ข่าว

เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแหล่งกบดาน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" (มีคลิป)

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"รองเด่น" นำกำลังตำรวจ PCT สนธิกำลังภูธรภาค 2 บุกชายแดนสระแก้ว เปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายแหล่งกบดาน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" ตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดน

แม้จะมีการกวาดจับ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ไปแล้วจำนวนมาก รวมถึงมีการประกาศแจ้งเตือนภัยผ่านสื่อตามช่องทางต่าง ๆ แต่กลุ่มมิจฉาชีพก็ยังไม่หมดไป และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกลอุบาย อาทิ ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลอกว่าได้รับรางวัล หลอกว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด หลอกให้กู้เงินออนไลน์ หลอกให้หลงรัก และพัฒนาไปถึงการหลอกให้โอนเงินเข้าเว็บเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี่ ซึ่งเป็นเว็บเทรดผี โดยโอนเงินเข้าไปในรูปแบบสกุลเงินดิจิทัล (Usdt) แล้วไม่สามารถถอนเหรียญได้ และมีผู้เสียหายจำนวนมาก 

ล่าสุดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยกองบังคับการตำรวจ PCT ได้สนธิกำลังกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ร่วมกันสืบสวนตามข้อมูลที่ได้จากภาคประชาชนผ่านชุดลาดตระเวนออนไลน์ สืบ ภ.2  และชุดปฏิบัติการ PCT

จนสืบสวนทราบว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ในประเทศไทย มีสองสามีภรรยาทำหน้าที่ประสานงานกับชาวไทยหัวหน้าเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศกัมพูชา เป็นธุระจัดหาคนไทยไปทำงานผ่านเว็บจัดหางานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รับสมัครงานไปปอยเปต อรัญประเทศ สระแก้ว โดยล่อลวงว่ามีรายได้ดี งานสบาย เมื่อมีคนหลงเชื่อ คนร้ายจะขับรถไปรับถึงบ้านพักและนำพาไปส่งข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา คณะทำงานได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้กระทำผิด จำนวน 2 ราย

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร (PCT) ได้นำทีมเปิดปฏิบัติการบูรพา 491 ทลายคอลเซ็นเตอร์ตัดวงจรส่งคนไทยข้ามแดนจับกุม และตรวจค้นเซฟเฮ้าลับประชิดชายแดนที่ใช้เป็นที่พักคนไทยก่อนนำตัวข้ามไปยังประเทศกัมพูชา โดยจับกุม นายณฐกร (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี และ น.ส.อ้อยใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี 

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันเป็นอั้งยี่ โดยเป็นผู้มีตำแหน่งหน้าที่ในคณะบุคคลนั้น , ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น , หน่วงเหนี่ยวหรือกักชังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย , เพื่อจะเอาคนลงเป็นทาส หรือให้มีฐานะคล้ายทาส หรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร หรือหน่วงเหนี่ยวซึ่งบุคคลหนึ่งบุคคลใด , เพื่อให้ได้มาซึ่งค่าไถ่ โดยหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังบุคคลใด มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”

ภายหลังการจับกุมผู้ต้องหา ได้ตรวจเก็บพยานหลักฐานบุคคลทั้งหมดในบ้านหลังดังกล่าว และตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ ที่สำคัญคือ หนังสือผ่านแดน (BORDER PASS) สมุดบัญชีธนาคาร สมุดจดบันทึกรายการเข้าออกและค่าใช้จ่าย 

จากนั้นขยายผลจนทราบเส้นทางที่กลุ่มผู้ต้องหาลักลอบขนคนข้ามแดน จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบบริเวณด้านหลังปราสาทสด๊กก๊อกธม โดยมี นายเอ (ขอสงวนนาม) ผู้เสียหายซึ่งเคยถูกหลอก ให้ข้อมูลกับ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ว่าตนเองเป็นชาวบ้าน ไม่มีความรู้ จึงถูกหลอกไป เมื่อข้ามแดนจนไปถึงที่ทำการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ถูกจับลักษณะคล้ายทาส ทำงานหลอกคนไทยให้โอนเงินให้ โดยทำงานวันละ 15 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด หากขัดขืนก็จะถูกทารุณ ทั้งการกักขัง ทำร้ายร่างกาย หากเป็นหญิงสาว บางรายถูกข่มขืน บางรายถูกขายต่อให้กับแก๊งอื่นเหมือนติดอยู่ในขุมนรก ไม่อยากให้คนไทยถูกหลอกเช่นนี้อีก 

จากนั้น พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้สอบปากคำขยายผลผู้ต้องหาทั้งสองที่ สภ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โดยนายณฐกร รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ว่ารับจ้างขนคนไทยข้ามแดน จุดที่นำพาคนไทยข้ามชายแดนไปยังประเทศกัมพูชา คือทุ่งนาหลังปราสาทสด๊กก๊อกธม  จากนั้นคนกัมพูชา 3 คน จะมารอรับคนเดินข้ามไป ซึ่งต้องเดินเท้าอีกประมาณ 4 กิโลเมตร จึงจะถึงชายแดน

ส่วนที่ต้องให้คนเขมรมารับ เพราะชายแดนฝั่งกัมพูชาจะมีกับระเบิดอยู่ หากไม่ชำนาญเส้นทางจะทำให้ถูกกับระเบิดได้ โดยการรับจ้างข้ามแดนนี้ได้ค่าจ้างต่อหัว 6,500 บาท ซึ่งหมู่บ้านริมชายแดนมีขบวนการแบบนี้อีกหลายราย 

ด้าน น.ส.อ้อยใจ ให้การภาคเสธว่าเคยทำงานคอลเว้นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา ที่สีหนุวิลล์ แผนกบัญชีถอนเงิน เดินทางกลับบ้านจะรอทำเรื่องหย่าสามีเก่า

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ได้พยานหลักฐานมาพอสมควร สามารถออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมรวม 17 คน โดยเฉพาะ นายสุคนธนารักษ์ นาคจันทร์ หรือฉายา ปอ หนวดงาม ตัวการใหญ่คนไทยที่ควบคุมคนไทยหลอกคนชาติเดียวกัน โดยจะเร่งประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเร็ว เพราะมีคนที่ถูกหลอกลวงจำนวนมากกำลังรอความหวัง 

ติดตามไลฟ์สดที่นี่

Live ต่อ


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ