เสี่ยกำมะลอโผล่ร่วมประชุมบอร์ดระดับสูง

กลายเป็นข่าวโด่งดังอย่างต่อเนื่อง สำหรับกรณีเสี่ยกำมะลอ หรือ เสี่ยท็อป หลังจากไปหลอกสาวชาวจังหวัดบุรีรัมย์แต่งงาน และทิ้งหนี้ก้อนโตไว้ให้ ก่อนเจ้าตัวจะหายเข้ากลีบเมฆ จนกระทั่งเพจชื่อดังออกมาแฉประวัติเสี่ยกำมะลอรายนี้ มีคดีติดตัวยาวเป็นหางว่าว

ทั้งนี้เรื่องราวของเสี่ยกำมะลอรายนี้ ไม่ได้โด่งดังแค่ในประเทศไทยเสียแล้ว เมื่อทางการจีนสั่งสอบด่วน หลังเข้าไปดูงานในประเทศจีน แอบอ้างเป็นที่ปรึกษารัฐบาลไทย

บริษัท ไชน่า เรลเวย์ เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในความควบคุมของรัฐบาลจีน ได้ประกาศบนเว็บไซต์เปิดการสืบสวน หลังจากที่เคยหลงเชื่อเปิดสำนักงานใหญ่และพื้นที่หวงห้าม ต้อนรับเสี่ยท็อป ให้เข้าเยี่ยมชม เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาลไทยที่เดินทางมาดูงาน

รายงานข่าวระบุว่า ขณะนี้ ทางบอร์ดบริหารของไชน่า เรลเวย์ เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 500 รัฐวิสาหกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเร่งสืบสวนและปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายใน หลังจากที่มีรายงานข่าวแพร่สะพัดในประเทศไทยว่าเสี่ยท็อปก่อเหตุหลอกลวงพริตตี้สาวแต่งงาน และยังก่อคดีหลอกลวง จนมีผู้เสียหายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยเมื่อวันที่ 26-27 ต.ค. ปี ค.ศ.2012 หรือเมื่อ 7 ปีก่อน ทางผู้บริหารของไชน่า เรลเวย์ เอ็นจิเนียริ่ง ได้ให้การต้อนรับเสี่ยท็อป และคณะผู้ติดตามจากประเทศไทย โดยมีการเปิดสำนักงานใหญ่ของบริษัทที่เมืองเฉิงตู ในมณฑลเสฉวน และพื้นที่หวงห้ามภายใน ให้นายท็อปได้เข้าเยี่ยมชมและบันทึกภาพ
 

จนกระทั่งล่าสุด (7 ตุลาคม 2562) น้องชายของเพื่อนสนิทเสี่ยท็อปได้ออกมาพูดถึงเรื่องของเสี่ยท็อปเอาไว้โดยระบุว่า ตนเองทราบว่าพี่ชายติดต่อธุรกิจกับนายท็อปอยู่ราว 1 ปี โดยช่วงนั้นก็เจอกันบ่อยครั้ง รวมทั้งเดินทางไปต่างประเทศ ที่ฮ่องกง และประเทศอังกฤษ โดยอ้างว่าไปทำธุรกิจ ช่วงหลังมาพี่ชายตนเริ่มมีอาการเครียด กระทั่งเสียชีวิต ช่วงปลายปี 2561 จากอาการเส้นเลือดในสมองแตก ขณะเดินทางบนเครื่องบิน โดยครอบครัวรู้ข้อมูลเพียงว่าค่าใช้จ่ายเดินทาง ฝ่ายพี่ชายตนเป็นคนออกให้ และจะไปทำธุรกิจ แต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องก่อน อย่างไรก็ตาม ตนเคยถามนายท็อปเรื่องธุรกิจ นานท็อปอ้างว่ายังไม่ได้ลงทุน แค่เดินทางไปพูดคุยเท่านั้น ส่วนตัวคิดว่าการเสียชีวิตของพี่ชายตน อาจจะเกิดจากความเครียดเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนธุรกิจกับนายท็อป

นอกจากนี้ อมรินทร์ ทีวี ตรวจสอบเว็บไซต์ของบริษัท “พร็อพเพอร์ตี้ เจแอลแอล” หนึ่งในบริษัทนายหน้าอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของฮ่องกง พบข้อมูลว่าราคาค่าเช่าขั้นต่ำของห้องสวีท ที่เสี่ยท็อปเช่าไว้ บนชั้นที่ 9 ของอาคารโอเชี่ยน เซ็นเตอร์ ในย่านจีมซาจ่อย ของฮ่องกงนั้น ตารางฟุตละ 43-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน หรือคิดเป็นเงินไทย ตารางฟุตละ 1,300-1,500 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ แต่ละห้องมีขนาดพื้นที่ทั้งห้องไม่ต่ำกว่า 540 ตารางฟุต หมายความว่าเสี่ยท็อปจะต้องจ่ายค่าเช่าห้องสวีทในราคาเดือนละ 702,000-810,000 บาทต่อเดือน

พบว่า เสี่ยท็อปได้ใช้ห้องสวีท บนชั้น 9 ของอาคารโอเชี่ยน เซ็นเตอร์ ที่จดทะเบียนจัดตั้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์ของอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 58 เมื่อ 4 ปีก่อน ทั้งนี้ อาคารโอเชี่ยน เซ็นเตอร์ มีทั้งหมด 13 ชั้น โดยนอกจากจะเป็นอาคารที่พักอาศัยระดับไฮโซแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้า และร้านอาหารหลายแห่ง โดยถือเป็นหนึ่งในอาคารที่มีอัตราค่าเช่าแพงที่สุดในฮ่องกง นอกจากนี้ ซู หยาน หลิน ประธานบริหารบริษัท ไชน่า แมชชีนเนอรี่ อินดัสตรี้ คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านวิศวกรรมและการก่อสร้างของจีน ประกาศเปิดการสืบสวนและทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยในบริษัทอย่างเร่งด่วน หลังตรวจสอบพบว่า นายธนณัฎฐ์ สิริปิยพร หรือ เสี่ยท็อป เคยเข้ามานั่งร่วมโต๊ะประชุมกับบอร์ดบริหารระดับสูงของบริษัท ภายในสำนักงานใหญ่ ที่เขตสีเจิ้ง ใจกลางกรุงปักกิ่ง

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ปี ค.ศ.2012 หรือเมื่อ 7 ปีก่อน เสี่ยท็อปได้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมกับบรรดาผู้บริหารระดับสูงของชิโน คอนส์ ในขณะนั้น และได้รับการต้อนรับให้เป็นแขก VIP โดย ข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัท ชิโน คอนส์ ระบุว่า เสี่ยท็อปอ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ของนายกรัฐมนตรีไทย ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทั้งนี้ บริษัท ไชน่า แมชชีนเนอรี่ อินดัสตรี้ คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป หรือ ชิโน คอนส์ ถือเป็นหนึ่งในบริษัทก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากการรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในมากกว่า 40 ประเทศ

CR.อมรินทร์ทีวี

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-เสี่ยกำมะลอโผล่จีนหลอกรัฐบาลจีนแอบอ้างที่ปรึกษาไทยเจอสอบด่วน
-แฉประวัติเสี่ยกำมะลอ 2 หมื่นล้านหลอกสาวแต่งงาน
-ประวัติเสี่ยกำมะลอ แฉจุดจบเหยื่อโดนหลอกเส้นเลือดในสมองแตกดับ
-แม่เสี่ยท็อป แฉเอง สุดเอือมลูกสร้างแต่เรื่อง