ตี๋น้อยยอดกตัญญูเพิ่มน้ำหนักเพื่อบริจาคไขกระดูกต่อชีวิตพ่อ 

6 ปีก่อน แพทย์ตรวจพบว่า ลู่ ยวานเหิง ป่วยเป็นโรคเอ็มดีเอส หรือโรคไขกระดูกเสื่อม ที่ทำให้เลือดจางผิดปกติ ซึ่งเป็นระยะแรกของลูคีเมีย อาการของพ่อลูกสามทรุดลงตามลำดับ ป่วยกระเสาะกระแสะนอนติดเตียงที่บ้านในเขตหุยเซียน มณฑลเหอหนานเป็นส่วนใหญ่ 

 

เขาตัดสินใจบอกลูกๆเมื่อปีที่แล้วว่าป่วยเป็นอะไร จำเป็นต้องปลูกถ่ายไขกระดูกสันหลังเพื่อรักษา ลูกชายสองคนและลูกสาว พร้อมบริจาคไขกระดูกให้กับพ่อ แต่ลูกชายคนโต ลู่ จีควาน ขณะนั้น 9 ขวบ เป็นคนที่มีไขกระดูกเข้ากันได้ แต่ปัญหาคือ ลูกชายคนนี้ยังมีน้ำหนักไม่ถึงเกณฑ์เป็นผู้บริจาคได้ ต้องเพิ่มน้ำหนักอีก 15 กก. เป็นอย่างน้อยถึงจะสามารถเข้ารับการผ่าตัดได้

 

 

 

 

นับจากเดือนก.พ.ครอบครัวแม้ฐานะไม่ดีนัก แต่ก็พยายามสรรหาอาหารโภชนาการดีที่สุดเท่าที่มีปัญหา  ส่วนเด็กชายลู่ก็มีความมุ่งมั่นเพื่อการนี้ เขากินอาหารวันละ 5 มื้อ และดื่มนม 1 กล่องทุกคืนก่อนนอน นอกจากนี้ เขายังต้องกินหมูตุ๋นถั่วเหลืองทุกวัน เมนูที่ปกติครอบครัวไม่ได้รับประทานเพราะราคาแพง พี่น้องของเขาบางครั้งก็แบ่งอาหารของตนให้กับพี่ชาย 

 

ตอนแรกๆ เพลิดเพลินกับการกิน แต่ต่อมา ลู่รู้สึกอิ่มตื้อ บางครั้งแทบกลืนอาหารไม่ไหว และบางครั้งก็ปวดท้อง ถึงกับต้องนอนพัก เด็กชาย กล่าวว่า การทำน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่เรื่องสนุก “แต่ต่อให้เจ็บ ผมจะยังกินต่อไป ครอบครัวของเราไม่อาจสูญเสียพ่อได้ 

 

 

เด็กชายลู่ ถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อว่า อ้วนเอาๆแต่ยังเตี้ยอยู่ กระทั่งครูใหญ่เข้ามาอธิบาย 

 

ถึงเดือนกรกฎาคม ลู่ น้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่ 48 กก. ถึงเกณฑ์สำหรับผู้บริจาคไขกระดูก  

 

ครอบครัวเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อเข้าสู่กระบวนการดูดไขกระดูกของเด็กชาย ที่โรงพยาบาลประชาชนมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เมื่อวันที่ 9 ก.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดของพ่อ 

 

 

 

พ่อของเขารู้สึกตื้นตันกับความเสียสละของลูกชาย และได้เผยความรู้สึกผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ว่า นี่เป็นวันที่ผมจะไม่มีวันลืม ลูกชายให้ความหวังในการมีชีวิตอยู่ต่อไปในวันเกิด ขอบใจลูกชายสำหรับทุกอย่างที่ทำให้พ่อ ลูกชายบอกว่าเขาปวดขาและหลัง มันมากเกินไปสำหรับเด็กคนหนึ่ง 

ว่าที่คุณหมอตัดตับบริจาคเพื่อต่อชีวิตครูสมัยประถม
อาหมวย 7 ขวบบริจาคไขกระดูกช่วยชีวิตแม่
ผู้ป่วยคนที่สองปลอดไวรัสเอชไอวีหลังปลูกถ่ายไขกระดูก 
4,855 คนต่อแถวกลางฝนรอบริจาคสเต็มเซลล์ช่วยเด็กป่วยมะเร็ง
 

 

ครอบครัวลู่ ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามหลังจากสื่อทางการนำเสนอข่าว และมีคนใจดีร่วมบริจาค กว่า 8 แสนหยวนเป็นค่ารักษาพยาบาล  

หนังสือพิมพ์ พีเพิลเดลีย์ ยกย่องเด็กชายลู่ ว่าไม่ได้ทำแค่สิ่งที่ลูกคนหนึ่งพึงกระทำเพื่อดูแลบุพการี แต่สังคมยังรู้สึกประทับใจและชื่นชมความกล้าหาญของเขาด้วย 

 

ด้าน ยูท เดลีย์ รายงานว่า ลู่ ยวานเหิง อาการดีขึ้นตามลำดับหลังผ่าตัดปลูกถ่ายไขกระดูก ส่วนลูกชายยอดกตัญญู ออกจากโรงพยาบาลและกำลังลดน้ำหนัก ให้กลับไปอยู่ที่ 30 กก.เหมือนเดิม และหวังจะกลับไปเรียนได้ตามปกตในอีกไม่กี่วันข้างหน้า