ทนายเจมส์ เปิดข้อกม.เก็บป้าย "ทะเบียนรถ" ไม่คืน-เรียกเงินจะโดนข้อหาใดบ้าง
ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต เปิดข้อกฎหมายกรณีข่าวดัง เก็บป้าย "ทะเบียนรถ" ไม่คืน ซ้ำเรียกเก็บเงินจากเจ้าของ ส่อโดนข้อหาอะไรบ้าง
วันที่ 15 กันยายน 2564 "ทนายเจมส์" นิติธร แก้วโต ทนายความชื่อดัง โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเปิดข้อกฎหมายกรณีที่มีคนเก็บป้าย "ทะเบียนรถ" แต่ไม่ส่งคืนเจ้าของ แถมเรียกค่าเก็บ 100 บาทอีกด้วย พร้อมเตือนให้ระวังข้อหาลักทรัพย์และกรรโชกทรัพย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โผล่อีกราย "เก็บป้ายทะเบียนรถ" ของใครมารับ ลุงคืนให้ฟรี
- ไม่พลาด "ส่องเลขเด็ด" ทะเบียน "รถนายกฯ" นั่งลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม จ.ชัยนาท
- ชาวเน็ตเสียงแตก แบบนี้ผิดไหม? ลุงเก็บ "ทะเบียนรถ" ได้ เรียกค่าเก็บแผ่นละ100
- ทนายเจมส์ ซัด อดีต "ผู้กำกับโจ้" อ้างป่วย ไบโพลาร์ ฟังไม่ขึ้น
- เดือด "ทนายเจมส์" ว่าใคร "มีปากก็สักแต่จะพูดไปเรื่อย"
กรณีที่โลกโซเชียลมีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่ได้โพสต์ตั้งคำถามถึงกรณีที่มีคุณลุงคนหนึ่งเก็บป้าย "ทะเบียนรถ" ที่หลุดตอนน้ำท่วมไว้ แต่เมื่อเจ้าของไปขอคืนกลับถูกเรียกค่าเก็บป้ายทะเบียนรถ 100 บาท กระทั่งเป็นข่าวดังคุณลุงได้ชี้แจงว่าไม่เคยเรียกร้องค่าเก็บป้ายทะเบียน แล้วแต่เจ้าของเขาจะให้ ปกติเวลาน้ำท่วมทุกครั้งตนก็จะคอยเก็บป้ายทะเบียนที่หลุดอยู่ในน้ำเพื่อรอให้เจ้าของมารับคืนไป
ขณะที่ทางตำรวจได้กล่าวตักเตือนคุณลุง พร้อมได้นำป้ายทะเบียนรถที่เหลืออีกประมาณ 190 ป้ายไปเก็บไว้ที่ สถานีตำรวจภูธรบางพลี สมุทรปราการ ทั้งนี้หากท่านใดที่ป้ายทะเบียนรถหายที่บริเวณดังกล่าวสามารถมาติดต่อขอรับคืนได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ทนายเจมส์" นิติธร แก้วโต ก็ได้โพสต์เฟซบุ๊ก "ทนายเจมส์ LK" ระบุว่า การ เก็บป้ายทะเบียนรถ ได้ และนำส่งคืนเจ้าของถือว่าเป็นพลเมืองดี เป็นการบรรเทาความเสียหายความเดือดร้อนให้กับเจ้าของรถน่ายกย่อง น่าชื่นชม น่านับถือ
แต่การที่ไปเรียกร้องเงินจากเจ้าของทะเบียนรถ เพื่อแลกกับการคืนทะเบียนรถ หากเจ้าของทะเบียนรถไม่ยอมจ่ายเงินและไปแจ้งความดำเนินคดี สุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ เนื่องจากเอาทรัพย์ของผู้อื่นไป โดยมีเจตนาทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์อันมิชอบด้วยกฎหมาย การกระทำครบองค์ประกอบความผิด
ในส่วนการที่ไปเรียกร้องเงิน เพื่อแลกกับการคืนป้ายทะเบียนรถทั้งที่ไม่มีสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หากเจ้าของทะเบียนรถไม่ยอมจ่ายเงินและไปแจ้งความดำเนินคดี ก็สุ่มเสี่ยงที่จะถูกดำเนินคดีในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์อีกข้อหาหนึ่งด้วย
กรณีแบบนี้ไม่ได้ต่างอะไรกับการที่เก็บโทรศัพท์มือถือได้แต่ไม่ยอมคืนเจ้าของ และเรียกร้องเงินจากเจ้าของโทรศัพท์ครับ ซึ่งเคยมีประเด็นปัญหากันมาแล้ว
ฝากไว้เป็นข้อคิดนะครับ เงินแค่ 100 บาท อาจจะไม่คุ้มกับการถูกดำเนินคดีอาญา ทั้งนี้หากเจ้าของทะเบียนรถจะมอบเงินให้เป็นสินน้ำใจนั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งนะครับ
"ทำดี อย่าหวังสิ่งตอบแทน การลงมือทำดี ย่อมได้ทุนคืนเป็นบุญเป็นกุศลกลับมาแล้ว ทำดีไม่มีขาดทุน ยิ่งถ้าได้สิ่งตอบแทนมาโดยสุจริต ก็ถือว่านั่นเป็น กำไร ครับ"