ตำรวจสน.บางเสาธงคุมเข้มระหว่างนำตัวผู้ต้องหาที่เป็นคนงานลงมือฆาตกรรมอำพรางผู้รับเหมา ก่อนยัดศพไว้ใต้ถุนคฤหาสน์หรูหลังหนึ่งย่านบางเชือกหนัง
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 ที่ สน.บางเสาธง ผู้สื่อข่าวคมชัดลึกออนไลน์ รายงานว่า พนักงานสอบสวนได้เบิกตัว นายจะหวะ หรือ "พงษ์เทิดไท" (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมอำพรางศพ นายสิทธิโชค หรือ ช่างสน (สงวนนามสกุล) ไว้ใต้ถุนคฤหาสน์หรูหลังหนึ่งย่านบางเชือกหนัง แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กทม. หลังถูกจับกุมได้ที่ถนนสาธารณะ ระหว่างหมู่บ้านขาแหย่งพัฒนา - หมู่บ้านอีก้อสี่หลัง หมู่ 4 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายจะหวะ หรือ "พงษ์เทิดไท" ให้การรับสารภาพ โดยสอดรับกับคำให้การของผู้ต้องหาที่จับได้ก่อนหน้านี้ 2 ราย ซึ่งสาเหตุของการฆาตกรรมอำพรางครั้งนี้เกิดจากปัญหาเรื่องค่าแรง แต่ไม่ยังไม่สามารถระบุจำนวนเงินได้
สำหรับการทำแผนประกอบคำรับสารภาพฆาตกรรมอำพรางครั้งนี้มี ทั้งหมด 7 จุด ประกอบด้วย
- จุดที่ 1. จุดที่นายพงษ์ กับผู้ร่วมก่อเหตุเดินไปเรียกผู้ตายรอบที่สอง ในช่วงเวลาประมาณ 21.15 น. เพื่อออกมาร่วมดื่มกินอีกครั้ง หลังจากที่ในช่วงหัวค่ำมีการร่วมวงดื่มสุราไปแล้วรอบหนึ่งกับช่างโยที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
- จุดที่ 2. คือจุดที่นายพงษ์ ก่อเหตุใช้มีดฟันคอ และตามร่างกายท่อนบนของช่างสน จนล้มลงในบ้านพัก
- จุดที่ 3. คือจุดที่นายพงษ์นำมีดมาล้างเลือด
- จุดที่ 4. คือจุดที่ชี้ว่าจอบที่ใช้ช่างรุ่ง มาหยิบมาใช้ก่อเหตุซ้ำ ที่ถูกวางพาดอยู่กับโต๊ะไม้หน้าบ้านเกิดเหตุ
- จุดที่ 5. คือจุดที่นายพงษ์และผู้ต้องหาอีกสองรายที่ถูกจับก่อนหน้าช่วยกันลากร่างช่างสน ที่ขณะนั้นยังไม่เสียชีวิตมาวางไว้ที่หน้าช่องปูนใต้บ้านพัก ก่อนจะใช้ผ้าม่านมาห่อตัวช่างสนไว้ และใช้จอบที่ใบ้นายรุ่งไปหยิบมา ทุบตีร่างช่างสนซ้ำจนถึงแก่ความตาย
- จุดที่ 6. คือจุดที่นายพงษ์ เดินไปหยิบกระเบื้องที่อยู่บริเวณน้ำตกที่กำลังก่อสร้าง เพื่อจะนำมาใช้ปิดปากช่อง ที่จะใช้อำพรางร่างช่างสน โดยเมื่อกลับมาถึงปากช่องก็ดันร่างช่างสนเข้าไปใต้บ้านและใช้กระเบื้องที่ไปหยิบมา ปิดทับและโปรปูนปิดทับอีกชั้นหนึ่ง
- จุดที่ 7. คือจุดที่นายพงษ์ นำมีดที่ใช้ก่อเหตุออกไปโยนทิ้งที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่พบมีดดังกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง