ชวนปลูกโกโก้ "สร้างรายได้" ใช้ปุ๋ยน้อยลูกดก ทำเงินดี

          เพราะในขณะนี้ประเทศไทยต้องนำเข้าเมล็ดโกโก้และยังมีความต้องการโกโก้จำนวนมาก เพื่อให้เพียงพอต่อภาคอุตสาหกรรรม เนื่องจากปัจจุบันบ้านเรานำเข้าเมล็ดโกโก้ในช่วงปี 2558-2562 เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18.72 ต่อปี และในปี 2562 มีปริมาณการนำเข้า 980.20 ตัน ส่วนใหญ่นำเข้าจากประเทศคองโก และกิบี และจากประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ผลิตภัณฑ์โกโก้ที่ไทยนำเข้ามากที่สุดคือ ช็อกโกแลต และอาหารปรุงแต่งที่มีโกโก้ รองลงมาคือ ผงโกโก้ที่ไม่เติมน้ำตาลหรือสารทำให้หวานอื่นๆ อาทิ โกโก้เพสต์ (Cacao Paste) และโกโก้บัตเตอร์ (Cocoa Butter)

 

 

 

 

          และด้วยเพราะความต้องการโกโก้ในบ้านเรามีค่อนข้างมาก  ดังนั้นหากใครจะลองปลูกเพื่อไว้ทำเป็นเครื่องดื่ม หรือทำอาหารก็น่าจะทดลองปลูกไว้ และหากขยายการปลูกเพื่อการค้าขายได้ยิ่งดี พราะแต่ละปีมีการนำเข้าเมล็ดแห้งสูงถึงปีละ 60,000-80,000 ตัน (ขณะที่กำลังการผลิตในประเทศมีไม่ถึง 1,000 ตัน) เพื่อนำมาแปรรูปได้หลายชนิด ทั้งอาหาร ขนมหวาน ยา เครื่องสำอาง ฯลฯ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้องล่าสุด 

• “ครีบปลาวาฬ” ต้นไม้ใบเก๋ ปลูกในห้องนอนฟอกอากาศได้
• รู้จัก เจตมูลเพลิงแดง ต้านเนื้องอกลดเสี่ยง "มะเร็ง"
• “มะละกะ” ผลไม้หายากชื่อเหมือนมะละกอ แต่หน้าตาคล้ายลองกองและลางสาด
• สูตรบรรเทาเจ็บป่วยด้วย “กระเจี๊ยบแดง” สมุนไพรสรรพคุณเลิศ
• กิน “สมุนไพร” บรรเทาเลือดจะไปลมจะมาในวัยทอง

 

 

          นอกจากนี้โกโก้ยังมีจุดเด่นที่ทนแล้งได้ดี  สามารถปลูกร่วมกับไม้ผลอื่น ๆ ในลักษณะสวนป่าได้แทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ลิ้นจี่ ลำไย ทุเรียน หรือยางพารา สามารถค่อย ๆ เริ่มจากน้อย ๆ ไปหามาก หรือปลูกเป็นอาชีพเสริมก็ได้เช่นกัน โดยสภาพพื้นที่ที่เหมาะสมกับการทำสวนโกโก้ มักจะเป็นดินร่วนปนทราย ที่มีการระบายน้ำค่อนข้างดี และมีฝนตกกระจายสม่ำเสมอ พื้นที่ปลูกโกโก้ควรมีไม้ให้ร่มเงา พื้นที่ที่แนะนำให้ปลูกโกโก้คือ ภาคใต้ และภาคตะวันออก แต่ปัจจุบันมีหลายภูมิภาคที่ปลูกโกโก้ได้ เช่น ภาคเหนือในบางจังหวัด

 

 

 

 

          มีเกษตรกรหลายจังหวัดตัวอย่างเช่น ปราจีนบุรีที่เริ่มจากปลูกโกโก้ร่วมกับผลไม้ต่างๆ คือ ขนุน มะนาว กล้วย แต่ปัจจุบันรายได้หลักมาจากโกโก้ โดยมีผลผลิตให้บริษัทเข้ามารับซื้อตลอดทุกสัปดาห์  ซึ่งการปลูกโกโก้ไม่ต่างจากผลไม้อื่นๆ เพียงขุดหลุมกว้าง กว้างxยาวxลึก 50 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยอินทรีย์ที่มีทั้งธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง และในช่วงที่ต้นยังเล็กในปีแรก ต้องทำทำสแลนพรางแสง ป้องกันใบไหม้  แต่หากปลูกในสวนผสมจะช่วยทำให้มีร่มเงาธรรมชาติดีกว่า

 

 

 

          ส่วนการดูแลจากตัวอย่างของเกษตรกรชาวปราจีนบุรีจะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ทั้งหมด และใส่เพียงปีละประมาณ 2 ครั้งเท่านั้น  นอกจากนั้นคือการดูแลรดน้ำและตัดแต่งกิ่งเป็นประจำ และการเริ่มต้นปลูกเพียง 2 ปีก็เริ่มให้ผลผลิตได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ที่สำคัญคือในการซื้อขายจะชั่งทั้งผลรวมเปลือก ปัจจุบันราคารับซื้ออยู่ที่ 10 บาท/กิโลกรัม ช่วงปีแรก ๆ ผลผลิตยังไม่มาก อาจเก็บขายทุก 1-2 สัปดาห์/ครั้ง แต่หากต้นโกโก้อายุได้ 5 ปีขึ้นไป จะได้ผลผลิตสูงถึง 200 กิโลกรัม/ต้น/ปี (ต่อการปลูกประมาณ 5-8 ไร่)  ฉะนั้นการปลูกโกโก้เพียง 2 ปี ก็สามารถสร้างรายได้ให้เป็นประจำทุกสัปดาห์แล้ว

 

 

 

 

          จะเห็นได้ว่าการปลูกโกโก้สามารถสร้างรายได้และทำเงินได้ดี  หากใครสนใจปลูกสามารถติดต่อเรื่องต้นกล้าโกโก้ ในศูนย์วิจัยทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ ศูนย์วิจัยพืชสวนเชียงราย ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ศูนย์วิจัยพืชสวนเลย และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจันทบุรี  สถาบันวิจัยพืชสวน กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 02-579-0583, 02-940-5484-5 และศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร เลขที่ 70 หมู่ที่ 2 ตำบลวิสัยใต้ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร 86130 โทรศัพท์ 07-755-6073

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก https://www.facebook.com/agriculturemag, https://www.technologychaoban.com