ข่าว

อดีตข้าราชการกรมที่ดินวัย 63 มอบตัว อ้างตั้งวงเหล้าเสียงดัง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อดีตข้าราชการกรมที่ดินวัย 63 มอบตัว หลังยิงดับ 2 ศพ อ้างตั้งวงเหล้าเสียงดัง

 

 

 

                        จากกรณีเกิดเหตุยิงกันตาย 2 ศพโดยผู้เสียชีวิตผระกอบด้วยนายพงศ์เทพ พฤกษโอฬาร หรือ เอ็กซ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/3 หมู่ 2 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357  กระสุนเจาะศรีษะขวาทะลุซ้าย ส่วนผู้เสียชีวิตอีกคนทราบชื่อนายเอกพงษ์ สุวรรณผล หรือ พงษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227/3 หมู่ 8 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันกระสุนเจาะศรีษะซ้ายทะลุขวาเหตุเกิดภายในหมู่บ้านถาวร หมู่ 8 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา โดย พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก. พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง สส.พ.ต.ท.พิษณุกร จาดเมือง รอง ผกก.ป พ.ต.ท.เริงชัย   ราชกิจจา รอง.ผกก.สอบสวน และกำลังตำรวจชุดสืบสวนพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ รีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ  และร่วมชันสูตรพลิกศพตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

วันที่ 8 ก.พ.2563  พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง สส. สภ.ทุ่งสง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ได้มีนายภักดี สิงหเสม อายุ 63  ปี อยู่บ้านเลขที่ 210/3 หมู่ 8 ต.ชะมาย อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถืออาวุธปืนขนาด .357 เดินทางเข้าพบกับตำรวจแจ้งความประสงค์ขอมอบตัว และในเบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ใช้อาวุธปืน .357กระบอกดังกล่าวก่อเหตุยิงนายพงศ์เทพ และนายเอกพงษ์ เสียชีวิต 2 ศพ ก่อนนำอาวุธปืนเดินทางเข้ามามอบตัวกับตำรวจดังกล่าว     

อดีตข้าราชการกรมที่ดินวัย 63 มอบตัว อ้างตั้งวงเหล้าเสียงดัง

 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายภักดี มือปืนผู้ก่อเหตุ ให้การว่าในอดีตหัวหน้าสำนักงานที่ดินแห่งหนึ่ง หลังเกษียณเมื่อ 2 ปี ที่ผ่านมา ได้กลับมาอาศัยบ้านเลขที่ 227/4 หมู่ 8 ต.ชะมายอ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช  ซึ่งอยู่ติดกับบ้านเลขที่  227/3 เป็นบ้านของหนึ่งในผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิต และที่ผ่านมาบ้านทั้งสองหลังมีเรื่องทะเลาะกันบ่อยครั้ง เพราะเจ้าของบ้านข้างเคียงมักจะยึดเกาะกลางถนนเป็นของตัวเองและช่วงหัวค่ำมักจะนัดพรรคพกวเพื่อนฝูงมาตั้งวงดื่มเหลาส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนายภักดี และเพื่อนบ้านบ้างเคียงอย่างต่อเนื่อง จนนายภักดี ได้เคยเข้าไปขอร้องกลุ่มผู้ตายหลายครั้ง แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุกลุ่มผู้ตายไม่ได้สนใจและส่งเสียงดังเพิ่มมากขึ้น โดยมีการร้องรำทำเพลงและเคาะขวด เกาะแก้วให้จังหวะเป็นที่เอือมระอาของชาวบ้านในละแวกข้างเคียง ในขณะที่นายภักดี ที่อาศยอยู่ใกล้ที่สุดเหมอนถูกกดดันสะสมมาตลอด และเคยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาห้ามปรามจนกกลายเป็นความบาดหมางขัดแย้งเรื่องถึงโรงพักมาแล้ว

ก่อนเกิดกลุ่มผู้ตายได้ตั้งวงดื่มเหล้าจนเมามายส่งเสียงดังลันไปทั่วบริเวณ และพยายามยั่วยุ เย้ยนายภักดี มือปืนอย่างต่อเนื่อง จนนายภักดี บันดาลโทสะคว้าปืน .357 เดินปรี่เข้าไปจ่อยิงนายพงศ์เทพ และนายเอกพงศ์  จนล้มคว่ำเสียชีวิตคาที่ส่วนเพื่อนผู้ตาย 2 คนกระโดดหนีตายไปกันละทิศละทางโดยนายภักดี มือปืนได้ยิงกราดไล่หลังไปอีก 2 นัดโชคดีกระสุนไม่โดนสองหนุ่มที่วิ่งหลบหนี หลังก่อเหตุจึงนำอุธปืน .357 ที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับเจ้หน้าที่ตำรวจบนโรงพักดังกล่าว

พ.ต.ท.ธีระพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป. เปิดเผยว่า คดีนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน เพราะหลังก่อเหตุนายภักดี สิงหเสม มือปืนได้นำอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับตำรวจ และให้การรับสารภาพตลอดขอกล่าวหาว่าใช้อาวุธปืนยิงกลุ่มผู้ตายที่นั่งดื่มเหล้าเสียงดัง 4 นัด ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คนจริง  ส่วนสาเหตุเกิดจากความเครียดสะสมมานานจากกรณีที่กลุ่มผู้ตายนั่งดื่มเหล้าหน้าบ้านส่งเสียงดังสร้างความเดือดร้อนรำคาญมานานแล้ว ในเบื้องต้นได้แข้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่น ส่วนที่ไม่ได้ตั้งข้อกล่าวฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน เพราะเป็นการก่อเหตุเพราะบันดาลโทสะ จึงควบคุมตัวนายภักดี พ่อเฒ่าวัย 63 มือปืนไว้ดำเนินคดีตามข้นตอนกฎหมายต่อไป.

 

ขอลคุณภาพ/คลิป ทีมข่าวทุ่งสง/กู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์

ยุทธนะ  เตมะศิริ นครศรีธรรมราช

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ