ข่าว

พ่อค้าส้มตำให้ปากคำ ตำรวจยัดยา !!

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พ่อค้าส้มตำ ให้ปากคำเพิ่ม หลังถูกตำรวจยัดยา-เรียกเงิน 5 หมื่นแลกปล่อยตัว เผยจำหน้าได้ทุกคน ยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้าน ผบก.น.1 ระบุหากพบทำผิดจริงไล่ออก

 

          เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่สน.พญาไท นายศักดิ์ชัย แน่นอุดร อายุ 49 ปี พ่อค้าขายส้มตำ ชาวจ.ร้อยเอ็ด เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมหลังได้เดินทางแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมาว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสส.บก.น.1 ยัดยาเสพติดและเรียกเงินจำนวน50,000 บาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว

 

          นายศักดิ์ชัย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น. ของวันที่ 10 ส.ค. ขณะที่ตนกำลังขายของอยู่ที่ร้านส้มตำ บริเวณหน้าปากซอยพระราม6 ซ.22 น.ส.สโรชา แน่นอุดร อายุ 30 ปี บุตรสาวได้เดินร้องไห้มาบอกกับตนว่าถูกเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 165/12 ถนนพระราม 6 ซ.22 ถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักไม้ 2 ชั้น ของตนเอง ตนจึงรีบเดินทางไปที่บ้านพักที่เช่าไว้ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบกว่า 10 นาย กำลังค้นบ้านพักอยู่ ตนจึงถามหาหมายค้น แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่แสดงให้ดู จากนั้นตนจึงถามว่าค้นแล้วเจออะไรไหม เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกกับตนว่าเจอยาไอซ์ จำนวนไม่เยอะ ตนจึงพยายามขอดูแต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ดู ก่อนจะควบคุมตัวลูกสาวของตนไปกก.สส.บก.น.1

 

พ่อค้าส้มตำให้ปากคำ ตำรวจยัดยา !!

          นายศักดิ์ชัย เปิดเผยต่อว่า ตนจึงรีบเดินทางตามไปที่กก.สส.บก.น.1 และพบว่าลูกสาวถูกจับนั่งอยู่บริเวณอาคารดังกล่าวในมุมมืด โดยไม่มีการใส่กุญแจมือและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบควบคุมอยู่ 1 คน ตนจึงเดินไปนำตัวลูกสาวกลับบ้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตามมาที่ร้านส้มตำของตน ก่อนจะจับตนไปแทนโดยให้เหตุผลว่า ตนพาผู้ต้องหาหลบหนี หลังจากนั้นตนถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องภายในอาคารของกก.สส.บก.น.1 ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบอกว่าตนมีหมายจับข้อหา“กรรโชกทรัพย์” ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยทำผิดกฎหมายใดๆ ทั้งสิ้นถ้าจะมีก็มีเพียงแต่ความผิดจำหน่ายสุราเกินเวลาเท่านั้น ก่อนที่เจ้าหน้าที่บอกว่าตนต้องนำเงินจำนวน 50,000 บาท มาเป็นค่าประกันตัวออกไป ตนจึงโทรศัพท์ให้ลูกสาวนำเงินจำนวนดังกล่าวมามอบให้ เนื่องจากกลัวโดนจับติดคุกและความไม่รู้กฎหมาย หลังจากให้เงินจำนวนดังกล่าวตนก็เดินทางกลับบ้านทันที

 

          นายศักดิ์ชัย กล่าวต่อไปว่า ตนรู้สึกว่าโดนเจ้าหน้าที่ยัดยาเสพติด และรีดไถเงิน จึงเดินทางเข้าแจ้งความ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังเป็นเจ้าหน้าที่ที่ตนรู้จัก ทราบชื่อคือ สว.ชา (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ด.ต.วรพล (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) และนายต่อ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งด.ต.วรพลเป็นคนรับเงินจำนวน 50,000 บาท และเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับญาติของตนเมื่อหลายปีก่อน หลังจากตนแจ้งความ ทางสว.ชาได้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืนพร้อมให้เลิกแล้วต่อกัน ขณะนั้นตนคิดว่าจะไม่เอาเรื่องแต่ตนได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ว่าไม่กลัวตายหรือ ซึ่งตนคิดว่าไม่ถูกต้อง จึงยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยตนสามารถจดจำใบหน้าทุกคนที่เข้าไปจับกุมในวันนั้นได้

 

พ่อค้าส้มตำให้ปากคำ ตำรวจยัดยา !!

 

          ด้านพล.ต.ต.เสนิต สำราญสำรวจกิจ ผบก.น.1 กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้แล้วและได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ ผกก.(สอบสวน)บก.น.1 เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยจะต้องแยกคดีเป็น2 ส่วนคือในส่วนของคดีของผู้เสียหายและส่วนความผิดทางวินัย ซึ่งหากพบว่ามีการกระทำความผิดจริงก็จะดำเนินการตามขั้นตอนและลงโทษตามกฎหมายคือไล่ออก ขอยืนยันว่าไม่ช่วยผู้กระทำความผิดอย่างแน่นอน.

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ