ข่าว

'บิ๊กโจ๊ก' เคลียร์ปมร้อน 'ชูวิทย์' โยงสัมพันธ์ทนายคนดัง

'บิ๊กโจ๊ก' เคลียร์ปมร้อน 'ชูวิทย์' โยงสัมพันธ์ทนายคนดัง

24 เม.ย. 2566

"บิ๊กโจ๊ก" พูดแล้วเคลียร์ปม "ชูวิทย์" โยงสนิท "ทนายตั้ม" แค่รู้จัก ทนายท่านหนึ่ง ชี้ภาพถ่ายร่วมเฟรมเป็รูปเก่า งานวันเกิดภรรยา แจงเรื่องปกติ ตำรวจติดดินคนทุกวงการเข้าถึงได้ พร้อมส่งสัญญาณ ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว ต้องมีคนรับผิดชอบ

24 เม.ย. 2566 พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กโดยระบุว่าตนรู้จักกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม มีความสนิทกันมากขนาดสามารถให้ตำรวจท่องเที่ยวช่วยยกระเป๋าเดินทางได้นั้น

 

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือ บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่าตนรู้จักกับทนายตั้มมานานแล้วและไม่ใช่เพียงแค่ทนายตั้มคนเดียว ยังมีทนายคนอื่นๆ ทั้งที่มีชื่อเสียงและไม่มีชื่อเสียงรวมถึงตัวนายชูวิทย์เอง ส่วนตัวจึงมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่มีสาระ

 

 

 

ชูวิทย์ โพสต์ภาพ ทนายตั้มสนิทสนมกับบิ๊กโจ๊ก

 

 

ส่วนในภาพเป็นงานวันเกิดของภรรยาตัวเอง ซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วง 5 ปีที่แล้ว ไม่ได้จัดใหญ่และไม่ได้เชิญใครแต่ทนายตั้มทราบข่าวจึงเดินทางมา เพราะสนิทกันมานานแล้วตั้งแต่สมัยทำคดีทุจริตที่ทนายตั้มนำข้อมูลมาให้ แต่หลังจากนั้นอีกฝ่ายจะไปทำอะไรตัวเองก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้จักกันในลักษณะเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง

 

เพราะการไป ตำรวจต้องรู้จักคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นโจรเป็นคนดี ถ่ายรูปได้กินข้าวด้วยกันได้เพราะตำรวจไม่เหมือนศาลที่ต้องวางตัวสูง ต้องรู้จักคนเพื่อให้ได้ข้อมูล แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่รู้จักกับตัวเองแล้วจะสามารถนำไปหาประโยชน์ได้

 

 

ชูวิทย์ ระบุ ทนายตั้มสนิทกับ บีิกโจ๊ก ถึงขึ้นให้ ตร.ท่องเที่ยวช่วยยกกระเป่าได็

 

 

ส่วนกรณีที่มีภาพตำรวจไปเข็นรถอำนวยความสะดวกให้ในสนามบิน รอง ผบ.ตร.ยืนยันว่าไม่ใช่ลูกน้องของตัวเอง ตัวเองเป็นคนที่เคร่งครัด ทนายตั้มก็ไม่ได้มีอิทธิพลกับตัวเองขนาดที่จะต้องไปเชิดชูเทิดทูน ต้องเป็นหน้าที่ของผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยวที่จะต้องไปพิสูจน์ให้ได้ ต้องลงโทษและตามหาให้ได้ว่าใครเป็นคนสั่งให้กระทำในลักษณะนั้น ต้องเป็นคนรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง การไปรับไปหิ้วกระเป๋าให้กับคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่สมควร เพราะเป็นตำรวจ