คอลัมนิสต์

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ !! ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะ "ทักษิณ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อย่าได้คิดว่ากระแสข่าวที่เหมือนเป็นการ "ขู่" ยุบพรรคเพื่อไทย อันเนื่องมาจากความเคลื่อนไหวของ "ทักษิณ" จะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะมีกฎหมายชัดเจน...มาดูกัน !!

 

                 อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะ สำหรับกรณีที่รักษาการเลขาธิการ กกต. “พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา” ออกมาพูดเรื่องที่อดีต ส.ส.และแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางไปพบ “ทักษิณ” และ “ยิ่งลักษณ์” อดีตนายกรัฐมนตรีที่สิงคโปร์ว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่

                 “ต้องดูว่าเข้าลักษณะ การครอบงำโดยบุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคหรือไม่ เพราะตามกฎหมายพรรคการเมืองไม่ให้ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว”  นี่คือคำพูดของรักษาการเลขาธิการ กกต.

                 พลิกดูกฎหมายพรรคการเมืองตามที่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ บอก พบว่ามีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อยู่หลายมาตรา

                 มาตราแรก คือ มาตรา 28 ระบุว่า ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

                 ต่อมาคือมาตรา 29  ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทําการใดอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม

                 เรียกว่า มีข้อบังคับ “พรรคการเมือง” และบังคับ “บุคคล” คือ ทั้งห้ามไม่ให้พรรคปล่อยให้มีคนมาทำ และห้ามไม่ให้คนกระทำการดังกล่าวต่อพรรค

                 เมื่อกำหนดเป็นข้อห้าม ก็ต้องมีบทกำหนดโทษ และเมื่อกำหนดข้อห้ามไว้ทั้งส่วนที่เป็นพรรคและส่วนที่เป็นบุคคล บทลงโทษจึงมีทั้งสองส่วนเช่นกัน

 

 

               มาตรา 108 กำหนดโทษไว้สำหรับ “บุคคลที่ทำผิด” ในกรณีนี้ไว้ว่า “ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น”

                  ย้ำ ติดคุก 5 – 10 ปี และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งหมายถึงห้ามลงสมัคร ส.ส.ตลอดชีวิต !!

                 ส่วน “พรรคการเมือง” มีกำหนดบทลงโทษไว้ในมาตรา 92 ซึ่งเรื่องนี้เป็นเหตุหนึ่งที่คณะกรรมการการเลือกตั้งสามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองได้

                 โทษถึงยุบพรรคการเมือง !!

                 และนอกจากศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งยุบพรรคการเมืองแล้ว ยังให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น

                 นั่นคือ ห้ามกรรมการบริหารพรรคลงสมัคร ส.ส.อีก ตลอดชีวิต!! (ยกเว้นต่อไปมีการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองใหม่) ไม่ใช่แค่ 5 ปีอย่างที่เคยโดนกันมา

                 นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนด ห้ามมิให้บุคคลใดใช้ชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองซ้ำ หรือพ้องกับชื่อ ชื่อย่อ หรือภาพเครื่องหมายของพรรคการเมืองที่ถูกยุบนั้น และห้ามไม่ให้ผู้ซึ่งเคยเป็นกรรมการบริหารของพรรคนั้นไปจดทะเบียนพรรคการเมืองขึ้นใหม่ หรือเป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือมีส่วนร่วมในการจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นใหม่อีก ภายในสิบปี

                 สรุปบทลงโทษที่สำคัญ คือ จำคุก 5-10 ปี สำหรับคนที่ทำผิด ส่วนพรรคที่ทำผิด ต้องถูกยุบ และคนที่ทำผิด และกรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบจะสมัคร ส.ส.อีกไม่ได้ !!

 

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ !! ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะ "ทักษิณ"

                 สำหรับบทบัญญัติดังกล่าวที่เขียนไว้ในกฎหมายพรรคการเมืองนั้น เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 45 ที่กำหนดว่า  “บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการรวมกันจัดตั้งพรรคการเมืองตามวิถีทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามที่กฎหมายบัญญัติ

                 กฎหมายตามวรรคหนึ่งอย่างน้อยต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการบริหารพรรคการเมือง ซึ่งต้องกําหนดให้เป็นไปโดยเปิดเผยและตรวจสอบได้ เปิดโอกาสให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการกําหนดนโยบายและการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และกําหนดมาตรการให้สามารถดําเนินการโดยอิสระไม่ถูกครอบงําหรือชี้นําโดยบุคคลซึ่งมิได้เป็นสมาชิกของพรรคการเมืองนั้น รวมทั้งมาตรการกํากับดูแลมิให้สมาชิกของพรรคการเมืองกระทําการอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง”

                 เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเพิ่มขึ้นมาในรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ ก็ต้องบอกว่า เป็นการเขียนเอาไว้เพื่อจัดการกับ “ทักษิณ” นั่นแหละ

                 ย้อนกลับไปปี 2556 เคยมีการยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคเพื่อไทยจากกรณีที่ "ทักษิณ" สไกป์มาในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยเกี่ยวกับเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตามเนื่องจากตอนนั้นไม่ได้มีบทบัญญัติห้ามคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกมายุ่งเกี่ยวไว้ ครั้งนั้นจึงทำได้เพียงร้องแบบอ้อมๆ คือ โดยร้องว่าเป็นการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ จึงเข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา  68 (รัฐธรรมนูญ 2550) ซี่งในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้สั่งยุบพรรค

                 ด้วยความที่ไม่มีบทบัญญัติห้ามคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคมาครอบงำพรรค ในการเลือกตั้งปี 2554 และช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ จึงเกิดสโลแกนที่ว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”

                 แต่ต่อไปนี้พรรคเพื่อไทยจะทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว ในการเลือกตั้ง ไม่สามารถเอาทักษิณไปขายได้ และต้องระวังไม่ให้มีการทำด้วย เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเหตุให้ถูกร้องยุบพรรคได้

                 ดูตามกฎหมายแล้ว บอกได้เลยว่า เรื่องยุบพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ต้องบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงด้วยซ้ำ

                 กรณีล่าสุด การปรากฏภาพอย่างที่ “วัน อยู่บำรุง” เอามาโพสต์ล่าสุดหลังเดินทางไปพบทักษิณ และยิ่งลักษณ์ ที่สิงคโปร์พร้อม "เฉลิม อยู่บำรุง" ผู้เป็นพ่อ ก็บอกว่าชวนหวาดเสียวได้ (อ่านต่อ...เฉลิม-วันโพสต์ภาพถ่ายคู่ "ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์")

 

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ !! ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะ "ทักษิณ"

 

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ !! ยุบพรรคเพื่อไทย เพราะ "ทักษิณ"

                 จุดเริ่มต้นของกฎหมายนี้ ชัดเจนว่ากำหนดขึ้นมาเพื่อเป็นอีกเครื่องมือที่จะจัดการกับ “ทักษิณ” ตอนนี้ก็รอดูเพียงว่า “ดาบ” นี้จะถูกหยิบมาใช้จริงหรือไม่

                 นี่แค่ดูตามข้อกฎหมายที่เขียนเปิดทางไว้ ยังไม่ได้คิดถึง “อำนาจพิเศษ” ตามมาตรา 44 ในมือ "บิ๊กตู่" อีกต่างหาก !!

 

-----------------------------

โดย สมฤทัย ทรัพย์สมบูรณ์

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ