ขุนพลฝ่ายค้านพร้อม เฉลิม ป้อง ลูกชายยังไม่ใช่ตัวแทนพ่อ

 

 

                เพื่อไทย - 3 มกราคม 2563- "เฉลิม" ลั่น ขุนพลฝ่ายค้าน พร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โว ปชช.จะชิงชังรัฐบาลเพิ่ม หลังฟังการอภิปราย ปัดเดาใจ ส.ส.ลงมติตามฝ่ายค้าน เชื่อหลังฟังข้อมูลอภิปรายจะตัดสินใจเอง ป้อง "ลูกชาย" ยังไม่ใช่ตัวแทนพ่อ เหตุพรรษายังไม่ถึง "ภูมิธรรม" ย้ำไม่อภิปรายเลอะเทอะ จ่อนัด 7 พรรคร่วมหารือสรุปประเด็น ยัน "เศรษฐกิจใหม่" ยังแน่นปึ๊กร่วมฝ่ายค้าน

             

               ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจ พรรคเพื่อไทย  เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อพิจารณารายละเอียดประเด็นที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดดังกล่าว รวม 5 คน ทั้งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการหารือแล้วเสร็จ โดยยืนยันความพร้อมของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 

 

 

 

 

 

               โดย ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า รายละเอียดของการอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมถึงการกำหนดตัวบุคคลนั้นตนไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ในเบื้องต้นคณะกรรมการเฉพาะกิจพรรคเพื่อไทย กำหนดไว้ว่า จะอภิปรายรัฐมนนตรี จำนวน 5 คน และมีส.ส.อภิปรายรวม 25 คน แต่ทั้งนี้ต้องนำรายละเอียดดังกล่าวหารือกับ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้ง ซึ่งตนไม่ขัดข้องหากมติของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเพิ่มชื่อรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปราย หรือเพิ่มจำนวน ส.ส.ที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รวมถึงประเด็นที่จะยื่นอภิปราย

 

 

                ส่วนที่รัฐบาลระบุไว้ก่อนหน้าว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจห้ามอภิปรายถึงเรื่องในอดีต และให้อภิปรายเฉพาะการทำงานของรัฐบาลชุดปัจจุบันในช่วงปัจจุบันเท่านั้น ตนมองว่ารัฐบาลไม่มีหน้าที่หรืออำนาจในการกำหนดประเด็นดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวมองว่าการบริหารราชการของรัฐบาลปัจจุบันคือการต่อเนื่องมาจากรัฐบาลยุคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เป็นรัฐบาลเกเร คุกคามและทุบตีประชาชน ดังนั้นขอให้ยุติการสัมภาษณ์ต่อว่าฝ่ายค้านว่าเล่นการเมืองทำให้ประชาชนสับสน 

 

 

               "ผมยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้จะไม่ทำให้สื่อมวลชน และประชาชนผิดหวังและหลังการอภิปรายแล้วเสร็จ ประชาชนจะเบื่อ จะชิงชังรัฐบาลชุดปัจจุบัน แต่ไม่ใช่ชังชาติ ส่วนการลงมติในญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะได้รับเสียงข้างมากของสภาฯ​ ลงมติไม่ไว้วางใจหรือไม่ ผมไม่สามารถเดาทางไม่ออก แต่เชื่อว่าเมื่อส.ส.ได้ฟังการอภิปรายของพรรคฝ่ายค้านที่เตรียมรายละเอียด และชี้ประเด็น เช่น กรณีที่บริษัทบริษัท 69 พร๊อบเพอร์ตี้ซื้อที่ดิน ราคา 600 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินที่ 157 ล้านบาท ของบิดา พล.อ.ประยุทธ์รวมถึงการขยายผล เชื่อว่าจะโยนติ้วแน่นอน ส่วนจะชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมเอื้อประโยชน์ให้เอกชนหรือไม่ ผมไม่ตอบเพราะไม่อยากให้เสียรสชาติการอภิปราย" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว  

 

                 

                  ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า สำหรับการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น จะทำได้เร็วๆ นี้และการอภิปรายได้หลังเทศกาลตรุษจีน ส่วนจะใช้เวลากี่วันต้องรอพิจารณาประเด็นและรายละเอียดที่เตรียมสรุปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ตนขอเตือนไปยังรัฐบาลด้วยว่า อย่าคุกคามตน เพราะตนไม่ใช่ผู้อภิปรายในสภาฯ เป็นเพียงกองหนุน ส่วนจะส่งตัวแทนซึ่งเป็นคนในครอบครัวของตนหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่า เขามีสิทธิ์ แต่พรรษายังไม่ได้ คงต้องรอเวลาประมาณ 2 ปี

 

 

                  อย่างไรก็ดี ตนขอฝากไปยังนายดอน ปรมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถึงพฤติกรรมที่ส่งจดหมายไปยังพล.อ.ประยุทธ์ ผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ที่ขอให้ถอนฟ้อง บริษัทฟิลิป มอร์ลิสต์ด้วย ว่าขออย่ายุ่งเกี่ยวเพราะเรื่องดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดที่ชัดเจน   

 

                ด้านนายภูมิธรรม เวชชยชัย รองประธานกรรมการเฉพาะกิจ พรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า จะนัดหารือร่วมกับ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อสรุปรายละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ตนเชื่อว่า พรรคฝ่ายค้านจะยังยึดมั่นร่วมกัน โดยเฉพาะพรรคเศรษฐกิจใหม่ ที่ยืนยันต่อการเห็นประโยชน์ของประเทศ แม้ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่าส.ส.ของพรรค ยกเว้นนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ที่อยู่ร่วมพรรคฝ่ายค้าน ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีคดียุบพรรคที่รอการตัดสินปลายเดือนมกราคม 2563 เชื่อว่าจะไม่กระทบการวางตัวส.ส. ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล 

 

             "พรรคฝ่ายค้านจะไม่อภิปรายเลอะเทอะ หรือตีรวน เพราะต้องการมุ่งประเด็นที่ชัดเจน ชี้ให้เห็นความล้มเหลวของการบริหารราชการของรัฐบาล รัฐมนตรี รวมถึงความไม่เหมาะสมในการทำหน้าที่" นายภูมิธรรม กล่าว.