ข่าว

"เพาะรัก" เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์กรที่มีความพร้อมให้ความช่วยเหลือเด็กและครอบครัวที่ขาดโอกาส ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความสุข

“เพาะรัก” เพราะรัก

 

เพราะ...อยากเห็นเยาวชนผู้ด้อยโอกาสได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

เพราะ...อยากเห็นเยาวชนผู้ด้อยโอกาส เป็นคนดี คนเก่ง และมีความสุข

เพราะ...อยากให้ทุกคนในสังคมนี้มีโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาเท่าเทียมกันทุกคน 

 

โครงการดี ๆ ภายใต้การดูแล มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ เพื่อเด็กและเยาวชน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี  ที่มีหน้าที่ส่งมอบโอกาสให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลและด้อยโอกาสหลายครั้งที่เดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกล เราเคยสงสัยไหมว่า ผู้คน ชาวบ้านและเด็ก ๆ ที่ชุมชนนั้น ๆ มีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร อนาคตของพวกเขาจะเติบโตไปในทิศทางใด เราพูดไม่ได้หรอกว่า พวกเขาคงมีความสุขหรือทุกข์ กับวิถีชีวิตแบบที่เรียบง่ายนี้ เราเป็นเพียงผู้มาเยือนในดินแดนที่แปลกตาและตื่นใจ ได้เห็นความงามของธรรมชาติเพียงชั่วคราว ก็เหมาเอาว่านั่นคือความสุข

 

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

 

ดินแดนที่แสนไกล การเดินทางไปมาหาสู่ยากลำบาก ยิ่งช่วงฤดูฝนแล้ว แม้แต่เดินเท้ายังแทบเป็นไปไม่ได้ ถ้าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เราคิดว่านี่คือความสุข ๆ จากความดิบของถนนหนทาง ในยามเจ็บป่วย ไปเรียนหนังสือ หาซื้อสิ่งจำเป็นในชีวิต ล้วนเป็นไปอย่างยากลำบาก เพียงเพราะว่า “โอกาส” ในการเข้าถึง ความเจริญ หาหมอ และโรงเรียน จะดีแค่ไหนถ้าวันนี้ คุณเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่หยิบยื่นโอกาสดี ๆ ให้พวกเขา

 

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

จากการลงพื้นที่สำรวจ ทำให้เราได้พบกับบางคนที่ประสบความสำเร็จ จากการที่ผู้ใหญ่ใจดีหยิบยื่นให้ผ่าน มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ แม้จะไม่ได้มากมายในตัวเงิน แต่มหาศาลด้วยความสุขและโอกาสที่ดีขึ้น เราลองมาติดตามกันว่าเรื่องราวของแต่ละคนนั้นเป็นอย่างไร

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

 

จุรีย์ มาเยอะ

ผู้ด้อยโอกาส ไม่ใช่ผู้ปล่อยโอกาส


จุรีย์ มาเยอะ อายุ 27 ปี อดีตแกนนำเด็ก CCF

 

ปัจจุบันทำหน้าที่ ครูพี่เลี้ยงเด็ก  อยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ที่ไม่เคยปล่อยโอกาสให้หลุดลอย จุรีย์เล่าว่า “เมื่อเข้าร่วมกับโครงการ สิ่งที่ได้รับจากโครงการ คือทุนการศึกษาทุกปีตลอดระยะเวลาที่ร่วมกับโครงการพร้อมทั้งเสื้อกันหนาว เครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียนที่จำเป็น อาหารแห้งเพาะเห็ดฟาร์ม เลี้ยงไก่ ซึ่งสามารถต่อยอดเป็นอาชีพเสริมหารายได้ให้แก่ครอบครัวได้อีกทาง มี ผู้อุปการะใจดีและพี่เจ้าหน้าที่ในโครงการคอยสนับสนุนด้านการเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับผู้ปกครองในเรื่องค่าใช้จ่ายในด้านการศึกษามีส่วนสำคัญที่สามารถช่วยให้ศึกษาจนจบ”  แต่แล้วก็ต้องออกจากโครงการ เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพของคนในครอบครัว แต่ก็ยังได้รับโอกาสให้กลับมาร่วมงานกับโครงการอีกครั้งในฐานะแกนนำที่ช่วยประสานเอกสารข้อมูลกับเด็กรุ่นต่อมาที่เข้าร่วมโครงการกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ จุรีย์เล่าเพิ่มเติมว่า “ความเป็นอยู่ของชาวบ้านในหมู่บ้านไม่ได้ร่ำรวยเพราะคนในหมู่บ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ปลูกข้าว ซึ่งรายได้ก็ไม่แน่นอน การมี มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ เข้ามา ช่วยให้เพิ่มโอกาสให้กับคนที่อยู่ห่างไกล เพิ่มโอกาสให้คนที่อยู่ห่างไกลได้มีการศึกษาที่ดี รู้ไหมว่าการศึกษาสำคัญมาก ความสำคัญของการศึกษาที่ตัวจุรีย์ได้รับอย่างต่อเนื่องทำให้ได้รับโอกาสให้มาเป็นครูพี่เลี้ยงในปัจจุบัน และช่วยลดปัญหาการเงินในครอบครัว เนื่องจากมีความมั่นคงทางการเงินรองรับในด้านการศึกษาจาก มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ  ขอบคุณ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ที่ช่วยสนับสนุนเงินทุนให้ตัวเองได้ศึกษาจนจบและปัจจุบันหลานชายอายุ 7 ขวบที่กำพร้าพ่อได้รับเข้าโครงการ  ด้วยเช่นกัน ทำให้หลานชายได้มีโอกาสเช่นเดียวกับตัวเองในด้านการศึกษาแม้จะขาดแคลนทุนทรัพย์”

 

อรวรรณ แซ่หมื่อ

ฝันเป็นจริงในสิ่งที่รัก

 

อรวรรณ แซ่หมื่อ ครูแอ๊น (อดีตเด็กในโครงการ ที่ทำฝันในวัยเด็กให้เป็นจริง)

ปัจจุบัน อายุ 25 ปี รับราชการครู ตำแหน่งครูผู้ช่วย โรงเรียนบ้านแม่จัน (เชียงรายประชานุสาสน์) อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย เข้าร่วมในโครงการของ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ  ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่สอง จนจบการศึกษาชั้นปริญญาตรี พื้นเพครอบครัวเป็นเกษตรกร

ทำนา ทำไร่ ทำสวน ชนเผ่าชาติพันธุ์อาข่า ครอบครัวมีด้วยกันหกคน พี่ชายก็เป็นครู พี่คนกลางก็เข้าร่วมโครงการ ความฝันเดียวตั้งแต่เด็ก คือ ครู ตชด. ปัจจุบันเป็นครูบรรจุเรียบร้อยแล้ว ครอบครัวอยากให้เรียนหนังสือแม้ฐานะจะไม่ค่อยดี พร้อมสนับสนุนอยู่เสมอ พอได้ถ้าเข้าร่วมโครงการกับมูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ จึงช่วยให้ได้เรียนต่อ หลายๆ ฝ่ายผลักดันให้เข้าเรียน และได้เป็นครูตามที่ฝันไว้ ไม่ต้องทำงานในโรงงานเหมือนคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน ด้วยความตั้งใจ มุ่งมั่น และยิ่งได้รับโอกาสก็ไม่ทำให้เสียเปล่า การศึกษาทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลง เทียบกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันที่ไม่ได้เรียนต่อ เนื่องด้วยปัญหาเรื่องการเงินและไม่ได้รับโอกาสทางการศึกษาแบบตัวเอง เสียดายแทนเพื่อนๆ ที่ไม่รับโอกาสทางการศึกษาเหมือนเรา ชีวิต ดีขึ้นหลังจากรับทุน เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินและความต่อเนื่องในเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้ตั้งใจมุ่งมั่นกับการศึกษาได้เต็มที่ เมื่อเรียนจบได้เป็นครูก็ได้รับสิทธิรักษาพยายามแบ่งเบาภาระได้อีกทาง ขอบคุณ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ และผู้อุปการะ ที่ให้โอกาส มอบทุนการศึกษา และกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมทักษะความรู้ มาตลอดตั้งแต่เข้าโครงการมา พัฒนาตนเองจนมีวันนี้ ได้เป็นครูตามฝันได้สำเร็จ ความสำเร็จของเราในวันนี้ ได้ช่วยส่งต่อให้เด็กๆ ในหมู่บ้าน ที่มีความฝันอยากเป็นครูได้มีแรงบันดาลใจทำตามความฝันของตัวเองต่อไป

“ทุนการศึกษาจะช่วยพัฒนาเด็กที่มีความตั้งใจ และความฝันให้สามารถเป็นจริงได้ เหมือนตัวเอง”

 

 

อิสต้า มาเยอะ

 

ความรู้ ทำให้คนไม่รู้ อยู่ได้


อิสต้า มาเยอะ แกนนำนักธุรกิจพลังบวก

อีกหนึ่งตัวอย่างของเด็กในโครงการ น้องสาย อายุ 16 ปี ปัจจุบันเป็นนักเรียนกำลังขึ้นชั้นมอสี่ เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ชั้นปอหนึ่ง อายุ 7 ขวบ จุดเริ่มต้นมาจากคุณพ่อ ซึ่งท่านสมัครให้ร่วมโครงการ เนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจน ที่โรงเรียนก็มีเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกหลายคนได้เข้าร่วมกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ.ฯ ได้รับทุนจากโครงการ ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้าน  นอกจากทุนยังมีของกินของใช้ ที่จำเป็นตามฤดูกาลบริจาคมาให้อยู่เป็นประจำ เมื่อเข้าร่วมกับโครงการสิ่งที่ได้คือโอกาสในการได้เรียนรู้และอบรมทักษะต่างๆ ที่ต้องใช้ในยุคปัจจุบัน แล้วนำความรู้ที่ได้มาเผยแพร่ให้เด็กๆ รอบตัว ทำให้ตัวเองเกิดความภูมิใจ ทั้งยังนำมาต่อยอดให้กับตัวเองในการสร้างอาชีพ

 

ปัจจุบันน้องสาย มีโปรเจคธุรกิจขายออนไลน์อบรมทักษะ เพื่อเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ และโดยนำความรู้ไปต่อยอดลงมือด้วยตัวเอง เฟซบุ๊กสำหรับธุรกิจชื่อว่า น้องสายขายตามใจ คอนเซ็ปต์ คือ ขายทุกอย่างที่อยากขาย โดยจะหยิบสินค้าที่เป็นกระแสหรือฤดูกาลมาโพสต์หน้าเพจ และขนมกับอาหาร เป็นสินค้าที่รับมาขาย ความรู้สึกที่ได้ คือ ความสนุกที่ได้เจอโลกกว้างและความช่วยให้กล้าแสดงออก ได้รับประสบการณ์ในการขายของออนไลน์ด้วยตัวเอง

 

“หนูอยากเป็นนักธุรกิจ และมีแบรนด์สินค้าของตัวเอง ทำเป็นธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ ของหนูเอง หนูเริ่มขายออนไลน์ตั้งแต่ประถม 6  ถึงทุกวันนี้ ก็มีค่าขนมใช้กินจากเงินที่ขายของโดยไม่รบกวนเงินจากทางบ้าน”

การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ ทำให้คนที่ไม่รู้ สามารถรู้เท่าทันกับคนอื่น ๆได้ ต่อยอดและพัฒนาตนเองได้ ช่วยให้มีช่องทางหาเงินของตัวเอง ถึงแม้ครอบครัวจะไม่สามารถสนับสนุนได้

 

มณีนุช เยเพียว

 

ความสุขโดยสังเขป

 

มณีนุช เยเพียว (อดีตเด็กในโครงการที่ประสบความสำเร็จ)

อดีตเด็กน้อยอายุ 4 ขวบ ที่เริ่มต้นชีวิตและได้รับโอกาสครั้งใหญ่จาก มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟฯ จนจบ ปวช.  ปัจจุบันอายุ 24 ปี ทำงานที่อบต.แม่สลองนอก ในตำแหน่งธุรการ ได้เข้าร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ และกิจกรรมอบรมกับเจ้าหน้าที่ เสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กๆ กล้าแสดงออกมากขึ้น ได้เป็นตัวแทนกับเพื่อนๆ ร่วมกิจกรรมกับ สสส. เพื่อพัฒนาชนเผ่าพันธุ์ของตัวเองยังไงให้ดีขึ้น โดยการนำเสนอวัฒนธรรมและการใช้ชีวิตในคนชนเผ่าธุ์อาข่า ได้รับทุนการศึกษา และเครื่องนุ่งห่มเมื่ออากาศหนาว

 

มณีนุชย้อนความทรงจำในวัยเด็กให้ฟังว่า “สมัยยังเด็กไม่มีไฟฟ้าใช้ ทำให้มีปัญหาเรื่องการให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย และของใช้ในชีวิตประจำวัน เมื่อต้องเรียนต่อและใช้ทุนเพิ่มก็ได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายของ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟฯ ช่วยเหลือ ทำให้เรียนจบ สามารถมีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ทั้งยังได้ทำงานกับ อบต. เป็นเรื่องที่เกินฝันสำหรับเด็กคนหนึ่ง เพราะจากคนรอบตัวที่ไม่ได้เรียนต่อส่วนใหญ่ต้องเข้าเมืองมาทำงาน เพราะจบม.3 ไม่ทำงานโรงงาน ก็เป็นเด็กเสิร์ฟ พอมี มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟฯ เข้ามาช่วยเหลือเด็กยากจน ด้อยโอกาส ให้ได้รับโอกาส จึงถือว่าเป็นส่วนที่ทำให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

 

ความฝันที่อยากจะเป็นนักบัญชีตั้งแต่เด็กๆ เพราะชอบวิชาคณิตศาสตร์ เมื่อจบม.6 ก็ศึกษาต่อ ปวช ได้ฝึกงานและมีพี่ๆ ชวนเข้าทำงาน ถ้าไม่ได้ร่วมโครงการกับ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟฯ ตั้งแต่ตอนเด็ก ก็ยังไม่รู้ว่าจะมาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร  คงทำงานโรงงานกับเพื่อนๆ ในเมือง แต่พอได้รับโอกาสทางการศึกษาจึงสามารถหางานที่ได้อยู่ใกล้ๆ ดูแลพ่อแม่ และช่วยพัฒนาชุมชนที่ตัวเองอยู่ไปด้วย ช่วยลดรายจ่ายให้กับตัวเองและครอบครัว ประหยัดค่าเดินทาง เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ที่จบม.3 หรือม.6 ก็จะไม่ได้เรียนต่อ เพราะครอบครัวไม่สามารถส่งเรียนต่อได้ ทำงานในเมืองกลับบ้านปีละครั้ง หลายๆ คนก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาดูแลพ่อแม่

 

ความฝันตอนนี้คือการได้เป็นรับราชการในตำแหน่งนักบัญชี ยังอยากสานฝันตัวเองให้สำเร็จ ชีวิตเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้รับความช่วยเหลือกับโครงการ ทำให้มีทุนการศึกษา และชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน ทั้งนี้ยังได้ทำเงินส่วนนึงไปเป็นค่าเทอม เพื่อสมัครเรียนที่โรงเรียนสอนภาษาจีน ทำให้สามารถสื่อสารภาษาจีนเบื้องต้นได้ ช่วยแบ่งเบาภาระของพ่อแม่ที่มีอาชีพรับจ้างทั่วไป สามารถต่อยอดความสนใจและความรู้ให้มากขึ้น โชคดีที่ได้เข้าร่วมกับโครงการตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้ต่อเนื่อง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามผลการเรียนสม่ำเสมอ 

 

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

เราไม่สามารถรู้ได้ว่าความสุขของแต่ละคนอยู่ที่ไหน แต่เราเชื่อว่า ความสุขของน้อง ๆ บนดอยสูง ในป่าเขา ในที่ลับตา หรือหมู่บ้านในนิทาน อยากที่จะตื่นขึ้นมาและออกไปทำงานตามสิ่งที่ฝัน และอยู่ไม่ไกลจากบ้าน อย่างน้อยก็ยังได้ดูแลพ่อแม่ น้อง ๆ และยังเชื่ออีกว่า การได้ทำตามความฝัน มีความสุขเพียงเล็กน้อยแต่สัมผัสได้จริง ๆ โดยไม่ต้องแสวงหาจากโลกภายนอก นั้นคือความสุขที่แท้จริง

 

และถ้าคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากมอบความสุขเพียงเล็กน้อย แต่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้รับ สามารถติดตามรายละเอียดการแบ่งปัน และสนับสนุนความสุข บ่มเพาะรัก ได้ที่ มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. มอบโอกาสตั้งต้นให้เด็กและเยาวชนด้อยโอกาสวันนี้ เงินบริจาคจากท่านจะได้รับการจัดสรรอย่างระมัดระวัง เพื่อการปลูกคน ปลูกอนาคต แก่เด็กที่ท่านอุปการะ อย่างยั่งยืนผ่าน มูลนิธิ ซี.ซี.เอฟ. เพื่อเด็กและเยาวชนในพระราชูปถัมภ์ฯ โทร 02 747 2600 หรือที่ https://bit.ly/3wJvWOG

\"เพาะรัก\"  เพื่ออนาคตเด็กและเยาวชนขาดโอกาสในพื้นที่ห่างไกล

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ