ข่าว

ราชกิจจานุเบกษาหลักเกณฑ์การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ หลักเกณฑ์การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2563 ความว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2563”

 

ข้อ 2 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

ข้อ 3 ในระเบียบนี้

“กรม” หมายความว่า กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว

“อธิบดี” หมายความว่า อธิบดีกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว

“รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

ข้อ 4 บุคคลซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(1) มีสัญชาติไทย

(2) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบห้าปีบริบูรณ์

(3) มีความประพฤติเหมาะสมในการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ หรือการคุ้มครองป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ

 

(4) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีและเคยปฏิบัติงานเกี่ยวกับการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ หรือการคุ้มครองป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี หรือผู้สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีและมีประสบการณ์ในการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ หรือการคุ้มครองป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี โดยมีหนังสือรับรองจากหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการส่งเสริมความเท่าเทียมระหว่างเพศ หรือการคุ้มครองป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ

 

(5) ผ่านการอบรมการเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ. 2558 ตามหลักสูตรที่กรมกำหนด โดยผ่านการประเมินความรู้และความเหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่จากคณะกรรมการประเมินที่อธิบดีแต่งตั้ง ซึ่งจะต้องมีจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาร่วมอยู่ด้วยเพื่อทดสอบสุขภาพจิต

ข้อ 5 บุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อ 4 ต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้

 

(1) เป็นผู้ต้องคำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศว่าได้กระทำการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ

(2) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ

(3) เป็นบุคคลผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัวหรือบุคคลล้มละลาย

(4) เป็นผู้เคยถูกลงโทษไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรเอกชน

(5) เป็นผู้เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นความผิดลหุโทษ หรือกระทำโดยประมาท

(6) เป็นผู้กระทำการล่วงเกิน คุกคาม หรือก่อความเดือดร้อนรำคาญทางเพศตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

 

ข้อ 6 ให้กรมเสนอชื่อผู้มีคุณสมบัติตามข้อ 4 และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 5 ต่อรัฐมนตรีเพื่อแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ในกรณีที่ไม่แต่งตั้งผู้ใดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ให้กรมแจ้งเหตุผลที่ไม่แต่งตั้งให้ผู้นั้นทราบ

ข้อ 7 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ พ้นจากตำแหน่งเมื่อ

(1) ตาย

(2) ลาออก

(3) ต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก

(4) ขาดคุณสมบัติตามข้อ 4 หรือมีลักษณะต้องห้ามตามข้อ 5

(5) รัฐมนตรีหรือผู้ที่รัฐมนตรีมอบหมายให้ออก เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่องหรือไม่สุจริตต่อหน้าที่ หรือหย่อนความสามารถ

ข้อ 8 ให้ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รักษาการตามระเบียบนี้ และเป็นผู้วินิจฉัยชี้ขาดในกรณีที่มีปัญหาหรือข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้

ประกาศ ณ วันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

จุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ