2โจรอาละวาด งัดตู้เติมเงินมือถือ กลางเมืองอุดรฯ

 

 

                     วันที่ 19 มกราคม 2563 เวลา 09.30 น. ร.ต.ท.หญิงภัชยาภรณ์  ประทุมพิมพ์ รองสารวัตร สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้ง มีคนร้ายไปก่อเหตุงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ อยู่ภายในซอยศรีพินิจ ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จากนั้นพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจสายตรวจ191 รุดไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุอยู่กลางซอย ที่หน้าร้านวิชัยแอร์ อิเลคทรอนิกส์ เลขที่ 46 พบตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ AJ  โดนงัด โดยมี นายวิชัย  ชาวหันคำ อายุ45ปี อยู่บ้านเลขที่88/4 หมู่6 ซอยสามัคคี ตำบลหมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้เสียหาย พร้อมกับครอบครัว ยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะไปชี้จุดข้างตู้โดนงัด คนร้ายได้ขโมยถุงใส่เงิน ที่อยู่ช่องเก็บเงิน ภายในตู้ไป

 

 

 

 

                    นายวิชัย  ชาวหันคำ ให้การว่า ตนได้มาเช่าห้องแถวเปิดเป็นร้านซ่อมแอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มาได้2 ปี โดยจะให้ลูกชายกับแฟนสาว พักอยู่ที่ร้าน ส่วนตนกับภรรยา หลังเลิกงานตอนเย็น ก็จะเดินทางกลับไปพักที่บ้าน โดยตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ตนได้ผ่อนเช่าซื้อ ในราคา 41,600 บาท ผ่อนเดือนละ1,160 บาท เพื่อเป็นรายได้เสริม  ซึ่งนำมาติดตั้งเอาไว้ที่หน้าร้าน ได้ประมาณ 1 ปี  ในหนึ่งสัปดาห์ จะมาไขกุญแจเปิดตู้เอาเงินออก ซึ่งคนร้ายได้เงินไปประมาณ 900 บาท

 

พอมาวันนี้ตนมาเปิดร้านพบว่าตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือโดนงัด  จึงได้สอบถามลูกชาย ทราบว่าเมื่อคืนนี้ช่วงเวลา23.00  น. ลูกชายอยู่ห้องนอนข้างบนร้าน ได้ยินเสียงตู้ร้อง มีคนใช้บริการมาเติมเงิน แล้วถึงมีคนร้ายเป็นชายอ้วนกับผอม มาทำการงัด แต่ตู้ไม่ร้องเสียงดัง ลูกชายจึงได้ลงมาดู  สาเหตุทีตู้เติมเงินไม่ร้องนั้น เนื่องจากคนร้ายงัดตู้แล้วแง้มเปิดออก เหมือนคนร้ายรู้ว่าถ้าเปิดตู้ออกสุด จะทำให้สัญญาณจะร้องดัง ก่อนใช้มือล่วงเข้าไปข้างในเอาถุงใส่เงินไป ก่อนหน้านี้ปีแล้ว ซอยถนัดไปก็มีคนร้ายไปทำการงัดเติมเงินเหมือนกัน ส่วนกล้องวงจรปิดที่ร้าน ไม่สามารถดูได้เนื่องจากเสียมานานแล้ว

 

 

 

 

 

           ร.ต.ท.หญิงภัชยาภรณ์  ประทุมพิมพ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำ ลูกชายเจ้าของร้าน ทราบว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่นสองคน อ้วนกับผอม ขี่รถจยย. มาจอดฝั่งตรงข้ามหน้าร้านของผู้เสียหาย ก่อนที่คนซ้อนท้าย รูปร่างผอม เข้ามางัดตู้เติมเงินถือมือ ใช้เวลาไม่นาน แล้วขโมยเงินที่อยู่ในตู้ไป ซึ่งได้เงินไปจำนวน 900 บาท โดยจะให้ตำรวจชุดสืบสวน ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ภายในซอยดังกล่าว เพื่อเบาะแส ในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามหมายต่อไป

 

 

   นายกฤษดา  จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าว  ภูมิภาค จ.อุดรธานี