คอลัมนิสต์

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !! : คอลัมน์ขยายปมร้อน  โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์



          ท่ามกลางเสียงวิเคราะห์วิจารณ์เรื่องยุบพรรคเพื่อไทยที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง “ทักษิณ ชินวัตร” ก็โผล่ออกมาแสดงความเห็นทางการเมืองอีกครั้ง

          “การปกครองโดยทหารอาจถึงจุดจบ หากฝ่ายประชาธิปไตยได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรรวมกันมากกว่า 300 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่ง รัฐบาลจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่สามารถผ่านงบประมาณ และยังต้องเจอกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่วุฒิสภาไม่มีส่วนในการลงคะแนน รัฐบาลก็จะล่มในไม่กี่สัปดาห์ ไม่ใช่ภายในหลายๆ เดือน” เนื้อหาการให้สัมภาษณ์ของอดีตนายกฯ ทักษิณ ผ่านสำนักข่าวของญี่ปุ่น ระหว่างการเดินทางมาที่ฮ่องกง

          ในการออกมาให้สัมภาษณ์ของทักษิณ มี 2 ประเด็นที่น่าสนใจ

          หนึ่ง คือ ยิ่งเป็นการย้ำความเกี่ยวข้องของเขากับพรรคเพื่อไทย ตอกย้ำความเป็น “เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง” ซึ่งโยงไปถึงเรื่อง “ยุบพรรคเพื่อไทย” ที่ยังคงถูกจับตาอยู่ว่าจะเกิดขึ้นจริงไหม หรือจะเกิดขึ้นเมื่อไร

          “ภูมิธรรม เวชยชัย” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย รีบออกมาบอกทันทีว่าการแสดงความคิดเห็นของทักษิณ เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค

          เรื่องยุบพรรคตอนนี้มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่เกี่ยวกับทักษิณ กับส่วนที่ไม่เกี่ยวกับทักษิณ

 

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

(อ่านต่อ...ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ !! ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะ "ทักษิณ")

 

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

(อ่านต่อ...พลิกกฎหมาย!! ยุบพรรคเพื่อไทย ไล่ออกจากสนาม ??)


          ที่เกี่ยวกับทักษิณ คือ ประเด็นการครอบงำพรรค ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทาง กกต.ก็จับจ้องอยู่ และที่ไม่เกี่ยวกับทักษิณ คือที่ 8 แกนนำพรรคเพื่อไทยโดน คสช.แจ้งความดำเนินคดีอยู่

          ล่าสุดกองปราบฯ ได้ส่งสำนวนฟ้อง 3 แกนนำพรรคเพื่อไทย คือ จาตุรนต์ ฉายแสง, วัฒนา เมืองสุข และ ดร.ชูศักดิ์ ศิรินิล ในข้อหาผิดกฎหมายอาญามาตรา 116 คือยุยงปลุกปั่น จากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในวาระ 4 ปี คสช.

 

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

(อ่านต่อ..."วัฒนา-จาตุรนต์-ชูศักดิ์" พบอัยการ คดีปลุกปั่น ล้ม คสช.)


          ข้อหาตามมาตรา 116 นี้ สามารถโยงไปถึงยุบพรรคเพื่อไทยได้ แต่ก็ต้องบอกว่าถ้าจะยุบเพื่อไทยเพราะเหตุนี้ ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน เบื้องต้นแค่กระบวนการในศาล 3 ศาล คือ ชั้นต้น อุทธรณ์ ฎีกา อย่างน้อยก็คงต้องใช้เวลาถึง 2 ปี จบจากกระบวนการศาล ถ้าศาลฎีกาชี้ว่าผิดจริง กกต.จึงจะสามารถไปตั้งเรื่องส่งไปให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคได้


          ฉะนั้นถ้าจะยุบเพราะกรณีแกนนำก็ต้องมองเกมยาว หลังเลือกตั้ง หลังมีรัฐบาลใหม่ไปแล้ว

          แต่สำหรับข้อหา “ครอบงำพรรค” ถ้ามีหลักฐานชัด ใช้เวลาไม่นาน เพราะ กกต.สามารถชงเรื่องไปศาลรัฐธรรมนูญได้เลย

          อีกประเด็นที่น่าสนใจจากการออกมาของทักษิณ คือ เรื่องจำนวน ส.ส. 300 คน

          ทักษิณ บอกว่า ถ้าพรรคฝ่ายประชาธิปไตยได้ ส.ส.รวมกันมากกว่า 300 ที่นั่ง รัฐบาลก็จะล่มภายในไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งก็ต้องบอกว่าเป็นเรื่องจริง

          แต่ถามว่าจะเป็นจริงได้หรือไม่ ที่ “ฝ่ายประชาธิปไตย” ของทักษิณจะได้ ส.ส.มากกว่า 300 ที่นั่ง ?

          ทักษิณ ไม่ได้บอกว่า “ฝ่ายประชาธิปไตย” ที่เขาพูดถึงคือพรรคอะไรบ้าง แต่ถ้าขยายความก็น่าจะหมายถึงพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายพรรคเพื่อ รวมไปถึงพันธมิตร

          นับแล้วก็มี 1.เพื่อไทย 2.เพื่อธรรม พรรคสำรองของเพื่อไทย 3.พรรคประชาชาติไทย ของ “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” 3.พรรคเสรีรวมไทย ของ “พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส” 4.พรรคอนาคตใหม่ของ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ”

 

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

(อ่านต่อ...เอกซเรย์กระดานการเมือง สูตรไหน "ใคร" นายกฯ ?)

 

          เหล่านี้น่าจะฟันธงได้ว่าผูกติดเป็นมิตรกับพรรคเพื่อไทยในทุกสถานการณ์

          ส่วนพรรคเพื่อชาติ ที่ “จตุพร พรหมพันธุ์” และ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” กำลังพยายามจะปลุกปั้น ต้องรอดูอีกหน่อยว่าจะเป็นพรรค “เพื่อทักษิณ” ด้วยหรือไม่

 

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

(อ่านต่อ...อ่วม!! "ตู่" 10 ปี "ยงยุทธ" ตลอดชีวิต สมัคร ส.ส.ไม่ได้!!)

 

          รวมไปถึงพรรค “พร้อมเสียบ” อย่างภูมิใจไทยของ “อนุทิน ชาญวีรกุล” และ ชาติไทยพัฒนา ของ “วราวุธ ศิลปอาชา” ที่มีข่าวว่าจับมือกันแบบหลวมๆ เพื่อเพิ่มอำนาจในการเจรจาต่อรอง ถ้า “ตัวเลข” และ “ผลประโยชน์” ลงตัว ก็มองข้ามไม่ได้

          กลับไปพิจารณาที่ตัวเลข 300 ที่ทักษิณพูดถึงว่าจะเป็นจริงได้ไหม

          ต้องบอกว่า ลำพัง 4 พรรคแรกไม่ถึง 300 แน่ แต่ถ้าพูดแค่ตัวเลขเกินครึ่ง คือ 251 เสียง มีลุ้น !!

          สำหรับพรรคเพื่อไทย ตอนนี้ตั้งความหวังไว้ที่ประมาณ 220 ที่นั่ง คือ ส.ส.เขต 200 และ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อีกสัก 20 ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ซะทีเดียว

          ไปรวมกับพรรคของวันนอร์ เสรีพิศุทธ์ และธนาธร ก็ได้ลุ้นถึงครึ่งสภา

          แต่ถ้าได้พรรคภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา เข้ามาด้วย ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ที่จะถึง 300 เสียง

          หากเพื่อไทยและพันธมิตรสามารถรวมกันได้เกินครึ่ง ก็จะได้ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนฯ ซึ่งจะเป็นประธานรัฐสภาด้วย ไปครอง

          ในทางการเมือง หากประธานสภาอยู่ฝั่งไหน หมายถึงสามารถคุมเกมในสภาได้

          แน่นอน 251 เสียงไม่สามารถทำให้ฝ่ายนี้เป็นนายกฯ ได้ เพราะการเลือกนายกฯ ต้องมี ส.ว. 250 เสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง คนได้เป็นคนนายกฯ ต้องได้เสียงสนับสนุนเกินครึ่งหนึ่งของสองสภารวมกัน คือ เกิน 375 เสียง

 

ไม่ต้องถึง 300 แค่ 251 "บิ๊กตู่" ก็อยู่ไม่ได้แล้ว !!

(อ่านต่อ...คณิตศาสตร์การเมือง... "ตัวเลข" ในเกมหนุน "บิ๊กตู่")

 

          แต่ถ้าอีกฝ่ายจะตั้งรัฐบาลโดยฝั่งเพื่อไทยมี 251 เสียง ที่มีตำแหน่งประธานสภาด้วย รัฐบาลก็จะอยู่ไม่ได้แน่นอน เปิดสภาปุ๊บ ถ้าฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจซึ่งสามารถทำได้เลย รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้แล้ว

          ยังไม่ต้องคิดว่า ถ้า 4 พรรคแรกได้ถึงครึ่งแล้วพรรคภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาจะเข้ามาซบเพิ่ม แม้ได้ไม่ถึงครึ่ง คือแค่สัก 230-240 เสียง “พล.อ.ประยุทธ์” ก็คงคิดหนักแล้ว

          นึกภาพไม่ออก กับวันที่ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ แล้วถูกฝ่ายค้านที่ฝังแค้นอภิปรายลากไส้ในสภา จะทนได้จริงหรือ ??

=========

ดูคลิป...[LIVE] “ทักษิณ” ขยับ การเมืองกระเพื่อม

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ