ข่าว

นักร้องดังออสซี่เทียบบังคับใส่แมสก์ กับเผด็จการคอมมิวนิสต์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักร้องดังออสซี่รับไม่ได้ทางการรัฐวิคตอเรียบังคับใส่แมสก์ ไม่ใส่จะโดนปรับ ชี้ลิดรอนเสรีภาพพื้นฐาน


หลังจากรัฐวิคตอเรีย ประกาศว่าจะเริ่มบังคับประชาชนในจุดร้อนโควิด-19 อย่างเมลเบิร์น ต้องใส่แมสก์เมื่อออกจากบ้าน เพื่อควบคุมไวรัสระบาดรอบสองให้ได้โดยเร็ว  หากฝ่าฝืนจะถูกปรับ 200 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 4,400 บาท ) เริ่มวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ยกเว้นเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ปรากฏว่ามีทั้งคนที่คัดค้านและคนที่พร้อมปฏิบัติตาม รวมถึงในแวดวงศิลปินคนดัง โดยเฉพาะ ซิกกี้ อัลเบิร์ตส์ นักแต่งเพลงและนักร้องแนวโฟล์คชื่อดังที่โพสต์อินสตาแกรม เมื่อคืนที่ผ่านมา (19 ก.ค.) ว่าเขาคัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลที่บังคับใส่แมสก์ในเมลเบิร์นอย่างเต็มที่ การทำเช่นนั้นคือการลิดรอนสิทธิพื้นฐานที่ต้องมีในสังคมเสรี

นักร้องดังออสซี่เทียบบังคับใส่แมสก์ กับเผด็จการคอมมิวนิสต์

 

“ไม่มีทางที่ผมจะสนับสนุน ยอมรับหรือส่งเสริมมาตรการบังคับใส่แมสก์ หรือล็อกดาวน์ในประเทศเสรี เพราะประเทศของเราจะไม่เสรีอีกต่อไป เมื่อออกจากบ้านไม่ได้ หรือจะถูกปรับฐานไม่สวมใส่อะไรบางอย่างบนปากเมื่อพยายามออกจากบ้าน” นอกจากนี้  เขายังย้อนอดีตว่าสมาชิกครอบครัวของเขา เคยหลบหนีประเทศคอมมิวนิสต์เผด็จการกับเนเธอร์แลนด์สมัยนาซียึดครอง ราวกับเปรียบเทียบการบังคับใส่แมสก์กับคอมมิวนิสต์ 

โพสต์ของซิกกี้บนสื่อสังคมออนไลน์ เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนัก รวมถึงศิลปินในแวดวงเดียวกันที่ดาหน้าออกมาตำหนิว่า เป็นเรื่องอันตรายที่ใช้สื่อโซเชียลซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 2 แสน เผยแพร่ความเชื่อผิดๆ ทำให้เจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงอีกครั้งวันนี้ว่า เขาแค่เล่าประวัติของครอบครัว และไม่เห็นด้วยกับการล็อกดาวน์หรือใส่แมสก์เป็นเรื่องบังคับ และมีโทษปรับ แต่ไม่ได้แนะนำใครๆว่าไม่ต้องใส่แมสก์

นักร้องดังออสซี่เทียบบังคับใส่แมสก์ กับเผด็จการคอมมิวนิสต์

กระนั้น ซิกกี้ ไม่ใช่คนเดียวที่ประท้วงมาตรการนี้  Vik Grujic  นักต่อสู้ศิลปะป้องกันตัวแบบผสม (MMA) ก็เปรียบเรื่องการบังคับสวมแมสก์กับเผด็จการเช่นกัน พร้อมประกาศว่าจะไม่ทำตาม และจะไม่ยอมเสียค่าปรับ “ผมจะไม่จำนนต่อเผด็จการ ผมเป็นออสซี่อย่างภาคภูมิใจ เสรีภาพตั้งแต่เกิด ตายอย่างเสรีชน” 

รัฐวิคตอเรีย พบผู้ติดเชื้อใหม่ 275 ราย จำนวนนี้ 28 รายเชื่อมโยงกับกลุ่มก้อนเดิม เสียชีวิตรวม 39 ราย ติดเชื้อสะสม  5,942 ยังรักษาตัว  2,913 ราย หายป่วย  2,933 ราย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ