
ศาลปกครอง ยกฟ้องการบินพลเรือนออกประกาศ Fit to Fly ไม่ชอบ
ศาลปกครอง ยกฟ้องสำนวนแรก ฟ้องการบินพลเรือน (กพท.) ออกประกาศ Fit to Fly ไม่ชอบ
27 มีนาคม 2563 ศาลปกครองกลาง ยกฟ้องคดีแม่ นศ.สาวไทยในแคนาดา ฟ้อง ชี้ ประกาศออกตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ช่วงสกัดโควิดมีผลให้ปฏิบัติ ส่วนคดีหนุ่มไทยในไอร์เเลนด์ ฟ้องอีกสำนวนศาลปกครองพิจารณา ยังไม่มีคำสั่ง
อ่านข่าว แจ้งวันเกณฑ์ทหาร 26 ก.ค.-23 ส.ค. ขอพลทหารรับราชการต่อ
"หมอประสิทธิ์"ลั่น 2 สัปดาห์ มีช็อกติดเชื้อแตะ 2,000
"ในหลวง" พระราชทาน เครื่องมือแพทย์ ช่วยผู้ป่วยโควิด
“เด็กชวน”ตะเพิดสิระทำความเข้าใจกฏหมาย
(คลิป) ดีอี ประสานเฟซบุ๊ก-ทวิตเตอร์ ลบข้อมูลสร้างความเสียหาย
นายวชิระ ชอบแต่ง รองอธิบดีศาลปกครองกลาง ในฐานะรองโฆษกศาลปกครอง อธิบายถึงขั้นตอนพิจารณา ภายหลังมีการยื่นฟ้องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ กรณี ผอ.สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (ผอ.กพท.) กับพวกรวม 2 ราย ออกประกาศกำหนดให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการผู้โดยสารที่จะเดินทางมายังประเทศไทย ดำเนินการคัดกรองโดยต้องมีใบรับรองแพทย์ซึ่งยืนยันว่าไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ว่า คดีดังกล่าวได้ยื่นฟ้องเข้ามาตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งขั้นตอนจากนี้ก็จะส่งสำนวนเข้าสู่องค์คณะพิจารณา โดยส่วนของคำร้องที่ขอให้มีการทุเลาการบังคับตามคำสั่งนั้น ศาลปกครองยังไม่มีคำสั่งออกมาโดยอยู่ระหว่างการพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีดังกล่าว นายอาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล ซึ่งเป็นคนไทยที่พำนักอยู่ประเทศไอร์แลนด์ ได้ยื่นฟ้องคดีต่อศาลปกครองกลาง ผ่านอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งยื่นฟ้อง ผอ.กพท. , สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. (CAAT) เรื่องกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีมีประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศ ที่ทำการบินมายังประเทศไทย ลงวันที่ 19 มี.ค.63
ซึ่งส่วนหนึ่งมีเนื้อหาที่กำหนดในข้อ 4 ให้ผู้โดยสารที่มีสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้ามา จะต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมการเดินทาง (Fit to Fly) และข้อ 5 กำหนดว่า หากพบว่าผู้โดยสาร ไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตามข้อ 3 (กำหนดให้เวลาที่ผู้โดยสารแสดงตัวออกบัตรเพื่อขึ้นเครื่อง Check in ให้ตรวจใบรับรอบแพทย์ ที่ออกโดยมีระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทางซึ่งยืนยันว่ามีการตรวจผู้โดยสารแล้วไม่พบเชื้อไวรัส COVID-19) หรือ ข้อ 4 ก็ให้ปฏิเสธการขึ้นเครื่องและงดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) อันมีผลเป็นการจำกัดเสรีภาพและสร้างภาระเกินสมควแก่ผู้ฟ้องในการเดินทางกลับมายังประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่เมื่อวานที่ผ่านมา (26 มี.ค.) ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งไม่รับฟ้อง คดีหมายเลขดำ 709/2563 ที่นางสุภา โชติงาม มารดาของนักศึกษาหญิงไทยในประเทศแคนาดา ยื่นฟ้อง ผอ.กพท. กระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กรณีออกประกาศ กพท. เรื่องแนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย วันที่ 19 มี.ค.63
ซึ่งคดีนี้ผู้ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนประกาศฯ ดังกล่าว พร้อมกับขอให้ศาลมีคำสั่งทุเลาการบังคับตามประกาศดังกล่าวในข้อ 4 ที่กำหนดให้ผู้โดยสารที่มีสัญชาติไทยที่จะเดินทางเข้ามา จะต้องมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสม การเดินทาง(Fit to fly) และข้อ 5 ที่ว่า หากพบว่าผู้โดยสาร ไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ก็ให้ปฏิเสธการขึ้นเครื่องและงดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) ไว้เป็นการชั่วคราวก่อนจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา
ซึ่งศาลมีคำสั่ง เป็นคดีหมายเลขแดง 447/2563 ไม่รับคำฟ้องไว้พิจารณา และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ เนื่องจากเห็นว่า พระราชกำหนดการบริหารราชการ (พ.ร.ก.) ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 16 บัญญัติให้ข้อกำหนด ประกาศ คำสั่ง การกระทำตามพระราชกำหนดดังกล่าว ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง และบุตรของนางสุภา ผู้ฟ้อง มีกำหนดเดินทางกลับจากประเทศแคนาดา ในวันที่ 26 มี.ค.63 อันเป็นเวลาที่อยู่ในบังคับ ตามข้อ 3 วรรคหนึ่ง (6) และวรรคสอง ของข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา 9 พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 1) ซึ่งประกาศ ณ วันที่ 25 มี.ค.63
โดยมีผลใช้บังคับวันที่ 26 มี.ค.63 ที่กำหนดให้มีการปิดช่องทางเข้ามาในราชอาณาจักร ยกเว้นเป็นผู้มีสัญชาติไทย และมีหนังสือรับรองหรือมีใบรับรองแพทย์ยืนยันว่ามีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ อันมีเนื้อหาในลักษณะเดียวกับข้อ 4 และข้อ 5 ของประกาศ กพท. และบุตรของผู้ฟ้องจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว การมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามคำขอของผู้ฟ้องจึงไม่เป็นการแก้ไขเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ฟ้อง ศาลจึงไม่จำต้องออกคำบังคับตามคำขอของผู้ฟ้อง
สำหรับรายละเอียดคำวินิจฉัย คลิกอ่านที่นี่ https://bit.ly/3bxJ2lY