บุรีรัมย์ - คมข่าวทั่วไทย
วันที่ 18 พ.ค. 2562 จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพส์ตคลิปขณะที่ชายคนหนึ่งตบตีลูกชายวัย 4 ขวบ ทั้งยังใช้มือบีบคอ ซึ่งเด็กก็ส่งเสียงร้องตลอดเวลา โดยขณะที่พ่อลงมือทำร้ายลูกตัวเองยังได้ถ่ายคลิปส่งไปให้ภรรยาที่ทำงานอยู่ประเทศเกาหลีดูด้วย โดยผู้โพส์ตระบุว่าตัวเองเป็นป้าของเด็ก ที่นำคลิปมาโพส์ตเพราะแม่ของเด็กอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือลูกที่ถูกพ่อทำร้าย หลังจากคลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
ส่วนใหญ่ก็จะประณามการกระทำของชายคนดังกล่าวที่ทำรุนแรงกับลูกที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไร บางคนรับไม่ได้ถึงกับบอกว่าไม่สมควรจะเป็นพ่อคน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหนองขุนปราบ ต.เมืองแฝก อ.ปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พร้อมปลัดฝ่ายความมั่นคง อ.ลำปลายมาศ เจ้าหน้าที่องค์การบริการส่วนตำบลเมืองแฝก และผู้นำชุมชน ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึงบ้านหลังเกิดเหตุก็พบกับนายกิตติพงศ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชายที่ถูกลงมือทำร้ายลูกตัวเองนั่งอยู่เตียงไม้หน้าบ้าน ได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปเกิดขึ้นเวลาประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนั้นเป็นวันเกิดของตัวเองก็ซื้อเนื้อย่างมานั่งกินหน้าบ้าน แล้วตอนประมาณ 4 โมงเย็นวีดีโอคอลจากโทรศัพท์ของภรรยาซึ่งทำงานอยู่ประเทศเกาหลีดังขึ้น พอตัวเองกดรับสายแต่กลับไม่ใช่ภรรยาตัวเองกลับผู้ชายคนอื่นแสดงตัวว่าอยู่กับภรรยาของตัวเอง จึงทำให้รู้สึกโกรธมาก
หลังจากนั้นก็นั่งดื่มเหล้าย้อมใจกระทั่งประมาณเที่ยงคืน จึงตัดสินใจตีลูกแล้วถ่ายคลิปส่งไปให้ภรรยาดู ซึ่งก็ยอมรับว่าตีลูกจริงแต่ไม่ได้ตีรุนแรงถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย เพราะตนเองก็รักลูก แต่ที่ทำลงไปแค่ต้องการอยากจะประชดภรรยาที่ไปมีชายคนอื่นเท่านั้น เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะทำใจได้ถ้าเห็นภรรยาตัวเองไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น ส่วนภาพที่ลงในโซเชียลตนไม่ได้เป็นคนโพส์ตแค่ส่งไปให้ให้ภรรยาดูเท่านั้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวนายกิตติพงศ์ ไปสอบปากคำที่ สภ.ทะเมนชัย พร้อมลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งนายกิตติพงศ์ ก็รับปากว่าจะไม่ทำร้ายลูกอีก
ด้านนายโรจนิล จินดา ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า ภายหลังได้รับทราบเรื่องทางนายอำเภอก็ได้สั่งการให้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นก็พบว่าเป็นเรื่องจริง ซึ่งพ่อก็ยอมรับว่าได้ตีลูกจริงและที่ทำไปก็เพื่อต้องการจะประชดภรรยา จากนั้นก็จะได้นำข้อมูลรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเด็กที่ถูกทำร้าย และป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะทราบว่านายกิตติพงศ์ มีลูก 3 คน อายุ 12 ปี 6 ปี และ 4 ปี และปัจจุบันก็อาศัยอยู่ด้วยกันแค่พ่อลูก ส่วนแม่ไปทำงานที่ประเทศเกาหลี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง