ข่าว

'นักธุรกิจ' โวยที่ดินมรดกพ่อถูกยึดสร้างศาลา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ทนายดังบุกบางปะกง ตรวจสอบสรา้งศาลา 'บุกรุกที่ดิน' พบพิรุธงบก่อสร้าง SML ไม่โปร่งใสพร้อมให้เจ้าหน้าที่นำรางวัดเข้าวัดพื้นที่ใหม่

ที่ถนนบางวัว ซอย 4 วัดบางวัว ม.9 อำเภอบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นายกฤษฎา อินทามระ ทนายความ เดินทางลงพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อน หลังได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ภรภัทร ว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ.2560 ได้รับโอนที่ดินรวม 2 แปลงตั้งอยู่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเฉรามาจากบิดามารดา จึงได้ทำการรังวัดสอบเขตที่ดินพบว่ามีศาลาหลังหนึ่งปลูกสร้างรุกล้ำเข้ามาในที่ดิน จึงสืบหาเจ้าของเพื่อฟ้องขับไล่ศาลาออกไป แต่ปรากฏว่าทนายความคนเดิมหลงประเด็นไปฟ้องหน่วยงานรัฐว่าเป็นผู้มอบเงินในโครงการ SML มาให้ปลูกสร้างเป็นศาลาประชาคม ภายหลังยื่นฟ้องแล้วได้มาพบกับทนายกฤษฎา อินทามระ ให้คำปรึกษาว่าคดีดังกล่าวเป็นการฟ้องผิดตัว ผู้เสียหายจึงได้มีการถอนฟ้องคดีออกไปแล้วในปี พ.ศ.2566 ต่อมา ทนายกฤษฎา พยายามสืบหาแหล่งที่มาของเงินในโครงการ SML

'นักธุรกิจ' โวยที่ดินมรดกพ่อถูกยึดสร้างศาลา

 

โดยทางอำเภออ้างว่า ประมาณ ปี พ.ศ.2548-2549 รัฐบาลได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้านและชุมชน (SML)เพื่อแก้ไขปัญหาในหมู่บ้านและชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพโดยมีเป้าหมายสำคัญของโครงการคือ การให้งบประมาณแก่ประชนชนเพื่อแก้ไขปัญหา สร้างประโยชน์ส่วนรวมของหมู่บ้านและชุมชน เพื่อเอื้อต่อการมีอาชีพและการมีงานทำของส่วนรวม รัฐบาลจึงจัดทำโครงการนี้เพื่อให้เงินอุดหนุนโดยตรงสู่ประชาชน โดยอ้างว่า ชุมชนหมู่ 9 ที่ตั้งศาลา ได้รับเงินในโครงการ SML จำนวน 200,000 บาท และหน่วยงานรัฐได้ส่งมอบเงินจำนวนนี้ให้แก่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้าน หมู่ที่ 9  เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ตนพบข้อพิรุธในการเบิกจ่ายเงินเพราะ ไม่มีหลักฐานรายงานการประชุมเพื่อคัดเลือกคณะกรรมการโครงการกองทุน หมู่ที่ 9  และไม่มีหลักฐานการ

ส่งมอบเงินจำนวน 200,000 บาท โดยนายอำเภอ หรือนายกเทศมนตรี หรือผู้แทน เป็นผู้ลงนามรับรอง และไม่พบหลักฐานที่ทางอำเภอแจ้งต่อสำนักงาน SML เพื่อขออนุมัติเงินจากคณะกรรมการ SML เพื่อโอนเงินงบประมาณดังกล่าวลงไปในพื้นที่ชุมชนโดยเฉพาะในชุมชนหมู่ที่ 9 นั้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่าคณะกรรมการชุมชนหมู่ที่ 9 ได้แจ้งทางอำเภอให้โอนเงินจำนวน 200,000 บาทไปเข้าบัญชีธนาคารใดและผู้รับเงินคือใคร แต่ที่แน่ๆคือ เงินจำนวน 200,000 บาท สร้างศาลาได้เพียงมีเสาสี่ต้นและหลังคา แต่ไม่มีผนัง จึงไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้เลยจากเงินหลวงจำนวน 200,000 บาท

'นักธุรกิจ' โวยที่ดินมรดกพ่อถูกยึดสร้างศาลา

 ในวันนี้ผู้เสียหายต้องการล้อมรั้วในที่ดินซึ่งได้มีการรังวัดสอบเขตโดยเจ้าหน้าที่รังวัด จะล้อมรั้วภายในขอบเขตที่ดินซึ่งได้มีการรังวัดโดยถูกต้องแล้ว ส่วนตัวศาลาดังกล่าวผู้เสียหายจะไม่ล้อมรั้วปิดกันเพราะกำลังมอบหมายให้ตนฟ้องขับไล่บุคคลที่อ้างตนว่าเป็นผู้ใช้เงินหลวงมาสร้างศาลา และตนจะต้องสืบให้ได้ว่า การใช้เงินจำนวน 200,000 บาท มาสร้างศาลาดังกล่าวมีการทุจริตเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร นอกจากนี้ตนจะต้องสืบหาบริเวณอื่นๆในอำเภอบางปะกงด้วยว่า มีการนำเงินในโครงการ SML หรือโครงการรัฐอื่นๆไปใช้โดยมิชอบ ผิดระเบียบและไม่โปร่งใสหรือไม่ ทนายกฤษฎา กล่าวทิ้งท้ายผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทนายกฤษฎา ได้ทำหนังสือลงทะเบียนแจ้งให้ทางอำเภอบางปะกงทราบว่าวันเวลานี้จะลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดินบริเวณที่ตั้งศาลาประชาคม ที่ระบุว่าเป็น'ศูนย์บริการรับเรื่องราวร้องทุกข์' ชื่อหมู่บ้านปลายคลอง หมู่ 9 ตำบลบางวัว อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เบอร์โทร.081-94449952

เมื่อผู้สื่อข่าวโทรศัพท์เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรแต่ไม่มีคนรับสาย ท้ายนี้ทนายกฤษฎา แจ้งเพิ่มเติมหากพี่น้องประชาชนที่มีปัญหาเดือดร้อนไม่ว่าจะเป็นที่ดินหรือข้อกฎหมายอื่นใดสามารถขอความช่วยเหลือมาที่ตนได้ตลอดเวลา

 

'นักธุรกิจ' โวยที่ดินมรดกพ่อถูกยึดสร้างศาลา

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ