ข่าว

ตรวจกลุ่มเสี่ยงรอบ ม.นเรศวร-คลัสเตอร์สถานบันเทิง พิษณุโลกน่าเป็นห่วง ยอดโควิดเพิ่ม 26 ราย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตรวจกลุ่มเสี่ยงรอบ ม.นเรศวร-คลัสเตอร์สถานบันเทิง พิษณุโลกน่าเป็นห่วง ยอดโควิดเพิ่ม 26 ราย

เมื่อวันที่ 18 เม.ย.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของผู้ป่วยโควิดในจังหวัดพิษณุโลก ยังคงน่าเป็นห่วง พบผู้ป่วยเพิ่มอย่างต่อเนื่อง วันนี้เพิ่มมาอีก 26 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 156 ราย ซึ่งคลัสเตอร์ยังอยู่ที่โดยรอบมหาวิทยาลัยนเรศวร หลังพบไทม์ไลน์เชื่อมโยงสถานบันเทิง ซึ่งเป็นจุดที่รถตรวจเชื้อนิรภัยพระราชทานเคลื่อนที่จากศูนย์ควบคุมโรคที่ 1 จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลก เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ได้เข้าทำการตรวจกลุ่มเสี่ยงในมหาวิทยาลัยนเรศวร และชุมชนใกล้เคียง อย่างต่อเนื่องอีก 1 วัน

ตรวจกลุ่มเสี่ยงรอบ ม.นเรศวร-คลัสเตอร์สถานบันเทิง พิษณุโลกน่าเป็นห่วง ยอดโควิดเพิ่ม 26 ราย

โดยการตรวจในครั้งนี้เป็นการตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูง คือผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยคลัสเตอร์สถานบันเทิงทั้งในและนอกจังหวัดพิษณุโลก โดยเฉพาะมีประวัติเชื่อมโยงไทม์ไลน์สถานบันเทิงจังหวัดเชียงใหม่ โดย มีเป้าหมายการตรวจในครั้งนี้ กำหนดไว้ เมื่อวานและวันนี้ ( 17-18 เมษายน 2564)ในตรวจกลุ่มเสี่ยงวันละ 600 คน โดยได้ขอให้ผู้ที่เข้ามาตรวจ เตรียมประวัติทำลายย้อนหลัง 14 วัน เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ในการให้บริการ

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือให้ ผู้ที่ไปเที่ยวผับ สถานบันเทิง หาก รู้ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับตัวเอง ให้รีบไปรับการตรวจหาเชื้อ และกักตัวเอง เพื่อไม่ให้แพร่เชื้อให้ผู้อื่น

ตรวจกลุ่มเสี่ยงรอบ ม.นเรศวร-คลัสเตอร์สถานบันเทิง พิษณุโลกน่าเป็นห่วง ยอดโควิดเพิ่ม 26 ราย

ข้อมูลจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพิษณุโลกแจ้งว่า หากวิเคราะห์จากสถานการณ์ตอนนี้ จ.พิษณุโลก จะมีผลบวกประมาณวันละ 10 ถึง 30 รายไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงประมาณวันที่ 23 เม.ย. ซึ่งน่าจะเป็นจุดเปลี่ยน ถ้าในกรณีที่เราควบคุมได้ จะพบผู้ป่วยวันละ 10-30 รายต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์และจะค่อยๆลดจำนวนลง แต่ถ้าวันศุกร์หน้า เริ่มเห็นแนวโน้มเพิ่มขึ้น แสดงว่าระลอกที่กลับมาจากวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ควบคุมได้ไม่ดี แนวโน้มตัวเลขจะขึ้นไปถึง 50 ถึง 100 รายต่อวัน ดังนั้น มาตรการทางสังคมและ DMHTT สำคัญมากในช่วง 2 สัปดาห์นี้ ขอให้ทุกคนต้องช่วยกัน

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ