"กระท่อม" กู้วิกฤติฐานราก แห่ขุดจากป่า เพาะพันธุ์ขาย สร้างรายได้อย่างดี

               ตอนนี้ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช กำลังเกิดอาชีพใหม่ นั่นคือการขุดต้นพืช "กระท่อม" ขี้หมูตามทุ่งนา ป่าละเมาะขาย  กระท่อมขี้หมูแม้จะบริโภคไม่ได้ แต่มักจะถูกนำไปเป็นต้นแม่ ในการเพาะพันธุ์กระท่อม ด้วยวิธีการเสียบยอด  ทาบกิ่ง  ติดตา  สายพันธุ์ที่นิยมนำมาทาบกิ่งตอนนี้  คือ  ทั้งพันธุ์แตงกวา พันธุ์หางกั้ง พันธุ์ก้านแดง พันธุ์ยักษ์รักษา โพธิ์ทอง 

               กระท่อมขี้หมูเติบโตดี แข็งแรงทนต่อทุกสภาพภูมิอากาศ  เมื่อติดตา เสียบยอดหรือทาบกิ่งกับต้นกระท่อมขี้หมูใช้เวลาแค่ 3-6 เดือน จะออกใบ สามารถนำมาบริโภคหรือจำหน่ายได้ทันที วิธีนี้รวดเร็วทันใจกว่าการปลูกด้วยเมล็ดที่ต้องใช้ระยะเวลาถึง 3 ปี จึงจะเก็บใบมาบริโภคได้  ที่สำคัญวิธีการเพาะเมล็ด ใบที่ออกมาจะอ่อน เหม็นเขียวและมีรสขมจึงไม่นิยมบริโภค

         ตอนนี้กระท่อมขี้หมูกำลังเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ละวันก็จะมีชาวบ้านในหลายอำเภอชักชวนกันแบกจอบ เสียม พร้อมกระสอบมุ่งสู่ทุ่งนา ป่าละเมาะ ต้นเล็กมัดรวมกันมัดละ 50-100 ต้นจำหน่ายในราคาต้นละ 5-20 บาท  ต้นใหญ่ เท่าข้อมือราคาจะสูงต้นละ 30-40 บาท สร้างรายได้ต่อคนไม่น้อยกว่าวันละ 1,000-2,000 บาท มีลูกค้าทั้งในและต่างจังหวัดสั่งซื้ออย่างไม่จำกัดจำนวน  

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• หลากเมนู "กระท่อม" ฟีเว่อร์ น้ำปั่น-ใบทอดกรอบ สร้างรายได้ "ยุคโควิด-19"
• หนุ่มสงขลาเปิดขาย "น้ำกระท่อม" ออร์แกนิคแช่เย็น ขายดีกำไรเกินครึ่ง
• รวยด้วย "กระท่อม" หนุ่มตรังขายใบสด กำไรวันละ1,000บาท

             นายวันชัย เยี่ยมศิริ อายุ 46 ปี หมู่ 3 ต.ช้างซ้าย อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช  ก็เป็นอีกคนหนึ่ง  ที่สามารถพลิกฟื้นชีวิตขึ้นมาได้อีกครั้งหลังปลดล็อคพืชกระท่อม  เผยก่อนหน้านี้โดนพิษโควิด-19 ถล่มหนักจนกิจการร้านอาหารปิดตัว หมดหวัง หมดกำลังใจ ไร้แรงสู้

               ตอนนี้ทุ่มทุนใช้ที่ดิน 7 ไร่เปิดเป็นร้านขายพันธุ์พืชกระท่อมรวมทั้งรับซื้อต้นกระท่อมขี้หมูจากชาวบ้าน  ตั้งแต่วันที่ปลดล็อคพืชกระท่อมมาจนถึงตอนนี้  จำหน่ายต้นกระท่อม ไปแล้วประมาณ 3,000 ต้น ในรายคาต้นละ 250-300 บาท  ทำให้แต่ละครอบครัวมีรายได้เข้ามาทุกวัน สร้างความเป็นอยู่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด.

ไพฑูรย์  อินทศิลา ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.นครศรีธรรมราช