมานานแล้วก็ตาม รวมทั้งจะต้องเชิญผู้กำกับและหัวหน้าชุดทำคดีทั้งหมดมาสอบถามถึงปัญหาว่าคดีติดขัดเรื่องใด เหตุใดจึงไม่มีความคืบหน้า เพื่อจะเร่งรัดดำเนินคดีเพิ่มเติมกับเยาวชนทั้ง 5 คนนอกเหนือจากคดีฆาตกรรมป้าบัวผัน ยืนยันคดีทั้งหมดผู้เสียหายต้องได้รับความเป็นธรรม 

 

ส่วนกรณีคลิปเสียงที่หลุดออกมาเพิ่มเติมนั้น ตนได้ฟังแล้วเชื่อว่าเป็นคลิปเสียงจริง แต่หากมีการตัดต่อก็สามารถตรวจสอบได้ และการที่พนักงานสอบสวนตกใจเมื่อทราบว่าจับผิดตัว และนำลุงเปี๊ยกไปฝากขัง ก็เหมือนเอาคนไม่ผิดเข้าคุก ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ไปดูว่าพนักงานสอบสวนรีบแก้ไข รีบทำหนังสือถึงศาล เพื่อให้ปล่อยตัวลุงเปี๊ยกออกมาโดยเร็วหรือไม่ รอง ผกก.ที่ยอมรับว่ารู้เหตุการณ์คลุมหัวจริงก็ต้องดำเนินคดี ส่วนใครรับรู้อีกก็ต้องว่าไปตามข้อเท็จจริง

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก ยังยอมรับว่าเหนื่อยใจกับพฤติกรรมของผู้ใต้บังคับบัญชาที่เกิดขึ้น ที่เมื่อกระทำผิดแล้วพยายามปกปิด รายงานข้อเท็จจริงไม่ครบหรือปิดบังเรื่องการสอบสวนที่ผิดพลาด ทำให้ต้องมารู้เรื่องราวจากสื่อมวลชน และลุงเปี๊ยกที่เป็นผู้เสียหาย ซึ่งลุงเปี๊ยกก็มีความเครียดแค้นว่าตำรวจนายนี้ทำร้ายตนเอง บังคับให้นำชี้ที่เกิดเหตุ

 

"ตนเองก็เหนื่อยใจ และประชาชนก็รู้สึกเอียนจนไม่รู้จะเอียนอย่างไรแล้ว และในฐานะผู้บังคับบัญชาก็ต้องลงไปแก้ไข วันนี้ผู้บัญชาการภาค ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ผู้กำกับการพื้นที่และทุกคนจะต้องทำหน้าที่ของตนเอง ไม่ใช่ต้องให้ระดับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องลงพื้นที่ไปเอง ไม่กังวลว่าลูกน้องจะรังเกียจ ใครทำไม่ดีต้องถูกดำเนินการ"

 

ด้านพลตำรวจเอกธนา เปิดเผยถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ามีบุคคลบางกลุ่มได้รับคลิปวงจรปิด และสั่งให้เจ้าของกล้องวงจรปิดลบคลิปต้นฉบับเพื่อหวังผลประโยชน์ ว่า เป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบ และพิจารณาในรายละเอียดก่อน แต่หากพบว่ามีใครเข้าข่ายกระทำความผิดก็จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ โดยจะเน้นทำคดีหลักก่อน

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ