สวยงามกลางสายน้ำ แห่งเดียวในโลกไหลเรือไฟนครพนมสุดอลังการ
ผู้สื่อข่าวได้รายงานบรรยากาศการท่องเที่ยวงานประเพณีออกพรรษาไหลเรือไฟและงานกาชาดจังหวัดนครพนม ประจำปี 2563 ระหว่างวันที่ 25 กันยายน - 4 ตุลาคม รวม 10 วัน 10 คืน มีความคึกคักไปด้วยประชาชน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชื่นชมความสวยงามของเรือไฟเพิ่มขึ้นทุกวัน และวันนี้เป็นวันที่ 7 ของงาน
เนื่องจากปีนี้ทางจังหวัดนครพนม มีมาตรการเข้มในการควบคุมป้องกันโรคโควิดระบาด จึงเพิ่มวันประกวดไหลเรือไฟออกเป็น 3 วัน วันแรกคืนวันที่ 30 กันยายนที่ผ่านมา มีการประกวดไหลเรือไฟประเภทความคิดสร้างสรรค์ จำนวน 2 ลำ คือ เรือไฟจากอำเภอนาหว้า และอำเภอวังยาง ซึ่งมีขนาดความยาว 60 เมตร สูงประมาณ 15-25 เมตร ประดับประดาด้วยตะเกียงไฟแบบภูมิปัญญาชาวบ้านเกือบ 10,000 ดวง โดยมีลวดลายตะเกียงไฟทคงเน้นเกี่ยวกับ การเทิดทูนสถาบัน รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอล และสัญลักษณ์สถานที่สำคัญของจังหวัดนครพนม สร้างความสวยงามอลังการ ให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวที่มารอเฝ้าชมเป็นอย่างมาก
ส่วนคืนวันที่ 1 ตุลาคม มีเรือไฟประเภทความคิดสร้างสรรค์ที่ส่งเข้าประกวดอีกจำนวน 3 ลำที่เหลือ คือ 1. เรือไฟจากอำเภอบ้านแพง ความยาว 60 เมตร สูง 16 เมตร ใช้ตะเกียง 15,000 ดวง
2. เรือไฟอำเภอปลาปาก ความยาว 60 เมตร สูง 20 เมตร ใช้ตะเกียง 12,000 ดวง
และ 3. เรือไฟอำเภอนาแก ที่ครองแชมป์ถ้วยพระราชทานปี 2562 ยาว 70 เมตร สูง 24 เมตร ซึ่งเรือไฟลำแรกถูกปล่อยในเวลา 19.30 น. ได้ล่องลอยโชว์ความสวยงามกลางสายน้ำโขง เพิ่มความอลังการด้วยพลุสีต่างๆอีกหลายสิบนัด
ส่วนประชาชนและนักท่องเที่ยวได้จับจองพื้นที่บริเวณเขื่อนริมแม่น้ำโขงตั้งแต่หัววัน เพื่อเลือกที่นั่งชั้นริงไซด์ใกล้ชิดติดขอบรั้วเหล็กกั้น โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นอกเครื่องแบบ บูรณาการตรวจตราอยู่ทุกตารางนิ้ว เพื่อป้องกันมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามา
คืนไฮไลน์ของงานประเพณีออกพรรษา คือคืนวันที่ 2 ตุลาคม จะมีการประกวดเรือไฟประเภทสวยงาม ที่มีขนาดความยาวตั้งแต่ 60-80 เมตร สูงประมาณ 20-30 เมตร จำนวน 7 ลำ เป็นการชิงชัยของแชมป์ชนแชมป์ เช่นเรือไฟอำเภอโพนสวรรค์ เจ้าของฉายาแชมป์ตลอดกาล หรือเรือไฟอำเภอศรีสงคราม ที่ผลัดเปลี่ยนครองตำแหน่งแชมป์กับอำเภอโพนสวรรค์ตลอด ขณะที่เรือไฟอำเภอเมืองนครพนม ก็เป็นอดีตแชมป์ที่จะสอดแทรกมาครองถ้วยพระราชทานอยู่บ่อยครั้ง จึงห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง
นอกจากนี้ภายในศาลากลาง และรอบๆศาลากลาง ตลอดจนเลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร พบกับคาราวานสินค้า ตลาดนัดเทศกาลของกิน แฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่น ของใช้ อุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ต้นไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ และสรรพสินค้าอื่นๆ มีบูธออกร้านสินค้าชุมชน OTOP และบูธหน่วยงานราชการ พร้อมร่วมสนุกซุ้มมัจฉากาชาด ลุ้นรางวัลสลากการกุศล รถเก๋ง รถกระบะ รถมอเตอร์ไซค์ และรางวัลอื่นๆอีกมากมาย
ข่าว/ภาพ ทวี อภิสกุลชาติ ผู้สื่อข่าว จ.นครพนม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง