ข่าว

"ฝีดาษลิง" รอวันปะทุตลอดเวลา หมอดื้อ ย้ำ ไม่ได้ติดต่อง่ายเหมือน โควิด

"ฝีดาษลิง" รอวันปะทุตลอดเวลา หมอดื้อ ย้ำ ไม่ได้ติดต่อง่ายเหมือน โควิด

26 ก.ค. 2565

หมอดื้อ ระบุ "ฝีดาษลิง" ไม่ได้ติดต่อกันง่ายเหมือน "โควิด" ขณะพร้อมมีการปะทุได้ตลอดเวลา แม้ความสามารถในการแพร่เชื้อ จากคนสู่คน น้อยกว่า 1%

หมอดื้อ ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha ระบุว่า "ฝีดาษลิง" ไม่ได้ติดต่อกันง่ายแบบที่เราเห็นใน "โควิด" แม้ว่ากลไกการแพร่จะเป็นในลักษณะแบบเดียวกันคือ การสัมผัสใกล้ชิด โดยเฉพาะ ขณะมีเพศสัมพันธ์ สัมผัสกับผื่น (ยกเว้นที่เป็นสะเก็ดแล้ว) แพร่ทางละอองฝอย ไอ จาม และการแพร่จะเกิดขึ้นต่อเมื่อคนติดเชื้อเริ่มมีอาการแล้ว (ไข้ ปวดหัว ปวดเมื่อยตัว ปวดหลัง ตามด้วยผื่น ต่อมน้ำเหลืองโต)

 

"ฝีดาษลิง" เตรียมพร้อมที่จะมีการปะทุขึ้นตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้เนื่องจากประชาชนในทุกประเทศทั่วโลกมีการฉีด วัคซีนไข้ทรพิษหรือ ฝีดาษ ซึ่งสามารถมีภูมิคุ้มกันข้ามไปยัง "ฝีดาษลิง" ได้อย่างน้อยถึง 85%

 

แต่การฉีด วัคซีนไข้ทรพิษ ได้มีการยุติลงในปี 2523 ทั้งนี้เนื่องจากถือว่า ไข้ทรพิษ ได้สูญไปจากโลกแล้ว ดังนั้นคนที่เกิดก่อนปี 2523 ในประเทศไทย ซึ่งน่าจะมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป น่าจะยังมีภูมิคุ้มกัน "ฝีดาษลิง" อยู่ได้ แต่ไม่ทั้งหมด

 

ทั้งนี้ เมื่ออ้างอิงตามหลักฐานที่มีการศึกษารายงานในวารสาร นิวอิงแลนด์ในปี 2007 ศูนย์สัตว์จำพวกลิงในรัฐโอเรกอนของประเทศสหรัฐ โดยเป็นการศึกษาระยะยาวในเจ้าหน้าที่ 45 คนและทำการติดตามภูมิคุ้มกันจากการฉีดวัคซีนไปยาวเฉลี่ย 15 ปีหรือนานกว่า พบว่า 60% ยังคงมีภูมิคุ้มกันต่อฝีดาษลิงได้ หลังจากที่ฉีดวัคซีนไข้ทรพิษแล้ว

 

โดยที่ประเมินว่าภูมิที่ยังเหลืออยู่นั้น ควรจะมีระยะเวลาที่ใช้ได้อยู่ถึง 90 ปีจากการดูหลักฐานในเซลล์ความจำระบบ B cell และระดับของภูมิในน้ำเหลือง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจะสามารถยืนยาวได้ทั้งหมดทุกคนที่มีภูมิคุ้มกันหลงเหลืออยู่ ทั้งนี้เนื่องจากประสิทธิภาพของ ภูมิคุ้มกันในร่างกายจะถดถอยลงเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น สถานะภูมิคุ้มกันหมู่ (herd immunity)ที่ได้รับจากวัคซีนไข้ทรพิษ ทั้งใน แอฟริกา และทั้งโลก น่าจะเริ่มเสื่อมโทรมไป

 

นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันปาสเตอร์ได้ทำแบบจำลองคณิตศาสตร์ รายงานใน bulletin ของ องค์การอนามัยโลกในปี 2020 ได้ข้อสรุป และตั้งข้อสังเกตว่า "ฝีดาษลิง" จะมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ แปรตามสัดส่วนของภาวะภูมิคุ้มกันที่เริ่มลดลงในประชากรในประเทศแอฟริกา เช่น คองโก หลังจากที่หยุดการฉีดวัคซีนไข้ทรพิษ ซึ่งสามารถป้องกันข้ามไปยัง "ฝีดาษลิง" ได้ และเริ่มเห็นการระบาดหนาตาขึ้นเรื่อยๆ

 

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเหมือนกับเป็นการนับวันรอปะทุ โดยที่ความสามารถในการแพร่จากคนหนึ่งไปสู่คนอื่นที่เดิมน้อยกว่าหนึ่ง ประมาณ 0.7-0.8 นั่นคือ คนติดเชื้อหนึ่งคน สามารถแพร่ต่อไปหาคนอื่นได้น้อยมาก แต่อาจจะสูงขึ้น เป็นมากกว่าหนึ่ง และนั่นหมายถึง การระบาดแพร่กระจายจะไม่จบสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว (sustained transmission)

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Line : https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w