รู้จัก “เมี่ยง” พี่สาวน้องเมย ที่ต้องแกร่ง...เพราะแบบนี้!
วันนี้ต้องใช้ “ความกล้า” และแกร่ง ขนาดไหน เพื่อไขความจริงเบื้องหลังการตายของคนที่พวกเขารักอย่าง “น้องเมย”
“หัวอกพี่” ก็ไม่ต่างจากหัวใจพ่อแม่ ที่จะขาดรอนๆ ยิ่งในฐานะลูกคนโต เวลานี้เหมือนก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำครอบครัวโดยไม่รู้ตัวและเข้มแข็งให้ได้
เข็มแข็งขนาดไหน คนไทยรู้กันแก่ใจ กับการเดินหน้าลุยเรื่องของน้องชาย หรือ นายภัคพงค์ ตัญกาญจน์ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่เสียชีวิตภายในโรงเรียนเตรียมทหาร จ.นครนายก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยแพทย์ระบุว่าเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
แต่ที่การันตี “อีกรอบ” เมื่อเริ่มมีกระแสต่อต้านโรงเรียนเตรียมทหาร จนนักเรียนเตรียมทหารออกมาปกป้องสถาบันด้วยการติดแฮชแทก #เสพข่าวอย่างมีมติ
สาวเมี่ยงจึงออกมาโพสต์ข้อความในเฟซบุคของเธอชื่อ "Supicha M Tanyakan" ของวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมาว่า
“ขอความกรุณาทุกท่าน อย่าโจมตีชื่อเสียงของโรงเรียนเตรียมทหาร เพราะที่นี่คือสถาบันอันทรงเกียรติ และเป็นสถาบันหลักที่ผลิตกำลังของประเทศ”
“ตอนนี้ที่เมี่ยงทำคือออกมาหาความจริงว่าเหตุใด น้องชายถึงเสียชีวิต เมี่ยงทราบว่าน้องเมยเสียที่กองพยาบาล สถานที่กองพยาบาลไม่มีใครขึ้นไปธำรงวินัยน้องได้”
“แต่ก่อนหน้าวันที่ 17 เกิดเหตุอะไรขึ้นกับน้องเมย เพราะเมี่ยงได้รับเอกสารชันสูตรทางสถาบันพยาธิ เขียนว่า หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เท่านั้น”
“มีส่วนหนึ่งที่กล่าวถึงอวัยวะภายในหลักๆ มีซี่โครงหักหนึ่งที่ ม้ามมีเลือดอีกหนึ่งที่ (ผลจาก รพ.พระมงกุฏ)”
“แต่ผลฉบับที่ 2 นั้น ยังทำไม่เสร็จ เพราะเมี่ยงได้นำอวัยวะส่วนที่เหลือไปให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เมื่อวาน ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร และทางสถาบัน จะตรวจสอบ DNA ให้ว่า ใช่ชิ้นส่วนของน้องเมยจริงหรือไม่ (ไม่ต้องไปไกลถึงเมืองนอกนะคะ และ ไม่ต้องเสียเงินหลายบาทด้วย เพราะ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำให้ฟรีค่ะ ไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นนโยบายของสถาบัน)
“สุดท้ายนี้ ถ้าทุกคนประสงค์จะตั้งประเด็นคำถาม หรือ ท่านมีขอสงสัย ท่านเจาะจงเป็นบุคคลที่อยู่ใน ร.ร.เตรียมทหาร เป็นทางเลือกที่ดีกว่าค่ะ”
#เรารักเรียมทหาร #นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 60
ปล.ตอนนี้เมี่ยงขอพักก่อนไม่งั้นเมี่ยงอาจจะ sudden cardiac arrest ตามน้องเมยไปในเร็ววัน ขอบคุณค่ะ”
(นั่นเพราะเวลานี้คุณแม่ และตนเอง อยู่ในภาวะเครียดจนต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวานนี้)
ยิ่งชัดเจนว่า เธอคนนี้ไม่ใช่แค่พี่สาวของคนที่จะเติบโตเป็นทหาร แต่เธอยัง “แมนมาก” หรืออาจจะแมนกว่าชายอกศามศอกหลายคนด้วยซ้ำ!!
หลายคนอาจทั้งสงสัยและไม่สงสัย ว่าทำไมเธอต้องแกร่ง !!
แน่นอนการที่ครอบครัวต้องประสบเคราะห์กรรมครั้งนี้ บทบาทของเธอ แทบจะกลายมาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ต้องยืนอยู่ข้างหน้าของ นายพิเชษฐ, นางสุกัลยา ตัญกาญจน์ บิดามารดาที่แทบจะหมดแรงยืนแล้ว
ดังที่เราเห็นกันว่า ในทุกครั้งที่ออกสื่อ เธอจะหอบหิ้วเอาเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวกับน้องชายมาด้วยเสมอ เพื่อความพร้อม ที่จะตอบคำถาม อธิบาย และตั้งคำถามกลับไปยังเป้าหมายได้ตลอดทุกเมื่อ
หรือการที่เมี่ยงเป็นผู้ที่เข้าไปดูการผ่าตัดชันสูตรศพของน้องทุกขั้นตอน จนได้พบว่าอวัยวะสำคัญหลายชิ้นของน้องเมยหายไป!
และอีกหลายครั้งกับคำพูดของเธอผ่านสื่อ ที่สะท้อนถึงความรู้ ความเข้าใจ ในตัวบทกฎหมาย เปี่ยมไปด้วยวุฒิภาวะทางอารมณ์ และกาละเทศะ ดังที่เพิ่งโพสต์ให้กับโรงเรียนเตรียมทหารข้างต้น
หรือแม้แต่การที่จะต้องอุ้มกล่องที่บรรจุอวัยวะของน้องเมยกลับไป พวกเขาต้องแข็งแกร่งขนาดไหน ลองคิดดู
000
ภายใต้ใบหน้าสะสวย แต่ไฟในแววตามุ่งมั่นนี้ เรามิอาจประเมินได้ว่าเธอเป็นแบบนี้มาแต่แรก หรือเพิ่งเป็นเมื่อเกิดเรื่องกับน้อง!
เธอเคยโพสต์ว่า "ครั้งนี้ทำไปก็มีแต่เหนื่อยเปล่าทั้งการเดินทาง ทั้งการเจรจา(ที่ปกปิดความจริง) ทำไปผู้เสียชีวิตก็ไม่ได้ฟื้นคืน แต่ที่ทำเพราะอะไร เพราะคนรุ่นหลังที่ตั้งใจเข้ามาเรียนสถาบันอันทรงเกียรตินี้ จะได้ไม่ประสบพบเจอกับเหตุการณ์เช่นนี้อีก ถ้าทำสำเร็จก็เป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังทั้งนั้น"
"สถาบันใคร ใครก็รัก แต่รักแล้วต้องมีเหตุมีผลสิ ไม่ใช่จะเอาแต่ปกปิด หรือออกมาด่าคนตาย"
หากลงไปดูโพรไฟล์ของ “พี่เมี่ยง” คนนี้ ก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา และที่มีความรู้ทางด้านกฎหมายมาอย่างดี นั่นเพราะเธอ มีความใฝ่ฝันอยากเป็นอัยการ
สุพิชา หรือ "เมี่ยง" เกิดวันที่ 1 กรกฎาคม 2537 ปัจจุบันอายุ 23 ปี เรียนจบจากคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยบูรพา จ.ชลบุรี จากนั้นเรียนต่อที่ สำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ต่อด้วย เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
แว่วว่ากำลังสนจะเรียนต่อปริญญาโทที่ ม.มหิดล ขณะที่วงดนตรีที่ชื่นชอบคือ Linkin Park!
แต่เวลานี้ แม้จะต้องหยุดความฝันไว้ชั่วคราว เพื่อเดินหน้าทวงถามความเป็นธรรมให้กับน้องชาย แต่ดูเหมือนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็เหมือนบททดสอบแห่งชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ ที่เธอจะนำไปใช้ในวันที่สวมหมวกอัยการได้ในอนาคตแน่ๆ
ซึ่งเวลานี้ ในเรื่องของการสอบสวน พนักงานสอบสวนได้รับผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์โรงพยาบาลนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และแพทย์ที่ผ่าศพที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานแวดล้อม ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้สอบปากคำนักเรียน เพื่อน และพยานที่พบก่อนเกิดเหตุไปแล้ว 3-4 ปาก คาดว่าภายใน 2 สัปดาห์จะสรุปสำนวนให้อัยการได้
แต่จะแกร่งขนาดไหน ความรักที่เมี่ยงมีให้กับน้องชายคนเดียวนี้ สะท้อนอย่างดีว่า เธอเป็นพี่สาวที่ “อ่อนโยน” มากไม่แพ้กัน!!
ในเฟซบุคเธอ ตั้งอัลบั้มชื่อ “Young Brother” ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2560 ซึ่งเป็นวันเสียชีวิตของน้องเมย ในนั้นมีภาพของตนเองกับน้องชายไว้มากมาย หลายช่วงวัย
แต่มีอยู่ภาพหนึ่งเธอเขียนบรรยายอย่างน่าสนใจว่า
“Cowards may die many times before their death; the valiant never taste of death but once.
“คนขี้ขลาดตาขาวตายไปหลายครั้งก่อนที่จะมอดม้วยมรณา ผู้กล้าหาญลิ้มรสความตายเพียงครั้งเดียว”
Meay P Tanyakan นายแบบของเมี่ยง”
ก็เพื่อมอบให้แด่น้อง...และอาจกำลังบอกตนเองและครอบครัวไปด้วย! เพราะวันนี้ต้องใช้ “ความกล้า” และแกร่ง ขนาดไหน เพื่อไขความจริงเบื้องหลังการตายของคนที่พวกเขารัก!!
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟซบุค Supicha M Tanyakan
***ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดราม่า 'หัวปัก' !! รุ่นพี่ "เตรียมทหาร" โพสต์เตือนสติ
เด้ง !!! ผู้การ-ผู้พัน ร.ร.เตรียมทหาร
ล่าชื่อให้ จนท.- ผู้บังคับบัญชา ลาออก กรณี "น้องเมย"
"นายกฯ"เสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวนร.เตรียมทหาร
"บิ๊กป้อม"ขอโทษครอบครัว"น้องเมย"พูดกระทบจิตใจ
ผลสอบน้องเมย"ถูกซ่อมหยุดหายใจ-หัวใจวายเฉียบพลัน"
ผลสอบข้อเท็จจริง "น้องเมย" เสียชีวิตแบบละเอียดยังไม่เสร็จ
โฆษกกลาโหม ปกป้อง "บิ๊กป้อม" ชี้ไม่ได้พูดเจาะจง"น้องเมย"
พี่สาว ‘น้องเมย’ วอน อย่าโจมตี ร.ร.เตรียมทหาร
ทนายความ ชี้ช่อง กรณี“น้องเมย” ทำเป็นคดีได้