เตือน "work from home" ทำงานผ่านออนไลน์ต้องระวัง Ransomware เรียกค่าไถ่ข้อมูล  

ปัจจุบันที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ที่สร้างสรรค์ แต่ขณะเดียวกันทำให้เกิดอาชญากรรมรูปแบบใหม่ขึ้นมา และปัญหาหนึ่งที่กำลังระบาดคือ การเรียกค่าไถ่ข้อมูลหรือ Ransomware ซึ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวแล้ว 

ตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ข้อมูลจากสื่อต่างประเทศระบุว่า บริษัทไอทีหลายร้อยแห่งในสหรัฐอเมริกา ถูกกลุ่มแฮกเกอร์จากรัสเซียเข้าโจมตีและมีการเรียกค่าไถ่ข้อมูลกว่า 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ส่วนใหญ่ "work from home" ต้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์ เจะควรป้องกันและพร้อมรับมืออาชญากรรมรูปแบบดังกล่าว

สำหรับรูปแบบของการเรียกค่าไถ่ข้อมูลหรือ Ransomware จะแฝงตัวมาในรูปแบบของอีเมลล์ที่แนบลิงค์มาด้วย หรือลิงค์ที่แอบแฝงอยู่ในโฆษณาบนเว็บไซต์ต่าง ๆ เมื่อเหยื่อกดเข้าไปที่ลิงค์ดังกล่าว ก็จะเป็นการรับเอามัลแวร์เข้ามาในเครื่องคอมพิวเตอร์โดยไม่รู้ตัว 

จากนั้นมัลแวร์ก็จะแพร่กระจายไปยังข้อมูลต่าง ๆ เมื่อมัลแวร์ได้แพร่กระจายไปครอบคลุมข้อมูลที่บรรดาแฮกเกอร์ต้องการแล้ว ก็จะล็อคข้อมูลดังกล่าว ไม่ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลได้ และจะปรากฎข้อความขึ้นมาแจ้งว่าข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกล็อคไว้ หากต้องการปลดล็อคจะต้องจ่ายเงิน ไม่เช่นนั้นจะลบข้อมูล แต่ในช่วงหลังเริ่มมีการข่มขู่ว่าจะปล่อยข้อมูลสู่สาธารณะหรือนำไปประมูลขาย เป็นต้น

ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ที่กระทำลักษณะดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความ ผิด เช่น

• ฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
• ความผิดฐานเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สําหรับตน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

โดยปัญหาดังกล่าวทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีให้เป็นหน่วยงานหลัก ในการเฝ้าระวัง สืบสวนปราบปรามผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหาย, ตัดโอกาสในการกระทำความผิด 

สำหรับแนวทางการป้องกันการถูกเรียกค่าไถ่ข้อมูลหรือ Ransomware เช่น

• ต้องสำรองข้อมูลที่สำคัญอยู่เสมอ
• เลือกใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีคุณภาพ
• หมั่นตรวจสอบและอัพเดทซอฟต์แวร์
• อัพเดทระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันต่าง ๆ
• ควรหลีกเลี่ยงการกดลิงก์หรือไฟล์ที่แนบมากับอีเมลล์ที่ไม่รู้จัก หรือลิงก์น่าที่สงสัยต่าง ๆ 

ภัยจากอาชญากรรมทางไซเบอร์ กำลังระบาดอย่างหนักในช่วงนี้ โดยเฉพาะใช้ช่องว่างที่ผู้คน "work from home" ทำงานผ่านออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ 

เพราะฉะนั้นคนที่กำลัง "work from home" ต้องระมัดระวังให้มากขึ้น และลองทำตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแนะนำเพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

"Work from home" กินของว่างข้างตัวอย่างไร ให้ร่างกายแข็งแรง

เคล็บลับดี ๆ "Work from Home" ยังไงให้สาว ๆ หุ่นไม่พัง 6 งานบ้านช่วยได้

5 โรคยอดฮิตเมื่อคุณติด "โซเชียล" มากเกินไป

ต้องเลี่ยง "5 พฤติกรรม" ไม่ควรทำตอนนั่งทำงาน

"ชากุหลาบ" ตัวช่วยในการระบาย-ทำเองได้ไม่ยุ่งยาก