อ.หมอบรรจบ เขียนอธิบาย บุคลิกการเลี้ยงลูก จากเคสหนุ่มแว่น

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก โต้ เจ็ทโด้  โพสต์คลิป พร้อมเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “กลับรถไม่ดูรถ มาทางตรงเลยน่ะเสี่ย ลงมาด่ากูยับเลย ไม่ตะบันหน้าให้ก็บุญแล้ว”

ซึ่งในคลิปจะเห็นว่ามีผู้ชายใส่แว่นลงมาด่าทอด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ขณะที่ฝ่ายหญิงก็พยายามขอโทษและไกล่เกลี่ย แต่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมหยุด และยังด่าไม่เลิก

“ขยะสังคม มึงมีปัญญาขึ้นรถกูมั้ย ถ้าไม่มีก็ไปขอให้คนอื่นมาจ่ายให้กูสิ มึงมีปัญญาซื้อมั้ย มีเงินแสนอยู่เท่าไหร่ มีกี่ล้าน กูมีออมสินอยู่ หนึ่งล้านบาท กูให้มึงดูเลย กูไม่เคยแคร์คนไทย กูดูถูกคนไทยมาตลอด มึงจำคำพูดกูไว้ พวกคนไทยคือพวกชั้นต่ำทั้งประเทศ กูหมิ่นทุกคนแม้กระทั่งนายกฯ มึงอยู่บ้านอะไรอ่ะมีแลนด์แอนด์เฮ้าส์อยู่หรือเปล่า แค่ 5 ล้านเอง ลูกเศรษฐีอะคุณรู้จักเปล่า ขับรถป้ายแดง คุณอายุเท่าไร 20 กว่าหรอ ผม 24 ขับรถป้ายแดงคันละล้านสอง มีทุกอย่างที่คุณไม่มี” ทำเอาคนที่ได้ดูคลิปนี้นั้นต่างเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากและล่าสุดได้มีการออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับอาการหัวร้อนเอาไว้ว่า

โดยเขียนบรรยายผ่านทางเฟซบุ๊กที่มีชื่อว่า หมอบรรจบ (แพทย์ทางเลือก) ได้ออกมาเขียนบรรยายเนื้อหาที่ให้ความรู้เอาไว้ว่า "หัวร้อน" เกิดขึ้นได้อย่างไร? คุณรู้จักสตรอเบอรีมั้ย รูปร่างมันดูสวยนะแต่แตะนิดแตะหน่อยก็ช้ำซะแล้วคุณรู้จักฮ่องเต้น้อยมั้ย ไม่ใช่ผักฮ่องเต้ แต่หมายถึงจักพรรดิจีนตัวเล็กๆ ซึ่งถูกประคบประหงมจนเสียเด็ก ขัดใจไม่ได้ มีอันอาละวาดทุกที ซึ่งคนจีนใช้ขนานนามเด็กเจนใหม่ของเขา ที่เกิดเป็นลูกชายคนเดียว ในครอบครัวจีนที่ถูกบังคับให้มีลูกคนเดียว พอได้ลูกชายมาก็ประคบประหงมอย่างใหญ่โต เหมือนฮ่องเต้องค์น้อยๆในบ้าน

เหตุการณ์ที่เด็กหนุ่มมีเหตุรถชนเกิดอาการด่าทอคนทั้งประเทศ กลายเป็นเป้าที่ผู้คนชาวเนตให้ความสนใจ พร้อมกับลงทันฑ์ ด้วยประชามติชาวเนตกันไปแล้วนั้น มันสอนใจอะไรเราบ้าง
ประเด็นสำคัญก็คือ เด็กหนุ่มคนนี้ไม่ใช่คนแรกที่ออกอาการ "ถูกขัดใจไม่ได้" แต่อาการนี้กำลังกลายเป็นลักษณะนิสัยของคนเจนใหม่ มันมีอาการคล้ายๆกับผล "สตรอเบอรี" ที่แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้ หรือเหมือน "ฮ่องเต้ซินโดรม" ที่เอาแต่ใจตัวนั่นเอง

โลกทุกวันนี้กำลังเพาะสตรอเบอรีหรือฮ่องเต้น้อยออกมาทั้งเจเนเรชั่น ที่มีลักษณะอยากได้ดั่งใจ ไม่อดทน ต้องการอะไรต้องได้ ถ้าถูกขัดใจก็อาละวาด
 

อะไรบ่มเพาะคนเจนนี้ออกมาแบบนี้
1.โลกของโซเชียลมีเดีย แทรกซึมเข้าสู่เขาตั้งแต่วัยเด็กเล็ก มีเดียเต็มไปด้วยความรวดเร็ว เห็นผล แต่ฉาบฉวย แถมรุนแรงอีกด้วย
2.พ่อแม่ปล่อยให้เด็กเล่นวิดีโอเกมตั้งแต่อายุน้อยๆ มันก่อโรคสมาธิสั้น นั่นเป็นพื้นดินอย่างดีของการบ่มเพาะสตรอเบอรี
3.วาทะกรรมสร้างความเกลียดชังกำลังระบาด ตอบโต้กันด้วยความรุนแรง ไม่เกรงใจใคร ด่าไปโดยไม่ต้องรับผิดชอบ ด่าให้สะใจ บางทีก็ด่าผิด ความจริงแล้ว หนุ่มหัวร้อนคนนี้ก็ตกเป็นเป้าวาทะกรรมสร้างความเกลียดชังด้วยเหมือนกัน
4.fake newsฉวยโอกาสสร้างข่าวร้าย ส่งข่าวบิดเบือน สร้างค่านิยมชังชาติ ด่าประเทศ ด่าผู้หลักผู้ใหญ่ หมิ่นสถาบันถือเป็นเรื่องปกติ นึกว่าเท่ ด่ากันจนติดปาก ถึงเวลาก็ปล่อยพรวดพราดออกมาเป็นชุด
5.สถาบันครอบครัว โรงเรียน วัดแตกสลาย พ่อแม่ ครู พระที่ไร้ศีล ไม่เป็นตัวอย่างที่ดี การเรียนหน้าที่พลเมืองศีลธรรมหายไปจากการศึกษา
เหล่านี้คือปัจจัย จะแก้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ

ขอขอบคุณ หมอบรรจบ (แพทย์ทางเลือก)

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-โซเชียลขุดยับ เปิดวาร์ปแว่นหัวร้อน ถ่ายรูปคู่กับรถหรูเพียบ
-หนุ่มหัวร้อน ฉุนเก๋งป้ายแดงถูกชน ปรี่หาเรื่อง-พูดดูถูกคนไทย
-โซเชียลขุดรัวๆหนุ่มแว่นหัวร้อนที่แท้เป็นติวเตอร์สอนภาษา
-แม่เด็กหัวร้อนติดเกม เผย ลูกป่วยสมาธิสั้น ควบคุมตัวเองไม่ได้