ข่าว

ปล่อยตัว“เมียนักข่าวฝรั่ง”หลังสอบปมโพสต์หมิ่นเบื้องสูง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กองปราบฯคุมตัว “เมียนักข่าวฝรั่ง” โพสต์เฟซบุ๊กหมื่นเบื้องสูงสอบ เจ้าตัวยันไม่เกี่ยวข้อง เชื่อมีคนไทยกว่า30 คนเอี่ยว ล่าสุดได้รับการปล่อยตัวแล้ว

          วันที่ 22 กรกฎาคม 2559 เมื่อเวลา 11.00 น. พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช ผกก.1 บก.ป. มอบหมายสั่งการให้ พ.ต.ท.มนูญ แก้วกล่ำ สว.กก.1บก.ป. พร้อมด้วย ร.ต.อ.ฉัตรชัย เหมวิลัย รองสว.กก.1บก.ป. นำกำลังกว่า 20 นาย พร้อมนำหมายค้นศาลอาญาธนบุรี เลขที่ 113/2559 ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2559  เข้าตรวจค้นบ้านพักย่านฝั่งธนบุรี ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.นพวรรณ บันลือศิลป์ หรือพลอย อดีตผู้สื่อข่าวสำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่ง  ซึ่งเป็นภรรยาของ นายแอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวซึ่งมักนำเสนอข่าวพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้การตรวจค้นครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังจากที่นายแอนดรูว์โพสต์และแชร์ภาพจำนวนหนึ่งจากหนังสือพิมพ์แทบลอยด์ภาษาเยอรมัน ตีพิมพ์ภาพซึ่งเข้าข่ายหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยเบื้องต้นชุดสืบสวนกองปราบปรามได้ควบคุมตัว น.ส.นพวรรณ มาสอบปากคำเพื่อหาความเชื่อมโยงถึงนายแอนดรูว์ รวมถึงพฤติการณ์ต่างๆ ทั้งนี้ได้มีการยึดของกลาง เป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก ไอแพด แฟลชไดร์ พาสปอร์ต และเอกสารต่างๆ มาเพื่อทำการตรวจสอบ

          ทันทีที่ น.ส.นพวรรณ และลูกชายวัย 3 ขวบ ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาถึง บก.ป. ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า รู้จักกับนายแอนดรูว์มาเป็นเวลา กว่า 10 ปีแล้ว และ และมีลูกชายด้วยกันหนึ่งคน โดยทราบพฤติกรรมของนายแอนดรูว์มาโดยตลอด และได้มีการทักท้วงให้เลิกทำพฤติกรรมดังกล่าว แต่นายแอนดรูว์ก็ไม่ยอมเชื่อฟัง ไม่ฟังคำคัดค้าน ตนพบนายแอนดรูว์ล่าสุดเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ขณะนี้นายแอนดรูว์อาศัยอยู่ประเทศสกอตแลนด์ แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการผลิต และเผยแพร่ภาพดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย

          ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. กล่าวว่า กรณีที่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาในความผิดเกี่ยวกับการโพสต์ภาพที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่มีการสืบทราบพบว่าผู้กระทำผิดคือ นายแอนดรูว์ แม็กเกรเกอร์ มาร์แชล (Mr. Andrew MacGregor Marshall) สัญชาติสก๊อตแลนด์ มีการกระทำผิดมานานหลายปี มีลักษณะเผยแพร่ภาพที่แสดงถึงพฤติกรรมการหมิ่นสถาบันเบื้องสูง โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าภาพที่มีการแชร์เป็นภาพที่ผ่านการตัดต่อภาพ จนล่าสุดมีการแชร์ภาพหมิ่นสถาบันเบื้องสูง เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสืบทราบว่า นายแอนดรูว์ ร่วมกับชาวไทยอีก 2 ราย ร่วมขบวนการ ทำหน้าที่ผลิตภาพ นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่โซเซียลมีเดีย จึงมีการขอหมายค้นจากศาลอาญาธนบุรี และเข้าทำการเชิญตัวภรรยาของเขามาให้ปากคำและพูดคุย อย่างไรก็ตามการคุมตัวสอบปากคำครั้งนี้เป็นกระบวนการตามกฎหมายไทย ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนพบว่า กลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการพาดพิงดูหมื่นสถาบันกว่า 30 ราย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่มีข้อมูลหมดแล้ว และอยู่ระหว่างการดำเนินการ

          “ยืนยันว่ามีขบวนการล้มล้างสถาบันอยู่จริง โดยมีกลุ่มบุคคลที่อาศัยอยู่ต่างแดนเคลื่อนไหว ทั้งนี้ส่วนใหญ่เคยมีหมายจับแล้วในคดีอาญาความผิดตาม ม.112 มีทั้งชายและหญิง อีกทั้งยังมีคนไทยร่วมขบวนการอยู่ด้วย และไม่อยากให้โยงเข้าประเด็นการเมือง หรือกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง สำหรับเรื่องสถาบันเป็นเรื่องสำคัญและเป็นที่ยึดเหนี่ยวของประชาชนชาวไทย และขอให้หยุดพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว นอกจากนี้ยังพบว่าในประเทศไทยมีกลุ่มบุคคลร่วมสนับสนุนแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มที่เข้าไปดู และกลุ่มที่นำข้อมูลออกไปแชร์เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ส่วนนายแอนดรูว์ ทราบว่าไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบยังพบว่า นายแอนดรูว์ และน.ส.นพวรรณ มีการเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเดินทางไปทำกิจกรรมมั่วสุมกับกลุ่มขบวนการลักษณะดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบต่อไป” พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าว

          ทั้งนี้สำหรับความเคลื่อนไหวในเฟซบุ๊กชื่อ Andrew MacGregor Marshall หลังการคุมตัว น.ส.นพวรรณ ทางนายแอนดรูว์ โพสต์เรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ตั้งแต่เวลาประมาณ 08.13 น. พร้อมระบุว่า “ภรรยาของผม และครอบครัวของเธอ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวของผม และพวกเขาต้องไม่ถูกรังควานโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ”

          ขณะที่เฟซบุ๊กของ นายอานนท์ นำภา ได้โพสข้อความว่า ท่านใดที่เคยคุยหลังไมค์ทางเฟซบุ๊กกับ น.ส.นพวรรณ แฟนสาวของนายแอนดรูว์ ให้ทำการบล็อกเฟซบุ๊กโดยด่วน เนื่องจากถูกตำรวจกองปราบจับตัวไว้แล้ว
 

สอบนาน5ช.ม.ไม่พบเกี่ยวข้องก่อนปล่อยกลับ


          เมื่อเวลา 16.00น. วันที่ 22ก.ค. พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. พร้อมด้วยน.ส.นพวรรณได้ออกมาจากห้องสอบปากคำภายหลังคุมตัวมาสอบปากคำนานกว่า 5ช.ม.

          น.ส.นพวรรณ กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปค้นบ้านพักของตน เพื่อหาความเชื่อมโยงว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผยแพร่ภาพที่มีการหมิ่นเบื้องสูงหรือไม่ ซึ่งในเบื้องต้นจากการตรวจสอบตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตนมีสถานะเป็นเพียงภรรยาเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมายอมรับว่าได้พูดคุยกับนายแอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มารแชล สามี เฉพาะเรื่องส่วนตัวและเรื่องครอบครัวเท่านั้น ไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับงานที่นายแอนดรูว์ทำ อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างการสอบปากคำได้พูดคุยกับนายแอนดรูว์ทางโทรศัพท์ เพื่อบอกว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ไม่สมควรทำ พร้อมขอให้หยุดการกระทำลักษณะดังกล่าว ส่วนนายแอนดรูว์จะกลับมายังประเทศไทยเมื่อไหร่นั้น ยังไม่ได้คุยอย่างจริงจัง

          พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า จากการสอบปากคำพบว่า น.ส.นพวรรณและครอบครัวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานของนายแอนดรูว์ ซึ่งตนได้ฝากบอกให้นายแอนดรูว์หยุดพฤติกรรมดังกล่าว โดยนายแอนดรูว์เป็นชาวต่างชาติเพียงคนเดียวที่โจมตีสถาบันเบื้องสูงตลอดเวลา 4-5ปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีคนไทยร่วมกระบวนการอีกกว่า30คน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ที่ทางเจ้าหน้าตำรวจเชิญน.ส.นพวรรณและครอบครัวเข้ามาพูดคุย ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่า น.ส.นพวรรณมีความบริสุทธิ์ใจไม่เกี่ยวข้อง และเป็นคนไทยที่รักในสถาบัน

          อย่างไรก็ตามภายหลังจากการเชิญตัวน.ส.นพวรรณสอบถามปรากฏว่ามีทนายความเข้ามา ซึ่งในส่วนประเด็นนี้ ทางตัวของน.ส.นพวรรณไม่ได้มีการร้องขอ อีกทั้งขณะที่มีการสอบปากคำน.ส.นพวรรณได้มีทนายส่วนตัวมาร่วมสอบปากคำด้วย

          ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากพูดคุยในวันนี้แล้ว หากนายแอนดรูว์ยังมีพฤติกรรมโพสต์รูปที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบันอีกจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.ท.ฐิติราช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับความมีมนุษยธรรมต้องตอบให้ได้ว่าทำไปเพื่ออะไรและมีวัตถุประสงค์อย่างไร การกระทำดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้าตรวจค้นบ้านของ น.ส.นพวรรณ ทำให้ครอบครัวเดือดร้อน ทั้งนี้นายแอนดรูว์ อาจจะมีบุคคลรอบข้างคอยปลุกปั่น ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเรียกนายแอนดรูว์เข้ามาให้ปากคำหรือไม่นั้น ผบช.ก. กล่าวว่า ในส่วนนี้เป็นเรื่องของข้อกฎหมายระหว่างประเทศ การเชิญตัวน.ส.นพวรรณมาในวันนี้นั้นเพื่อปรับความเข้าใจ แต่นายแอนดรูว์จะเชื่อหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตามนายแอนดรูว์ต้องเชื่อภรรยาและบุคคลใกล้ชิด

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ