Lifestyle

สังเกตให้ดีก่อน "กินยา" เพราะเราอาจกินยาเสื่อมสภาพอยู่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ในยามที่ป่วยไม่สบาย ก่อน “กินยา” เมื่อไรต้องก้มลงมองดูยาทุกครั้ง เพราะหากกินยาไม่ดูได้ยาเ“เสื่อมสภาพ”เข้าร่างกาย นอกจากจะไม่หายป่วยยังเสี่ยงเป็นอันตรายร้ายแรงได้อีก

          ไม่ว่าจะป่วยเป็นอะไร ก่อนจะ “กินยา” ทุกครั้งขอให้ทุกคนสังเกตลักษณะยาก่อนทุกครั้งว่ามีความผิดปกติหรือไม่  โดยต้องดูลักษณะของยาให้ละเอียดทั้ง เม็ดยา สี กลิ่น และรสของยาว่าเป็นอย่างไร เพราะหากกินยาที่เสื่อมคุณภาพ ยาเก่าหรือหมดอายุเข้าไปอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิต

 

          รู้ไหมว่า...ยาจะมีคุณภาพดีจนถึงวันหมดอายุที่ระบุไว้ได้ หากถูกจัดเก็บอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำโดยบริษัทผู้ผลิต  แต่หากมีการจัดเก็บยาที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ยาเสื่อมสภาพและมีคุณภาพลดลงก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้ ดังนั้นการสังเกตลักษณะของยาจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากยาเปลี่ยนไปจากเดิมก็แสดงว่า เราไม่ควรกินหรือใช้ยานั้นต่อไป

 

 

สังเกตให้ดีก่อน "กินยา" เพราะเราอาจกินยาเสื่อมสภาพอยู่

 

วิธีสังเกตยาหมดอายุ ยาเสื่อมสภาพ

 

รูปแบบยา

1. ยาเม็ดที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ สังเกตได้จากวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลาก หรือบรรจุภัณฑ์ แต่หากยาเม็ดไม่ได้บรรจุอยู่ในบรรจุภัณฑ์สามารถสังเกตได้จาก

  • ยาเม็ด : เม็ดยาเยิ้ม เม็ดแตก ชื้น บิ่น เปลี่ยนสี
  • ยาแคปซูล : เปลือกแคปซูลมักบวมโป่ง มีจุดเชื้อราขึ้น
  • ยาผงแห้ง : ผงยาจะจับตัวกันเป็นก้อนแข็ง ไม่สามารถละลายได้ ภาชนะบรรจุมีไอน้ำ หรือหยดน้ำเกาะ

 

2. ยาน้ำรูปแบบต่างๆ นอกจากจะสามารถสังเกตดูวันหมดอายุที่ระบุไว้บนฉลากแล้ว ยังสามารถสังเกต สี กลิ่น และรส ที่เปลี่ยนไป และสามารถสังเกตได้จาก

  • ยาน้ำใส : มีตะกอนเกิดขึ้น หรือขุ่น
  • ยาน้ำแขวนตะกอน : เมื่อเขย่าขวดแรงๆ ยาจะไม่กลับมาเป็นเนื้อเดียวกัน หรือตะกอนยังเกาะติดแน่นกัน
  • อีมัลชั่น : เมื่อเขย่าจะไม่เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน

 

3. ยารูปแบบอื่น ๆ สามารถสังเกตได้จาก

  • ยาขี้ผึ้ง : แยกชั้น สี เนื้อสัมผัส และมีความหนืด เปลี่ยนไป ของเหลวออกมาเยิ้มที่ผิวหน้าของยา มีกลิ่นเหม็นหืน
  • ยาครีม : แยกชั้น สี เนื้อสัมผัส และมีความหนืด เปลี่ยนไป มีกลิ่นเหม็นหืน
  • ยาเจล : เนื้อเจลขุ่น ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน

 

 

สังเกตให้ดีก่อน "กินยา" เพราะเราอาจกินยาเสื่อมสภาพอยู่

 

 

สาเหตุที่ทำให้ยาเสื่อมสภาพได้

  • การเสื่อมสภาพทางเคมี ได้แก่ การลดลงของปริมาณตัวยาสำคัญ และการเพิ่มขึ้นของสารสลายตัว
  • การเสื่อมสภาพทางกายภาพ ได้แก่ ความผิดปกติของสื กลิ่น รสชาติ และความใส หรือการเกิดตะกอน
  • การเสื่อมสภาพทางจุลชีววิทยา ได้แก่ การปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียเกินระดับปลอดภัย

 

 

สังเกตให้ดีก่อน "กินยา" เพราะเราอาจกินยาเสื่อมสภาพอยู่

 

วิธีเก็บรักษายาให้คงคุณภาพ 5 ข้อ

1. เก็บยาในที่แห้งในภาชนะที่ปิดสนิท

2.ไม่เก็บยาในห้องน้ำ ในที่มีความร้อน แสงแดดส่องถึง ในรถยนต์ หลังตู้เย็น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่มีความร้อน

3. โดยทั่วไปยาไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในตู้เย็น ยกเว้นยาบางชนิด ส่วนยาที่ระบุให้เก็บในตู้เย็น ต้องเก็บในช่องเย็นธรรมดา อย่าเก็บในช่องแช่แข็ง

4.ไม่แกะยาออกจากแผงล่วงหน้า เพราะอาจทำให้ยาเสื่อมสภาพ

5. เก็บยาตามข้อแนะนำที่ระบุบนฉลากยา

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา,www.pixabay.com https://www.facebook.com/AntiFakeNewsCenter, https://www.siphhospital.com

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ