สุดยอดโรงเรียนต้นแบบสร้างพื้นฐานให้นักเรียนมีชีวิตที่มั่นคง ให้มีคุณธรรม มีงานทำ สามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลังที่จบการศึกษาได้โดยน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของรัชกาลที่ 10 มุ่งเน้นสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนลุยพัฒนาเด็กนักเรียนต่อเนื่อง จนเป็นผลสำเร็จ
สุดยอดโรงเรียนต้นแบบ สร้างพื้นฐานให้นักเรียนมีชีวิตที่มั่นคง ให้มีคุณธรรม มีงานทำ สามารถต่อยอดเป็นอาชีพหลังที่จบการศึกษาได้ โดยน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของรัชกาลที่ 10 เพื่อมุ่งเน้นสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน..ลุยพัฒนาเด็กนักเรียนต่อเนื่อง สร้างยุวเกษตรวัยใสให้เลี้ยงสัตว์หลากหลายพันธุ์ จนเป็นผลสำเร็จและขยายผลไปสู่ชุมชนให้มีรายได้ด้วย
วันนี้ (18 ธ.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก ต.ตาคง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 (สุรินทร์) เป็นโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 และน้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา ของรัชกาลที่ 10 เพื่อมุ่งเน้นสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียนมีชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ สามารถต่อยอดเป็นอาชีพตอนที่จบการศึกษาได้ ซึ่งมี นายสุรพงษ์ รัตนโคตร เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 มีคณะครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 24 คนและนักเรียนจำนวน 369 คน โดยโรงเรียนแห่งนี้ได้เปิดทำการสอนเรียนสายสามัญตามหลักสูตรของกระทรวงการศึกษาธิการแล้ว ยังได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษา รัชกาลที่ 10 จุดเน้นกระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ด้านทักษะอาชีพสู่ผู้เรียนที่หลากหลาย เช่น ด้านวิชาสามัญ(โครงการ สสวท.) ด้านเทคโนโลยี ด้านอุตสาหกรรม เปิดหลักสูตร ทวิศึกษา (สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และไฟฟ้ากำลัง) ด้านเกษตรกรรม (พืช : ข้าวนาถุง พืชผักตามฤดูกาล และสัตว์ : ฟาร์มโคเนื้อ เลี้ยงแพะ เลี้ยงหนูพุก ปลาในกระชัง แปลงหญ้า การลดต้นทุนการผลิตอาหาร และการตลาด) ด้านคหกรรม (กาแฟ&เบเกอรี่ เค้กกล้วยหอม) เพื่อให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีทักษะชีวิต ทักษะอาชีพ และมีงานทำ อีกด้วย และสิ่งที่ประสบผลสำเร็จอย่างเห็นเด่นชัดคือ ฟาร์มโคเนื้อคงวิทย์ โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก ที่ได้ริเริ่มขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้เด็กนักเรียนได้เรียนรู้ทักษะวิชาชีพ นำไปปรับใช้ในชีวิตหลังจากจบการศึกษา
โดยภายในฟาร์มมีวัวหลากหลายสายพันธุ์ ประกอบด้วย โคลูกผสม ชาโรเล่ โคลูกผสมวากิว โคลูกผสมแองกัส โคลูกผสมพื้นบ้านไทย และโคลูกผสมบราห์มัน รวมกว่า 23 ตัว ทั้งพ่อแม่พันธุ์และลูกวัวที่กำลังเติบโต ซึ่งเด็กๆนักเรียนทั้งหญิงและชายจะได้เรียนรู้ วิธีการผสมเทียมแบบธรรมชาติ ให้อาหาร นอกจากจะสามารถจำหน่ายวัวให้กับนายฮ้อย พ่อค้าคนกลางที่ติดต่อมารับซื้อแล้ว ยังสามารถนำมูลสัตว์ไปเป็นปุ๋ยใส่หญ้าเนเปีย ร์และหญ้าขนธรรมชาติ ซึ่งเป็นหญ้าที่ปลูกไว้สำหรับเลี้ยง เลี้ยงแพะ เลี้ยงปลา ในกระชัง และหนูนาที่เลี้ยงเสริมไว้ เพื่อนำรายได้ไปบริหารจัดการฟาร์มต่อ และรายได้ส่วนหนึ่งจะเก็บไว้เป็นกองทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจน หลังจบการศึกษา เพื่อนำไปเป็นค่าเทอมเรียนต่อเทอมแรก ในระดับอุดมศึกษาต่อไป ถือเป็นโรงเรียนตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ นอกจากระบบการเรียนการสอนตามปกติแล้ว ยังสามารถส่งเสริมวิชาชีพให้เด็กๆได้นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย และหลังความสำเร็จเกิดขึ้นที่โรงเรียนแล้ว ยังได้ขยายผลสู่ชุมชน โดยทางโรงเรียนได้ดำเนินการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจ ภายใต้ชื่อวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ อ๋าฟาร์ม (ARE FARM) ซึ่งมีคณะครูและชุมชนร่วมก่อตั้ง เป็นโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย หรือที่ทราบคือ โครงการล้านละร้อย ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรภาคปศุสัตว์ คิดดอกเบี้ยล้านละร้อยต่อปี คือกู้หนึ่งล้านบาทคิดดอกเบี้ยหนึ่งร้อยบาทต่อปี ทำให้ครูและชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากอาชีพหลักอีกด้วย
นายสุรพงษ์ รัตนโคตร ผอ.โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก กล่าวว่า โรงเรียนตาคงวิทยา รัชมังคลาภิเษก สังกัด สนง.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 33 (สุรินทร์)เป็นโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และได้น้อมนำพระบรมราโชบาย ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ในด้านการมีงานทำ มีอาชีพ ซึ่งโรงเรียนได้ส่งเสริมทักษะงาน ทักษะอาชีพ โดยได้จัดโครงการภายใต้ชื่อฟาร์มโคเนื้อคงวิทย์ ซึ่งโรงเรียนได้เลี้ยงสัตว์ 4 ชนิด มีโคเนื้อ แพะ ปลา หนูนาและหนูพุก โดยมีคุณครูเป็นผู้ดูแลโครงการร่วมกับลูกๆนักเรียน วัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนการศึกษาและช่วยเหลือนักเรียนในกรณีจำเป็น ซึ่งโครงการได้ดำเนินการมาแล้ว 3 ปี และเกิดมักเกิดผลสำเร็จ ซึ่งจะสังเกตได้ว่า 4 สัตว์ที่เราได้นำมาเลี้ยงนั้น ล้วนแต่เป็นสัตว์ที่มีภูมิคุ้มกันที่สูง อัตราการเสี่ยงในการสูญเสียน้อย โดยเราได้ใช้หลักการการตลาดนำหน้าผลผลิต มีตลาดรองรับที่ชัดเจน วันนี้ความสำเร็จเกิดขึ้นที่โรงเรียนแล้ว โรงเรียนได้ขยายผลสู่ชุมชน โดยทางโรงเรียนได้ดำเนินการจัดตั้งภายใต้ชื่อวิสาหกิจชุมชนโคเนื้อ อ๋าฟาร์ม (ARE FARM) ซึ่งมีคณะครูและชุมชนก่อตั้ง เป็นโครงการธุรกิจชุมชนสร้างไทย หรือที่เราทราบคือ โครงการล้านละร้อย ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรภาคปศุสัตว์ คิดดอกเบี้ยล้านละร้อยต่อปี คือหนึ่งล้านบาทคิดดอกเบี้ยหนึ่งร้อยบาทต่อปี ทำให้ครูและชุมชนมีรายได้ ซึ่งเราได้เสนอโครงการเป็นโครงการโคเลือดร้อย ล้านละร้อย นี่คือการขยายผลสู่ชุมชนของโรงเรียนพวกเรา สำหรับลูกๆนักเรียน ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนนี้นอกจากเกษตรกรรมด้านสัตว์แล้ว เรายังขับเคลื่อนด้านพืช ก็จะมีเรื่องของการปลูกผักกางมุ้งแล้วก็พืชผักตามฤดูกาลอีกด้วย
น.ส.กิตินภา วงศ์มา อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3/1 บอกว่า สิ่งที่ได้จากกรรมนี้ ไม่ได้แค่ทักษะอาชีพเท่านั้น เราได้ทั้งความสุข ได้ทั้งรอยยิ้มและได้ทั้งมิตรภาพใหม่ๆที่ได้ทำร่วมกับเพื่อนๆและพี่ๆในโรงเรียนอีกด้วย กิจกรรมตรงนี้มีทั้งการเลี้ยงหนู เลี้ยงปลา เลี้ยงแพะ เลี้ยงวัว แล้วก็ยังมีการปลูกพืชผักสวนครัวเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ความรู้ที่ได้จากตรงเราก็จะนำไปขยายผลไปสู่ครอบครัว โดยการนำไปทำเป็นอาชีพเสริมหรือสามารถต่อยอดทำเป็นอาชีพหลักต่อไป
น.ส.สุทธิตยา บุญสูง อายุ 15 นักเรียนชั้น ม.3/1 บอกว่า สำหรับในฟาร์มคงวิทย์ ก็จะมีกิจกรรมหลายอย่างที่ได้ทำร่วมกันของนักเรียน ได้ลงมือทำจริง ทั้งเลี้ยงวัว เลี้ยงปลา เลี้ยงแพะ และหนูนา ถือว่าเป็นการฝึกอาชีพเสริมให้กับเด็กและยังสร้างรายได้ให้กับนักเรียนได้อีกด้วย ซึ่งตรงนี้ไม่กระทบกับการเรียน เพราะจะมีคาบของวิชาลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ นั้นคือเวลาที่มาทำในส่วนของตรงนี้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีสามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพ สร้างเงินสร้างรายได้และขยายผลเป็นอาชีพหลักได้เป็นอย่างดี
ภาพ/ข่าว: รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุรินทร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง