ข่าว

จับอาการ"ม็อบสามนิ้ว" หลังถูกทลายนั่งร้าน สะเทือนถึงคนเบื้องหลัง

04 ต.ค. 2564

ตอนนี้จังหวะขยับปลุกมวลชน"ม็อบสามนิ้ว"นั้น จะพบเพียงการเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล แต่แทบไม่กล้ามายืนกับผู้ชุมนุม

"เมื่อต้นปีนี้เป็นช่วงเวลาที่"ม็อบ3 นิ้ว" เริ่มแผ่วลง เพราะแกนนำ ทั้งม็อบ และ การ์ด ทยอยกันเข้าไปอยู่ในเรือนจำ.... 

....แต่ม็อบจะต้องมีต่อไป เพื่อกดดันไม่ให้รัฐบาล ทำอะไรได้สะดวก บางพวกก็ออกมาทำม็อบเพื่อ หาเสียงให้พรรคการเมืองตั้งใหม่...."  

 

เนื้อความข้างต้น เป็นบางห้วงบางตอนการวิเคราะห์สถานการณ์"ม็อบสามนิ้ว"  ตามที่"พล.ท.นันทเดช  เมฆสวัสดิ์" อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.)  โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว 

 

นั่นเป็นการสะท้อนสถานการณ์การเคลื่อนไหวของมวลชน"ม็อบสามนิ้ว"ที่เหลืออยู่ในปัจจุบันได้อย่างเด่นชัด 

 

จากความพยายามของกลุ่มนักการเมือง นักวิชาการ ที่มีแนวคิดปฏิรูปสถาบัน ด้วยการจุดชนวนจากการขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปเสียก่อน  โดยพยายามหล่อหลอมแนวความคิดให้กลุ่มคนรุ่นใหม่  ด้วยการอ้างว่า เป็นการแสดงออกซึ่งสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตย   มีการผลิตกิจกรรมสร้างความเกลียดชังผู้มีอำนาจรัฐผ่านสื่อโซเชียลเพื่อให้เกิดภาพจำฝังลึกลงในสมอง  ซึ่งในช่วงแรกๆ ดูได้ผล มีผู้ติดตามจากหลากพื้นที่   

 

แต่ระยะหลังเริ่มแผ่วลงเรื่อยๆ เพราะเหตุจากการระเบิดความรุนแรง จนไม่อยู่ในสภาพควบคุมคำว่า "สิทธิเสรีภาพการแสดงออก ต้องอยู่ภายใต้กรอบกติการัฐธรรมนูญ"   

 

จับอาการ\"ม็อบสามนิ้ว\" หลังถูกทลายนั่งร้าน สะเทือนถึงคนเบื้องหลัง

 

หากมองไปวันก่อนจะพบว่าคีย์แมน"ม็อบ"มากันเพียบและพร้อมขยับกันทุกวี่วัน แต่เมื่อเจอข้อกล่าวหาต่างๆนานา บางคนไปรับทราบข้อกล่าวหาและขอประกันตัว แล้วอยู่นิ่งๆ   บางคนวืดประกันต้องไปอยู่เรือนจำหลายวันกว่าจะได้การประกันตัว   บางคนเข้าๆออกๆหลายรอบแล้วไม่เข็ดแถมยังใช้สื่อออนไลน์ปั่นกระแส แม้ตัวเองจะอยู่ในทัณฑสถาน

 

เอาง่ายๆเบอร์ใหญ่อย่างณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ-บก.ลายจุด-ทราย เจริญปุระ-น้องมายด์-รุ้ง ปนัสยา ฯลฯ ตอนนี้จังหวะขยับปลุกมวลชนนั้น จะพบเพียงการเคลื่อนไหวในโลกโซเชียล แต่แทบไม่กล้ามายืนกับผู้ชุมนุม

 

จับอาการ\"ม็อบสามนิ้ว\" หลังถูกทลายนั่งร้าน สะเทือนถึงคนเบื้องหลัง

 

เนื่องจากข้อกล่าวหาติดตัวเป็นหางว่าว และหากไปเพิ่มกระทงความผิดก็คงไม่ใช่ผลดีกับตัวเองเท่าที่ควร

 

รวมทั้งเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษชนทั้งในและต่างประเทศ แทบจะเงียบสนิทในการเรียกร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรงกับ  ผู้ชุมนุม

 

หรือแม้แต่ผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกลก็แทบไม่เจอการไปสังเกตการณ์ในการชุมนุมรายวัน แต่มักจะโชว์เก๋าบนพื้นที่ออนไลน์ของตัวเองหรือบนโพเดียมย่านเกียกกาย

 

ที่น่าขำเล็กๆ  คือยามที่กล่าวหาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ใช้กำลังเกินกว่าเหตุแต่เมื่อมีการแสดงหลักฐานและพฤติการณ์แห่งคดีกับผู้ถูกกล่าวหาครั้งใด ส.ส.ขั้วสีส้มไม่เคยออกมาแสดงความรับผิดชอบกับกายกรรม-นโนกรรม-วจีกรรมที่พาดพิงตำรวจในเชิงเสียหายเลย
แบบนี้แปลว่าม็อบสามนิ้วโดนเท....?

เพราะตอนนี้บรรดาบุคคล-องค์กรที่ระบุในข้างต้นน่าจะรู้ดีแก่ใจว่าบรรดาผู้ชุมนุม-เยาวชนที่ขับขี่รถยนต์-จักรยานยนต์ในช่วงเย็น-ดึกดื่นปั่วนเมืองด้วยหนังสติ๊ก-ลูกแก้ว-ก้อนหิน-ประทัด-พลุ-และระเบิดปิงปองที่ประกอบเอง แม้แต่ปืนก็โดนรวบมาเรื่อยๆ  โดยจะพบว่าการป่วนเมืองของมวลชนสามนิ้วนั้น ความเสียหายในทรัพย์สินทางราชการรวมทั้งชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ปรากฏเนืองๆ จนวันนี้ชาวบ้านร้านตลาดได้รับผลกระทบหลายเรื่องจากการชุมนุมคราวนี้

 

จับอาการ\"ม็อบสามนิ้ว\" หลังถูกทลายนั่งร้าน สะเทือนถึงคนเบื้องหลัง

แม้มวลชนสามนิ้วจะมีการอ้างว่าเดือดร้อนจากรัฐบาลชุดนี้และไม่มีการสนองตอบในสามข้อเรียกร้องตั้งแต่ปีที่แล้ว-ปัจจุบัน การใช้ความรุนแรงในการชุมนุมจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ชุมนุมต้องแสดงออก...แต่ถามจริงๆหากมีการสนองตอบจากบางฝ่าย ใครคือตัวแทนแกนนำม็อบสามนิ้วที่จะไปเจรจา?เพราะในแต่ละการชุมนุมจะพบการเขม่นกันเองเนืองๆจากคนที่อ้างว่าตัวเองคือแกนนำการชุมนุม และในความจริงทางกฎหมายแล้วหากพิสูจน์ทราบว่าใครเป็นแกนนำการชุมนุมนั้น ฐานความผิดจะทวีคูณ แบบนี้ใครจะกล้าออกตัว

 

แปลความว่าไร้การรับผิดชอบจากการสั่งการชุมนุม เพราะรู้อยู่แล้วว่า คุมไม่ได้-เสี่ยงสูงแบบอัตราทวีคูณกับฐานความผิด

 

มีการพูดกันว่า การรับงานคุมการชุมนุมในพื้นที่ลับ น้ำเลี้ยงจากท่อของใครบางคนก็พอเพียงที่จะดำรงชีวิตดีระดับหนึ่ง ดังนั้นมันดีกว่าไปแสดงตัวแล้ววันข้างหน้าต้องไปใช้ทรัพย์สินส่วนตัว-ภาษีจากสังคมในการบำรุงตนในพื้นที่ที่รัฐจัดให้ 

 

จับอาการ\"ม็อบสามนิ้ว\" หลังถูกทลายนั่งร้าน สะเทือนถึงคนเบื้องหลัง

 

มันคุ้มไหม..แกนนำม็อบหลังม่านน่าจะรู้ดี?

 

เพราะวันนี้เพนกวิ้น-ไมค์ ระยอง-ไผ่ ดาวดิน-อานนท์ นำภา ฯลฯ เป็นตัวอย่างที่แกนนำม็อบหลังม่านทราบดี..เพราะคนเหล่านี้เข้าๆออกๆในพื้นที่โลกออนไลน์-บ้านพัก-พื้นที่ชุมนุม-โรงพัก-ศาล-เรือนจำ เวียนไปวนมาหลายรอบ แม้จะมีการปลุกมวลชนให้"ปล่อยเพื่อนเรา"แต่ตอนนี้กระแสนี้ดังหรือแผ่ว? หลายคนน่าจะทราบดี

 

การชุมนุมในวันต่อๆไปของม็อบสามนิ้วจะหยุดป้ายนี้-ได้ไปต่อด้วยความแผ่วปลายหรือคึกคักนั้น....

 

แกนนำและผู้จ่ายน้ำเลี้ยงน่าจะรู้ดีแก่ใจว่า ควรเลือกเส้นทางใด...

 

ยิ่งยุยงไปในทางสร้างความรุนแรงมากขึ้นเท่าไหร่  ยิ่งเสื่อมกินตัวมากขึ้นเท่านั้น

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง