ข่าว

สธ.สั่งล่า "ผีน้อย" 80 คนไม่ยอมกักกันตัวป้องกัน "โควิด-19"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ล่า 80 ผีน้อย หนีด่านกักตัว ขีดเส้น 3 วันดำเนินคดีโทษคุก-ปรับ "บิ๊กตู่" จี้เสริมกำลังคัดกรองสนามบิน

 

               สธ.สั่งล่า “ผีน้อย” 80 คนไม่ยอมกักกันตัวป้องกัน “โควิด-19” ระบาด ขีดเส้นให้เวลา 3 วันฝ่าฝืนดำเนินคดีเด็ดขาดทั้งจำคุก-ปรับ “บิ๊กตู่” สั่งกอ.รมน.-กองทัพเสริมกำลังคัดกรองสนามบิน-สถานที่กักตัวในท้องถิ่น ด่านอรัญประเทศคัดกรองเข้มหลังเขมรพบผู้ติดเชื้อรายแรกที่เสียมราฐ ขณะที่สมาคมร้านขายยาโวย “กรมการค้าภายใน” ยังไม่ได้รับหน้ากากอนามัย

 

อ่านข่าว เปิดไทม์ไลน์ นศ.ไทยจากอิหร่านติดเชื้อ โควิด-19 ป่วนเมืองคอน

 

               ความคืบหน้าการเฝ้าระวังและใช้มาตรการเข้มป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 01.15–02.30 น.วันที่ 8 มีนาคม ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์การรับแรงงานไทยไปทำงานผิดกฎหมายที่เกาหลีใต้ หรือผีน้อย เดินทางกลับประเทศไทย โดยกองทัพเรือรับกลุ่มคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้เพื่อนำมาเฝ้าระวังอาการติดเชื้อที่อาคารรับรองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยใช้อาคาร 3-5 เป็นอาคารรองรับเฝ้าระวังอาการในชุดแรก จำนวน 60 คนนั้น

 

               ต่อมา ที่อาคารรับรองสัตหีบ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยกรณีกลุ่มผีน้อยที่เดินทางกลับมาจากเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นล็อตบ่ายโมงวันที่ 7 มีนาคม หลบหนีไม่เข้าสู่ระบบตรวจสอบประมาณ 70-80 คน ยืนยันว่าจะตามกลับมาให้หมด 

 

               "ได้สั่งการไปให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ต้องตามกลับมาให้หมด หากพบใครไม่ให้ความร่วมมือจะต้องเจอความเด็ดขาดทางกฎหมาย ยอมรับว่าเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพราะระบบเมื่อวานนี้เรายังไม่พร้อม แต่วันนี้พร้อมแล้ว หากไม่ยอมกลับมาภายใน 3 วัน เราจะต้องดำเนินคดีเด็ดขาด โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท ยอมรับมี 3 ไฟลต์บินเมื่อวานนี้มาจากเกาหลีทั้งหมด" นายสาธิตกล่าว และว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 จึงขอให้บุคคลในกลุ่มดังกล่าวไปรายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ สสจ.ที่พำนักอยู่ภายใน 3 วัน หากผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด โดยได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุุกจังหวัดทั่วประเทศดำเนินการเอาผิดเพื่อให้ผู้ที่ฝ่าฝืนได้รับโทษแล้ว"

 

               สำหรับคนไทยกลุ่มแรกรวมทั้งสิ้น 60 คนที่เข้าพักอาคารรับรองสัตหีบ เป็นผู้ชาย 27 คน ผู้หญิง 33 คน ในจำนวนนี้มีหญิงตั้งครรภ์ 3 คน ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ และกลุ่มเสี่ยงสูง 2 คน ที่มาจากเมืองแทกูและเมืองคยองซังเหนือ ทุกคนได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพ อาการปกติ ไม่มีไข้ ยอมรับว่าในช่วงแรกของการปฏิบัติงานมีความขลุกขลักบ้าง แต่นับจากวันนี้การดำเนินงานของทุกฝ่ายจะพร้อม 100% โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงสูงเมื่อมาถึงประเทศไทยแล้วจะมีการกักตัวไว้สังเกตอาการ 14 วัน แต่อาจจะไม่เข้มข้นมากเหมือนคนไทยที่เดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน

 

               ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีแรงงานไทยจากเกาหลีใต้ 70-80 คน ไม่ให้ความร่วมมือในการกักตัวว่า ใน 4 เที่ยวบินที่เราได้เริ่มดำเนินการไปนั้น แรงงานไทยทุกคนได้ให้ความร่วมมือ ส่วนที่มีข่าวหลบหนีออกไปจำนวนมากเข้าใจว่าเป็นเที่ยวบินก่อนที่จะมีการดำเนินการคัดกรองไปยังสัตหีบ จ.ชลบุรี เดิมทีเรามีความตั้งใจจะดำเนินการกับเที่ยวบินดังกล่าวอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่สามารถชี้แจงกับผู้เดินทางให้เกิดความเข้าใจระหว่างกัน ถ้ากลับไปที่บ้านโดยยังไม่รู้ว่าจะปฏิบัติตัวอย่างไร แล้วถ้ามีอาการขึ้นมา คนที่เสี่ยงก็คือคนที่อยู่ในบ้าน ซึ่งจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นมาทันที

 

               นพ.ธนรักษ์ กล่าวถึงสถานการณ์จนถึงวันที่ 8 มีนาคม เวลา 08.00 น. มีผู้ป่วยรักษาหาย 2 ราย ทำให้วันนี้มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 33 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมสะสม 50 ราย สำหรับผู้ป่วยอาการหนัก 1 ราย ที่รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร ตรวจไม่พบเชื้อแล้ว แต่ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม–7 มีนาคม 2563 มีทั้งหมด 4,366 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 2,629 ราย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกใน 96 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ 1 เรือสำราญ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม–8 มีนาคม พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 106,195 ราย เสียชีวิต 3,600 ราย ส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 80,696 ราย เสียชีวิต 3,097 ราย

 

กองทัพเสริมกำลังจุดกักตัว

 

               ขณะที่ พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า ในวันนี้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พร้อมปลัดกลาโหม ได้ประชุมหารือร่วมกับทุกเหล่าทัพเพื่อรับทราบสถานการณ์และการสนับสนุน สธ. รับมือกับการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัส โดยได้จัดกำลังพลร่วมกระบวนการคัดกรองแรงงานไทยกลุ่มเสี่ยงที่ทยอยเดินทางกลับจากเกาหลีใต้ที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐและนำพาเข้าพื้นที่ควบคุมโรคในพื้นที่ อ.สัตหีบ แล้ว โดยจะร่วมคัดกรองแรงงานกลุ่มดังกล่าวและส่งเข้าดูแลในพื้นที่ควบคุมที่กำหนดร่วมกับสธ.อย่างต่อเนื่องในทุกเที่ยวบิน ทั้งนี้กลาโหมอยู่ระหว่างประสานกับสธ.เพื่อพิจารณาพื้นที่ควบคุมโรคอื่นๆ เพิ่มเติม โดยไม่ให้กระทบต่อสภาพแวดล้อมรองรับให้เพียงพอกับปริมาณกลุ่มเสี่ยง

 

               ทั้งนี้ พล.อ.ชัยชาญได้กำชับกับทุกเหล่าทัพว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ได้ย้ำและสั่งการขอให้ กอ.รมน.จังหวัด เข้าไปสนับสนุนและร่วมเสริมการทำงานของ สธ.ในพื้นที่ ทั้งการร่วมดูแลคัดกรองที่สนามบินนานาชาติในพื้นที่ การเคลื่อนย้ายและการดูแลในพื้นที่ควบคุมโรคที่แต่ละจังหวัดจัดตั้งขึ้น ขณะเดียวกันให้ทุกเหล่าทัพเร่งจัดกำลังพลเพิ่มเติมเข้าไปสนับสนุนการปฏิบัติงานของ สธ.เพื่อเสริมความเข้มแข็งของระบบและมาตรการคัดกรองในทุกสนามบินนานาชาติภายในประเทศ และประสิทธิภาพในการนำทุกกลุ่มเสี่ยงเข้าระบบควบคุมที่รัฐกำหนด

 

ร.ร.เมืองกาญจน์ปิด5วัน

 

               นายอิทธิพล กาญจนโรมนต์ ผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านหลุมรัง ต.หลุมรัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ได้สั่งปิดโรงเรียนเป็นเวลา 5 วัน คือ 9-13 มีนาคม และกำหนดให้เด็กนักเรียนมาสอบในวันที่ 16-18 มีนาคม ที่จึงถึงนี้ พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อในโรงเรียน เนื่องจากมีข่าวว่ามีผู้ปกครองของเด็กนักเรียน 2 คน เพิ่งเดินทางกลับจากกรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม และยังมาส่งนักเรียนที่โรงเรียนด้วย

 

               ด้านนายอิทธิพัทธ์ รัตนสุวรรณาชัย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหลุมรัง กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวลือในวันนี้ทางผู้ใหญ่บ้านและผอ.รพ.สต.หลุมรัง ได้ลงพื้นที่ไปพบผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่เดินทางมาจากกรุงโซล พบว่าบุคคลดังกล่าวได้ถูกกักตัวเอาไว้ที่กรุงโซลก่อนขึ้นเครื่องมาแล้ว 14 วันเพื่อความปลอดภัย และบุคคลดังกล่าวได้เดินทางกลับประเทศไทยก่อนที่จะมีข่าวเรื่องผีน้อย อย่างไรก็ตามเมื่อประชาชนมีความตื่นตระหนกทางสาธารณสุขก็ไปให้คำแนะนำ พร้อมกับให้บุคคลดังกล่าวกักตัวเองอยู่กับบ้านเป็นเวลา 14 วัน รวมทั้งได้เช็กอาการของคนรอบข้างด้วย แต่เพื่อความไม่ประมาททางโรงเรียนจึงจัดบิ๊กคลีนนิ่ง

 

เข้มหลังเวียดนามพบติดเชื้อ

 

               วันเดียวกัน นายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการกำลังร่วมกันเฝ้าตรวจและคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางข้ามด่านพรมแดนอรัญประเทศจากฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทย บริเวณจุดคัดกรอง และจุดตรวจบุคคลประจำยานพาหนะ ด่าน ตม.อรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ อย่างเข้มงวด 

 

               โดยเฉพาะได้จัดช่องทางเดินเท้าให้ชาวกัมพูชาทุกคนต้องเดินผ่านเครื่องตรวจจับความร้อนในร่างกายหรือเครื่องเทอร์โมสแกนเพื่อป้องกันและสกัดกั้นผู้ติดเชื้อไวรัส รวมทั้งตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายพ่อค้าแม่ค้าและกรรมกรกัมพูชาที่ขับขี่ยานพาหนะและรถเข็นลากเลื่อนทุกชนิดที่จะเข้ามาค้าขายและรับจ้างในตลาดโรงเกลืออย่างเข้มงวดทุกคน

 

               ทั้งนี้หลังจากรัฐมนตรีสาธารณสุขกัมพูชาได้แถลงว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม มีนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเดินออกทางจากกัมพูชา ไปขึ้นเครื่องบินที่สนามบินโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม กลับไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อถึงสนามบินญี่ปุ่นทางการญี่ปุ่นได้ตรวจวัดไข้ปรากฏว่าติดเชื้อไวรัสและทราบว่าเดินทางผ่านและพักอาศัยอยู่หลายประเทศ เช่น เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไทย 

 

               และล่าสุดกัมพูชา ทางการญี่ปุ่นจึงประสานส่งข่าวมายังกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ที่ชาวญี่ปุ่นรายนี้อาศัยอยู่และทำธุรกิจที่ จ.เสียมราฐ จึงมีการติดตามบุคคลและกลุ่มที่สนิทสนมคลุกคลีใกล้ชิด ขั้นต้นพบชาวกัมพูชา 1 คน ที่ติดเชื้อเป็นชายอายุ 38 ปี อยู่ จ.เสียมราฐ และได้ขยายผลตรวจสอบพบมีผู้คลุกคลีและใกล้ชิดอีก 4 คน ชาย 2 หญิง 2 ในจำนวนนี้มีหญิงชาวญี่ปุ่น 1 คนด้วย ที่เหลือเป็นครอบครัวของคนกัมพูชา อายุตั้งแต่ 19 ถึง 38 ปี ซึ่งได้แยกรักษาตัวและกักตัวไว้แล้ว 

 

               จากข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนไทยตามแนวชายแดน และพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยและชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือต่างตื่นตระหนกเนื่องจากไทยและกัมพูชามีการเดินทางข้ามแดนผ่านไปมาเป็นประจำเกรงจะทำให้เกิดการระบาด ขณะเดียวกันด่านพรมแดนคลองลึกได้สนธิกำลังร่วมกันตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยงเดินทางเข้าประเทศไทยในช่วงนี้และสั่งการให้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยและชาวกัมพูชาอย่าตื่นตระหนกกับข่าวดังกล่าว

 

ผู้โดยสารคลั่งไอใส่พนง.ต้อนรับ

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้บัญชียูทูบชื่อ Fugu M ได้โพสต์คลิปเหตุความวุ่นวายในห้องผู้โดยสารของสายการบินไทยขณะอยู่ที่สนามบินผู่ตง นครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เนื่องจากเครื่องบินต้องรอการฆ่าเชื้อโดยหลังจากที่ลงจอดแล้ว ผู้โดยสารต้องรออยู่บนเครื่องนานถึง 6-10 ชั่วโมง ขณะที่เครื่องบินของสายการบินไทยกำลังจอดรอนานกว่า 7 ชั่วโมงทำให้ผู้โดยสารหญิงชาวจีนคนหนึ่งเกิดอาการไม่พอใจและตั้งใจไอใส่พนักงานต้อนรับสตรีบนเครื่องรายหนึ่งเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เปิดประตูเครื่องบินให้ ขณะที่พนักงานต้อนรับชายระดับอาวุโสนายหนึ่งได้เข้ามาตักเตือนแต่กลับเกิดเหตุชุลมุนและล็อกตัวผู้โดยสารสาวจีนรายนี้เอาไว้

 

               มีรายงานว่า นายสุเมธ ดํารงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้ออกระเบียบปฏิบัติของลูกเรือการบินไทยกลับจากประเทศเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน

 

ส.ร้านขายยาไม่ได้รับหน้ากาก

 

               ด้านปัญหาขาดแคลนหน้ากากอนามัย แม้ทางภาครัฐได้มีมาตรการแก้ไขโดยนำหน้ากากทั้งหมดที่โรงงานผลิตได้มาบริหารจัดการเองแต่ก็ยังไม่ทั่วถึง โดยล่าสุดเฟซบุ๊ก “สมาคมร้านขายยา” เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงนามโดย นายเทพรักษ์ สุรทานต์นนท์ ประธานสภาที่ปรึกษาสมาคมร้านขายยา เนื้อหาระบุว่า “ตามที่มีข่าวปรากฏว่า “กรมการค้าภายใน” ได้จัดสรรหน้ากากอนามัยให้แก่ “สมาคมร้านขายยา” วันละ 2.5 หมื่นชิ้น เพื่อจำหน่ายแก่ผู้ที่ต้องการนั้น 

 

               “สมาคมร้านขายยา” ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่า จนถึงขณะนี้สมาคมยังไม่เคยได้รับหน้ากากอนามัยจากกรมการค้าภายในเลยแม้แต่น้อย ฉะนั้นเพื่อความยุติธรรมตลอดจนลดแรงกดดัน และเพื่อให้สมาคมที่มีสมาชิกอยู่ทั่วประเทศ ช่วยแบ่งเบาภาระทางราชการในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส จึงขอเรียกร้องกรมการค้าภายใน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตามที่ปรากฏเป็นข่าวด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง จึงเรียนมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน”

 

วัดป่าทำหน้ากากแจกพระ

 

               ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระภิกษุวัดป่าโนนขุมเงิน อ.โพนนาแก้ว ได้ช่วยกันเร่งทำหน้ากากอนามัยจากผ้าจีวร เพื่อแจกจ่ายให้แก่พระสงฆ์ในเขต จ.สกลนคร โดยมีพระราชวิสุทธินายก เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร และพระวิทยา จันทร์ฉลอง อดีตผู้ว่าฯ สกลนคร เข้าเยี่ยมให้กำลังใจด้วย 

 

แนะใช้เรือนจำผลิตหน้ากาก

 

               ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายฉลอง เรี่ยวแรง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงถึงข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอกับความต้องการว่า ขอเสนอไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม รวมถึงทีมยุทธศาสตร์รัฐบาล ตามที่ตนได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ต้องขังในเรือนจำที่ห่วงใยคนที่อยู่นอกเรือนจำว่าพร้อมที่จะช่วยในการผลิตหน้ากากอนามัยแจกจ่ายให้เพียงพอ 

 

               โดยให้รัฐสนับสนุนเครื่องจักรและวัตถุดิบ วิทยากรเข้าไปสอน เพื่อให้ผู้ต้องหาในเรือนจำตัดเย็บและนำแจกจ่ายให้โรงพยาบาล และประชาชนอย่างทั่วถึง และเชื่อว่าภายในเวลา 1 เดือน จะสามารถแจกให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง และระยะต่อไปจะส่งต่อให้กับประชาชนทุกบ้านฟรี และภายใน 5-6 เดือนจะสามารถผลิตเพื่อส่งออกได้ เช่นเดียวกับเจลล้างมือที่ทางผู้ต้องขังสามารถผลิตได้เช่นกัน

 

               ดังนั้นขอให้นายกฯ และทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ไว้วางใจโดยสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้โรงงานคือเรือนจำต่างๆ ที่มีอยู่แล้วในแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นแรงงานชั้นดีและมีความพร้อม 24 ชั่วโมง ที่จะผลิตหน้ากากอนามัยได้เข้ามาส่วนร่วม โดยไม่จำเป็นต้องสร้างโรงงานอย่างที่เจ้าสัวเสนอ แต่ให้เจ้าสัวมาสนับสนุนให้ราชทัณฑ์ ซึ่งสามารถตรวจสอบการทำงานและความโปร่งใสได้ และขอให้นายกฯ กล้าตัดสินใจ เพราะไม่อยากให้ทิ้งโอกาสตรงนี้ไป ส่วนเรื่องชิมช้อปใช้ ให้หยุดไว้ก่อน แต่ควรเอาปัญหาเฉพาะหน้าเรื่องโควิด-19 เอาให้อยู่ก่อน และเมื่อมีความพร้อมประชาชนมีความพร้อมแล้ว จึงมากระตุ้นเรื่องเศรษฐกิจต่อไป


นิพนธ์อบรมทำหน้ากากทางเลือก

 

               ที่ จ.ชัยนาท นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันควบคุมโรคไวรัสโควิด–19 กล่าวว่า จากสถานการณ์ระบาดกระทรวงมหาดไทยได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ในการทำหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเองสำหรับประชาชน โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.)ได้อนุมัติงบกลางจำนวน 225 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 50 ล้านชิ้น ซึ่งประชาชนทุกครัวเรือนสามารถช่วยกันผลิตเพื่อใช้เอง หน้ากากดังกล่าวสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยต้องหมั่นซักทำความสะอาดอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ อีกทั้งเป็นการป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข 

 

               และขณะนี้หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ตามประกาศของกระทรวงพาณิชย์ ทั้งการส่งออกและการกักตุน ต้องมีการแจ้งต่อพาณิชย์จังหวัด ต้องจำหน่ายไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท หากพบใครขายเกินราคาจะมีความผิดทางกฎหมาย ทั้งนี้ขอยืนยันว่ารัฐบาลยังควบคุมสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ในระยะ 2 ได้ และไทยยังไม่เข้าสู่การระบาดระยะที่ 3 และย้ำว่ารัฐบาลจะดูแลการระบาดอย่างใกล้ชิดให้ดีที่สุด

 

กสิกรปิดบูธแลกเปลี่ยนเงิน

 

               ขณะที่ธนาคารกสิกรไทยออกประกาศเรื่องหยุดให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่สาขาและสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยมีเนื้อหาว่า ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 5 มีนาคม เรื่องโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ท้องที่นอกราชอาณาจักรเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย 4 ประเทศและเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง 5 ประเทศนั้น ธนาคารกสิกรไทยถือว่าการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขในภาวะแพร่กระจายของโรคติดต่ออันตราย เพื่อร่วมป้องกัน 

 

               ธนาคารจึงขอประกาศหยุดการให้บริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ทั้งที่สาขาและสำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทุกแห่งทั่วประเทศอย่างไม่มีกำหนด ตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันนี้ (8 มี.ค.) เป็นต้นไปจนกว่าสถานการณ์การระบาดจะเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้น โดยธนาคารให้พนักงานที่ปฏิบัติงานที่สำนักงานแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทุกแห่งที่จะทำการปิดนี้กักตัวเองในที่พัก เป็นเวลา 14 วัน ตามแนวทางปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ในปัจจุบันยังไม่พบพนักงานของธนาคารติดเชื้อโรคแต่อย่างใด

 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ