รู้ไหม? มีกฎหมายคุ้มครอง "หัวหน้างาน" ถ้าไม่อยากเสี่ยง "ตกงาน" อย่าปล่อยให้แม่ทำแบบนี้ ลูกจ้างดูหมิ่นนายจ้าง ถูกเลิกจ้างไม่จ่ายชดเชย
เรียนรู้ข้อกฎหมาย หากไม่อยากเสี่ยง "ตกงาน" จากการแชร์ประสบการณ์ หัวอกคนเป็น "หัวหน้างาน" เมื่อต้องเจอสถานการณ์ ถูกเเม่และพี่ชายลูกน้องตะโกนด่าผ่านโทรศัพท์ !!! โดยหัวหน้าสาวรายนี้ ได้ตั้งกระทู้ถามชาวเน็ต ขอคำเเนะนำว่าควรจัดการยังไง เมื่อลูกน้องให้แม่มาด่าหัวหน้าผ่านโทรศัพท์ ...
เเต่หลังจากได้รับคำเเนะนำเเล้วหัวหน้ารายนี้ กลับลบโพสต์ทิ้งไป เเต่ชาวเน็ตเเคปไว้ทัน จึงพบรายละเอียดของที่มาของเรื่องราวครั้งนี้ ว่า
พนักงานคนนี้ไปสื่อสารเรื่องบางอย่างให้พนักงานอีกคนเข้าใจผิด เสียความรู้สึก ร้องไห้เราเลยจัดการด้วยการโทรไปตักเตือนและชี้ให้เห็นว่าการสื่อสารเรื่องบางเรื่องต้องกลั่นกรองให้ดีก่อนพูดแต่น้องเค้ารับไม่ได้ค่ะ เค้าไม่ยอมรับว่าสิ่งที่เค้าพูดและสื่อสารไปมันไม่เหมาะสม ทั้งๆที่ผลของการสื่อสารนั้นก่อให้เกิดการเข้าใจผิดอย่างมาก
น้องเค้าเลยให้แม่และพี่ชายตะโกนด่าเราทางโทรศัพท์ขณะที่เราคุยกับน้องเค้าอยู่ (น้องเค้ากด speaker phone เพื่อให้แม่และพี่ชายฟังด้วย)
ขั้นแรกเราจะออกใบเตือนให้น้องเค้านะคะ
หรือใครมีข้อแนะนำดีดีในการจัดการกับพนักงานแบบนี้ ช่วยแนะนำทีค่ะ
...
ซึ่งช่วงที่เกิดเรื่องเป็นช่วง "Work from home" เราได้สอบถามน้องคนที่เค้าพูดแล้ว เค้ายอมรับว่าเป็นคนพูดจริง แต่ไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดและไม่เหมาะสม
ส่วนช่วงเวลาที่โทรไป ยังเป็นในเวลางานค่ะ
และจะลองพิจารณาจากความเห็นในเรื่องการให้น้องพนักงานทั้งสองคนมาเคลียร์กันต่อหน้า
ไว้หลังสงกรานต์เราจะเรียกทั่งสองคนมาคุยต่อหน้า เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
นี่คือเรื่องราวที่เธอได้อธิบายไว้ ...
หากพบเจอสถานการณ์เเบบนี้ ต้องทำตัวอย่างไร มีการให้คำเเนะนำไว้ว่า การให้ใบเตือนต้องเรียกมาคุยต่อหน้า และออกใบเตือนอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้การพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายเเรง
"จะให้ใบเตือนต้องเรียกมาคุยต่อหน้านะ แล้วค่อยๆเพิ่มโทษถ้าไม่ปรับปรุงตัว
ลูกน้องแบบนี้ไม่ค่อยมีวุฒิภาวะ ถ้าไม่ปรับปรุงตัวก็หาทางให้ออกเถอะ
งานส่วนงาน บ้านส่วนบ้าน แยกแยะไม่ได้ก็ให้ไปนอนเฝ้าบ้าน"
" เรียกมาคุยเป็นทางการ ออกใบเตือน แต่แบบนี้คงไม่มา น่าจะขาดงานและหายไปเลย "
" การพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามผู้บังคับบัญชา เป็นความผิดกรณีร้ายแรง ฎ.๓๔๑๘/๒๕๔๘ "
"จัดการลูกน้อง ตามระเบียบของบริษัทฯ จัดการแม่และพี่ชาย ของลูกน้อง ได้ตามตัวบทกฎหมาย รวบรวมหลักฐาน แล้วสามารถดำเนินคดี ได้ครับ "
" เป็นเราออกใบเตือนครั้งที่ 1 ทำอีกออกใบเตือนครั้งที่ 2 และถ้ามีครั้งที่3 ให้ออก โดยไม่มีค่าชดเชยใดๆ คนแบบนี้ มีแนวโน้มที่จะไม่ปรับปรุงตัว จากที่เขียนที่บ้านก็คงพอๆกัน อย่าเก็บเอาไว้ เพราะพนักงานคนอื่นจะเดือดร้อนไปด้วย"
" ตัวพนักงาน เราจะออกใบเตือนให้ตามกฏระเบียบบริษัท ส่วนทางครอบครัวพนักงาน หากมีครั้งต่อไปที่ต้องโทรศัพท์ติดต่อ เราจะแจ้งว่าได้อัดเสียงไว้ ถ้ายังมีด่าทอ บริภาษ มาอีก ก็แจ้งความดำเนินการทางกฏหมายต่อไปค่ะ "
"ม.๑๑๙ เมื่อเลิกจ้างโดยลูกจ้าง
(๔) ฝ่าฝืนข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม และนายจ้างได้เตือนเป็นหนังสือแล้ว เว้นแต่กรณีร้ายแรง ไม่จำเป็นต้องเตือน หนังสือเตือนให้มีผลบังคับได้ไม่เกินหนึ่งปี นับแต่วันที่ลูกจ้างได้กระทำผิด
*ซ้ำคำเดือน- ครั้งที่ 2 ก็เลิกจ้างได้แล้ว (แต่หากบริษัทกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น เช่น 3 ครั้ง ก็ต้องถือตามนั้น เพราะเป็นประโยชน์แก่ลูกจ้างมากกว่า)
การออกหนังสือเตือน อย่างน้อยต้องมรองค์ประกอบ 7 ประการ คือ
๑.สถานที่ที่ออกหนังสือเตือน
๒.วัน/เดือน/ปี ที่ออกหนังสือเตือน
๓.ข้อความที่แสดงการแจ้งต่อตัวพนักงานที่ถูกเตือนโดยเฉพาะเจาะจง
๔.ข้อเท็จจริงโดยย่อเกี่ยวกับการฝ่าฝืน ซึ่งควรระบุวัน/เวลา/สถานที่ และลักษณะการกระทำที่ฝ่าฝืน
๕.ระบุว่าการกระทำนั้น ฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับ หรือคำสั่งในฉบับใด/ข้อใด/เรื่องใด
๖.ข้อความที่มีลักษณะเป็นการตักเตือนมิให้กระทำผิดซ้ำอีก และระบุถึงโทษทางวินัย หรือความตั้งใจของผู้เตือน หากพนักงานยังคงฝ่าฝืนอีกด้วยก็ยิ่งดี
๗.ลายมือชื่อผู้มีอำนาจออกหนังสือเตือน "
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ มีข้อมูลจาก กองคุ้มครองเเรงงาน กคร. ระบุไว้ว่า ตาม ฎีกาที่ 3418/2548
การกระทำของลูกจ้างจึงเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามนายจ้างอันเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างเป็นกรณีร้ายแรง ซึ่งจำเลยสามารถเลิกจ้างลูกจ้างได้ทันที โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ทั้งไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ลูกจ้างไม่อาจเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ ซึ่งในกรณีนี้ลูกจ้างไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีที่ยังไม่ได้ใช้ด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง