ชาวบ้านแห่อุดหนุนยายวัย70ถูกหญิงสูงอายุใช้แบงค์กาโม่ซื้อของ
กรณีโลกโซเชียลแห่แชร์ด่าประณาม คนร้ายเป็นหญิงใช้แบงค์กาโม่ ซื้อของยายซึ่งเข็นรถเข็นขายข้าวผัดกระเพรา ข้าวไข่เจียว ลูกชิ้น อยู่หน้าโรงเรียนสุพรรณภูมิ ริมถนนหมื่นหาญ เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางสมพิศ ฤทธิเดช อายุ 70 ปี บ้านอยู่ หมู่ 5 ต.ท่าระหัด อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี เล่าให้ฟังว่าหลังถูกคนร้ายมาสั่งซื้อข้าวผัดกระเพรากับลูกชิ้น จำนวน 100 บาท คนร้ายนำแบงค์กาโม่ให้ยาย ยายสมพิศยังได้ทอนเงินไปอีกจำนวน 400 บาท จากนั้นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์หนีไป กระทั่งมาวันนี้มีประชาชนที่ทราบเรื่องยายถูกหลอก หลังเป็นข่าวโลกโซเชียลแห่แชร์ด่าประณามคนร้ายที่มาก่อเหตุกับยาย ประชาชนที่ทราบข่าวได้แห่กันมาอุดหนุนสั่งซื้อข้าวผัดกระเพาะ ข้าวต่างๆ และลูกชิ้นที่ยายขายกันอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมาได้มีผู้ใจบุญต่างทยอยกันนำเงินมาช่วยเหลือยายด้วย ส่วนยายสมพิศได้กล่าวขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเหลือทั้งมาอุดหนุนซื้อของกับยายและทุกคนที่นำเงินมาช่วยเหลือด้วย ยายยังกล่าวอวยพรปีใหม่ขอให้ทุกคนมีความสุข ความเจริญกว้า ร่ำรวยทุก ส่วนหากใครมีความประสงค์ที่จะให้การช่วยเหลือสามารถให้ความช่วยเหลือที่ หมายเลขบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาถนนพระพันวษา เลขที่ 747-0-34587-6 นางสมพิศ ฤทธิเดช หรือ โทร.064-072-6706
ทางด้าน พ.ต.อ.วรพจน์ วีเปลี่ยน ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่าหลังจากที่โลกโซเชียลได้แชร์เรื่องคุณยายถูกหญิงสูงอายุใช้แบงค์กาโม่จ่ายค่าของยาย ซึ่งเป็นความส่วนตัวข้อหาฉ้อโกง แต่ผู้เสียหายไม่ได้เข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน แต่ในแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตนได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่สืบหาเบาะแสของคนร้าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบข้อมูลคนร้ายพร้อมแล้วว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดและไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ เนื่องจากไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ หากผู้เสียหายเข้าแจ้งความเมื่อไหร่เจ้าหน้าที่สามารถขออนุมัติศาลออกหมายจับและเข้าจับกุมตัวได้ทันที จึงขอชี้แจงให้ประชาชนทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการในส่วนของการสืบหาคนร้ายแล้วเพียงแต่รอผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์เท่านั้น
ภาพ/ข่าว ภัทรพล พรมพัก มงคล สว่างศรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สุพรรณบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง