ข่าว

กต.แรงงานใน 'อิสราเอล' แจ้งขออพยพกลับแล้ว 1,099 คน ขณะที่ 11 คนไทย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กระทรวงการต่างประเทศ" เผยแรงงานไทยใน "อิสราเอล" แจ้งขออพยพกลับแล้ว 1,099 คน มี 11 คนไทยถูกจับเป็นตัวประกัน เร่งประสานหาทางช่วยเหลือ ส่วนผู้เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการ 12 ราย

9 ต.ค. 2566 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ตะวันออกกลาง ซึ่งคนไทยในอิสราเอลได้รับผลกระทบบาดเจ็บ 8 คน ซึ่งถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว  นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกจับตัวเป็นตัวประกันอีก 11 คน ส่วนแรงงานไทยที่เสียชีวิตอย่างไม่เป็นทางการ ที่ได้รับแจ้งจากนายจ้างจำนวน 12 ราย  

 

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิต และถูกจับเป็นตัวประกัน ทางการอิสราเอล ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดทั้งชาวอิสราเอล และชาวต่างชาติ  เนื่องจาก ยังอยู่ในสถานการณ์ที่มีการสู้รบกันอยู่ และมีการปิดสถานศึกษาทั่วอิสราเอล ขณะที่ร้านค้าบางแห่งปิดทำการ ยกเว้นในตอนกลางของประเทศที่ยังเปิดทำการอยู่บ้าง แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ก็จำเป็นต้องหลบในหลุมหลบภัย 


 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ในอิสราเอล

 

 

ส่วนการประสานขอความช่วยเหลือจากมาเลเซีย และปาเลสไตน์ เพื่อช่วยเหลือตัวประกันซึ่งเป็นคนไทย จำนวน 11 คนนั้น ขณะนี้ยังรอการรายงานจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียอยู่  และกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้ประสานสถานทูตไทยในประเทศอื่นๆ ด้วย เพื่อหาช่องทางการประสานงานติดต่อความช่วยเหลือต่างๆ รวมถึงตรวจสอบในกระแสข่าวที่มีรายงานว่า แรงงานไทยส่วนหนึ่งได้รับการปล่อยตัวแล้ว 

 

ในส่วนของการอพยพคนไทยในอิสราเอลนั้น  กองทัพอิสราเอล ได้เริ่มอพยพคนไทยจากพื้นที่เสี่ยงภัย ไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว ส่วนการอพยพกลับประเทศไทยนั้น เมื่อวานนี้  (8 ต.ค. 2566 ) มีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมถึงการเตรียมการ โดยเฉพาะอากาศยานของกองทัพอากาศ ซึ่งหากสถานการณ์พร้อม ทั้งวันเวลา เส้นทาง และหนังเดินทางราชการ ก็สามารถปฏิบัติการณ์ได้ทันที

 

 

 

แม้ว่าทางการอิสราเอล จะระบุสถานการณ์ยังไม่จำเป็นต่อการอพยพ แต่หากพลเมืองไทยต้องการอพยพ ก็พร้อมอำนวยความสะดวกให้ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้แจ้งให้แรงงานไทยในอิสราเอลรับทราบแล้ว และมีแรงงานไทย แสดงความประสงค์จะเดินทางกลับไทยแล้วจำนวน 1,099 คน และปฏิเสธการเดินทางกลับ 22 คน จากแรงงานไทยในอิสราเอลทั้งหมดกว่า 30,000 คน ซึ่งเป็นคนไทยที่อยู่ในบริเวณฉนวนกาซา ประมาณ 5,000 คน 

 

 

 

ส่วนขั้นตอนภายหลังแรงงานไทยแสดงความจำนงขอเดินทางกลับประเทศนั้น จะดำเนินการตามแผนอพยพเพื่อย้ายคนไทยมายังพื้นที่ปลอดภัยก่อน โดยการดำเนินการ ก็จะต้องคำนึงถึงสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่ด้วย ส่วนจะประสานไปยังประเทศใกล้เคียง เพื่อให้อากาศยานของไทยไปจอดเพื่อเตรียมความพร้อมรับคนไทยกลับไว้ก่อนหรือไม่นั้น ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ได้มีการพูดคุยกัน เช่น ประเทศจอร์แดน และประเทศอื่น ๆ และการใช้เครื่องบิน ทั้งของกองทัพ เครื่องบินพาณิชย์ และการเช่าเหมาลำ ก็ถือเป็นทางเลือก แต่ก็จะต้องขึ้นอยู่กับจำนวนของผู้อพยพ พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลมีความพร้อมในการดูแลผู้อพยพ ทั้งการเตรียมการหน่วยแพทย์ เพื่อดูแลผู้บาดเจ็บต่าง ๆ ระหว่างการเดินทางกลับ

 

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอล รายงานสถานการณ์ให้คณะทูตานุทูตต่างประเทศประจำอิสราเอลผ่านทางออนไลน์ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ และลดความกังวล และย้ำว่า ท่าอากาศยานของอิสราเอล ยังคงเปิดทำการปกติ แต่มีเที่ยวบินเหลือร้อยละ 50 จากปกติก่อนเกิดเหตุ

 

อย่างไรก็ตามทางการอิสราเอล ยืนยันว่า อิสราเอลยังคงมีความปลอดภัย ไม่แนะนำให้อพยพ แต่หากประเทศใดประสงค์จะอพยพ ก็สามารถทำได้ และใช้เครื่องบินพาณิชย์อพยพ เพื่อความสะดวกรวดเร็วได้ หรือใช้เครื่องบินอื่น ก็สามารถติดต่อกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลเพื่อประสานงานต่อไปได้ 

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังย้ำว่า รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ เข้าใจถึงความละเอียดอ่อนในสถานการณ์ และการกำหนดท่าทีต่าง ๆ ในภาวะวิกฤต จะต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง รอบคอบ เพราะความรุนแรงที่เกิดขึ้น ไม่สามารถมีใครยอมรับได้ และเกิดขึ้นกับพลเมืองผู้บริสุทธิ์ด้วย และหวังว่า ความรุนแรงต่าง ๆ จะยุติลง และมีการปล่อยตัวพลเมืองผู้บริสุทธิ์ ซึ่งรวมถึงแรงงานจากประเทศไทยด้วย

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ