ข่าว

ลิง "ก็อตซิลล่า" กัดนักข่าวสาวต้องผ่าตัดด่วน อัปเดตล่าสุดแผลติดเชื้อเสี่ยงเข้าไอซียู

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลิง "ก็อตซิลล่า" กัดนักข่าวสาวต้องผ่าตัดด่วน อัปเดตล่าสุดแผลติดเชื้อเสี่ยงเข้าไอซียู เนื่องจากแผลติดเชื้อ

ณัฐชา หน่องพงษ์ ผู้สื่อข่าวสาวช่องพีพีทีวี เล่าเหตุการณ์ถูกลิงแสม "ก็อตซิลล่า" กัดที่นิ้วระหว่างลงพื้นที่ทำข่าวจนเป็นแผลลึก ซึ่งเรื่องนี้นักข่าวสาวยอมรับว่าค่อนข้างที่จะได้รับผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก แต่ด้วยความที่ตนเองถูกพาดพิงเยอะมากจนต้องขอออกมาชี้เเจงเรื่องที่เกิดขึ้น

 

อ่านข่าว : ควันหลงดราม่าเจ้า "ก็อตซิลล่า" หนุ่มฝากกรมอุทยานฯแก้ปัญหาลิงลพบุรีก่อกวนชาวบ้าน

นักข่าวสาวเล่าเหตุการณ์ว่า เจตนาเดียวหลังจากที่ได้รับมอบหมายให้ไปทำข่าวนี้ คือการไปแชร์ความน่ารักของเจ้า "ก็อตซิลล่า" และช่วยหาแนวทางการดูแล เพราะลิงแสมตัวนี้มีน้ำหนักที่มากเกินไป อาจเสี่ยงที่จะเป็นโรคได้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะไปวุ่นวายหรือต้องการให้น้องถูกจับไป

 

โดยเมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. ของวันที่ 24 มีนาคม 2564 เราได้รับมอบหมายงานให้ไปทำข่าว ลิงแสม ที่ชื่อ “ก็อดซิลล่า” ย่านมีนบุรี เราและพี่ในออฟฟิศช่วยกันหาข้อมูลอยู่ประมาณ 15 นาทีจนได้เบอร์ติดต่อเจ้าของคือ คุณลุงมานพ

 

- เรารีบโทรติดต่อไป มีเสียงผู้หญิงรับจึงแนะนำตัวพร้อมกับบอกเจตนา ซึ่งปลายสายแจ้งว่าขอปรึกษากับครอบครัวก่อน เราโอเคไม่เร้าหรือ

 

- ประมาณ 5 นาที เจ้าของติดต่อกลับมาบอกว่าให้เราไปได้เลย มาถึงสัก 09.30 น. นะเพราะจะอาบน้ำแต่งตัวให้น้องก่อนและจะล่ามน้องไว้

 

- ระหว่างนั้นเราโทรหาพี่นักข่าวที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์ป่า เพื่อศึกษาข้อมูล และหาเบอร์คุณหมอ โดยพี่เค้าเตือนเราว่าลิงแสมเป็นสัตว์ป่าอาจจะดุร้าย ให้เราระวังตัว

 

- เวลา 09.30 น.เราไปถึง เจอเจ้าของและน้องนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน ที่ตัวน้องมีเชือกล่ามไว้โดยมีเจ้าของจูงอยู่ เราเดินเข้าไปแนะนำตัวและทักทายตามมารยาท และยืนดูน้องอยู่ห่างๆ

 

- ระหว่างที่พูดคุยกัน เรายืนกอดอกตลอด เพราะกลัวว่ามือไม้จะทำให้น้องตกใจ เราพยายามถามเจ้าของตลอดว่าน้องดุไหม น้องมีพฤติกรรมอย่างไร หวงของไหม ซึ่งตลอดระยะเวลาตรงนั้น เจ้าของพยายามพูดให้เราจับน้องหลายครั้ง (เรามีหลักฐานที่ช่างภาพถ่ายไว้)

 

- ผ่านไปประมาณ 10 นาที เราเริ่มรู้สึกไว้ใจมากขึ้นจึงโน้มตัวลงไปเล็กน้อยเพื่อเรียกชื่อน้อง แต่เชือกที่ถืออยู่หย่อนเกินไป น้องกระโจนขึ้นมาคว้ามือไปกัด

 

- วินาทีนั้นเรารู้แค่ว่ามันแรงมาก หลังจากเห็นแผลเรารู้ทันทีว่าต้องไปหาหมอ สภาพแผลตอนนั้นลึกถึงกระดูก เป็นรอยฉีกขาดขนาดใหญ่ เรารีบเอาเสื้อคลุมพันนิ้วและบอกกับทีมว่า ไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้

 

 

- ไปโรงพยาบาลแรก หมอบอกว่าแผลลึกมาก ซึ่งที่นี่อุปกรณ์ไม่พร้อม จึงให้เราไปรักษาอีกที่ ระแวกใกล้กัน เมื่อถึงโรงพยาบาลที่สอง หมอเรานอนรออยู่ 2 ชั่วโมง กว่าจะได้รับการรักษา ตอนนั้นผลเอกซเรย์บอกว่ากระดูกไม่แตกหัก หมอจึงเย็บแผลปิด

 

- แต่เรารู้สึกว่านิ้วมือขยับไม่ได้และไม่รู้สึก จึงรีบประสานกลับไปทางออฟฟิศเพื่อขอย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลในกรุงเทพ ซึ่งโรงพยาบาลนั้นมีเครื่องสแกน MRI

 

- ปรากฎว่าเมื่อมาถึงโรงพยาบาลที่ 3 หมอแจ้งว่ามีเส้นเอ็นและเส้นประสาทที่ชำรุดต้องผ่าตัดด่วน วันนั้นเราเข้าห้องผ่าตัดตอน 20.00 น. และออกมาตอน 23.00 น. ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี รุ่งขึ้นอีกวันเรากลับมาพักฟื้นที่บ้าน

 

- หลังจากนั้นเราไปล้างแผลและฉีดวัคซีนตลอดที่โรงพยาบาล วันที่ 28 มีนาคม 2564 หมอที่โรงพยาบาลแจ้งว่าแผลติดเชื้อ เพราะแผลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ บวกกับผลเลือดจึงส่งตัวกลับมาที่โรงพยาบาลเดิม

 

- วันที่ 29 มีนาคม 2564 เราเข้าห้องผ่าตัดเป็นรอบที่ 2 คราวนี้เปิดเเผลยาวขึ้น บวกกับผลเลือดเรา เม็ดเลือดขาวเหลือแค่ 3,000 เซลล์/ไมโครลิตร ซึ่งคนปกติควรจะมี 8,000-11,000 เซลล์/ไมโครลิตร ซึ่งอาจจะมาจากการติดเชื้อ

 

- ตอนนี้เรานอนรักษาตัวแบบลุ้นวันต่อวัน ว่าผลเลือดจะลดลงอีกไหม ถ้าแนวโน้มยังลดลงอีก หมายความว่าเราอาจจะต้องย้ายไปรักษาตัวในห้องปลอดเชื้อไอซียู

 

สุดท้ายนี้เราแค่อยากบอกว่า เหตุการณ์นี้ไม่มีใครผิด ทุกอย่างเกิดขึ้นจากความประมาททั้งเราและเจ้าของ เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดและใจเราก็ยังคงแอบเชียร์ให้น้องได้กลับไปอยู่กับคนที่น้องรักพร้อมกับสุขภาพที่ดีขึ้น

 

อ่านข่าว : กรมอุทยานฯ แจงยิบดราม่าพรากเจ้า "ก็อตซิลล่า" ลิงแสมตัวอ้วนฉุไปจากเจ้าของ

 

 
CR เฟซบุ๊ก Pleng Nuthcha

 

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ