คอลัมนิสต์

(ยัง)งูเห่าภาคสาม ระวังโดนหักมุม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...  ทีมข่าวการเมืองเครือเนชั่น

 

 

 

          กระแสข่าว "งูเห่าภาคสาม” ที่เกิดขึ้นตอนนี้กระพือขึ้นหลังปิดประชุมสภาและแนวโน้มน่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนตุลาคมเพราะตอนนั้นสภาผู้แทนฯ จะพิจารณาร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 วาระแรก โดยมีเดิมพันว่าหากร่างกฎหมายการเงินฉบับนี้ไม่ผ่านความเห็นชอบของส.ส. “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะประมุขฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกหรือยุบสภา

 

 

          ฝ่ายค้านขอ 5 วันโดยอ้างสิทธิตามกติกาหลักที่วางไว้ให้ไล่จี้ตรวจบัญชีได้


          รวมทั้งขุนพลฝ่ายค้านบางคนบอกชัดเกี่ยวกับการจองกฐิน "อภิปรายไม่ไว้วางใจ” โดยเน้นเป้าไปยังกัปตันเรือเหล็กและขุนพลตัวกลั่นในหลากข้อหา เพราะเวทีนี้ขั้วตรงข้ามลุงตู่สามารถจัดหนักจัดเต็มประเคนลุงตู่และคณะได้หลากประเด็น


          อย่าลืมว่าสมัยประชุมหน้าจะเป็นการประชุมสมัยนิติบัญญัติที่ต้องพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับและจำเป็นต้องใช้เสียงของส.ส.ลงมติ หากร่างกฎหมายฉบับสำคัญไม่ผ่านตรงนี้จะเป็นหนึ่งในปัญหาเสถียรภาพของเรือเหล็กที่โดนรุมแซะรายวัน


          เมื่อบวกกับภาวะเสียงปริ่มน้ำของเรือเหล็กในยามนี้ที่ยังลุ้นหนักเพราะที่ผ่านมาแกนนำรัฐบาลและพลังประชารัฐทราบดีว่าส.ส.รัฐบาลไปปฏิบัติภารกิจ "พลร่มสัมพันธ์” ร่วมกันหลายชีวิตในสมัยประชุมที่แล้วยังดีที่ว่าแกนนำรุ่นใหญ่ประคองเกมไว้ใม่ให้สถานการณ์ "สภาล่ม” บังเกิด...ไม่เช่นนั้น พปชร. โดน "ยำเละ” จากหลายฝ่ายในสังคม


          หากมีการเลือกตั้งใหม่ที่ขอนแก่นและสมุทรปราการ เท่ากับว่าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านหายไปฝ่ายละหนึ่งเสียง


          ดังนั้นยามหน้าอันใกล้กับภาวะความเสี่ยงของจริงนั้น “ชาวนากับงูเห่าภาคสาม” จึงกระพือเผยข่าวออกมาจากทั้งสองขั้วดังที่ทุกฝ่ายเข้าใจ


          เกี่ยวกับสภาวะของเรือเหล็กยามนี้มันจำเป็นเช่นใดกับการยืมมือของขั้วตรงข้ามาหนุน เพราะหากไล่เรียงกันตามสภาวะความจริงการคุมส.ส.รัฐบาลให้อยู่ในกรอบนั้น บางคนมีภารกิจด่วน บางคนตามขบวนเจ้านายลงพื้นที่ บางคนป่วย บางคนเป็นส.ส.ควบเสนาบดี แบบนี้หากขั้วหนุนลุงตู่ไม่มีกำลังพลสำรองแล้วต้องรบในเหตุซึ่งหน้า “ความเสี่ยงที่จะพ่ายในรัฐสภา เกียกกายนั้น นับว่าสูงยิ่ง”




          ล่าสุดพรรคจิ๋วที่ร่วมเรือเหล็กเริ่มกระจองอแงกันหลากวาระและขู่จ่อโดดลงพ้นเรือเหล็กแล้ว เมื่อเหตุเป็นเช่นนี้กองหนุนจากขั้วตรงข้าม "ควรต้องมี" ดังนั้นหากพปชร.มีกองหนุนไว้ในมือมันจะอุ่นใจกว่า....โดยตอนนี้เป้าหมายที่เล็งไปยังคะแนนเสียงของฝ่ายค้านโดยเฉพาะ "งูเห่าเพื่อไทย” ที่มีกระแสลือกันหลายวันว่าคีย์แมนพปชร.เดินจังหวะทาบทามกันอีกครั้ง โดยที่แกนนำพท.ก็ออกมารับข้อมูลนี้และอัดกลับไปแบบไม่ยั้ง


          โดยแกนนำ พท.รวมทั้งพปชร. ตอกกลับและท้าทายเกี่ยวกับเรื่องการดูดงูเห่าจนท้าให้แฉคลิปลับการดีลขอเสียงหนุนครั้งนี้กันวุ่น


          ลองไล่สายสัมพันธ์ของคีย์แมนพปชร.ที่มีกระแสข่าวว่าไปทาบทามงูเห่าพท.นั้น คนการเมืองกลุ่มนี้ใช่คนอื่นคนไกล เพราะบางคนเคยเป็นเพื่อนส.ส.ร่วมสมัยกัน บางคนเคยเป็นเจ้านายและลูกน้องร่วมมุ้งกันมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทยและพลังประชาชน ดังนั้นปัจจัยและเงื่อนไขพิเศษที่มีกระแสข่าวว่ายื่นออกไปให้ไตร่ตรองนั้นจึงไม่ใช่ภาวะผิดปกติสำหรับคนการเมือง


          แต่มันไม่ปกติสำหรับคนในสังคมที่มองว่านักการเมืองฮั้วผลประโยชน์กันและกัน


          มองอดีตที่ผ่านมา พปชร.มีกระแสข่าวทาบทามงูเห่าสีส้มบางรายและงูเห่าพท.ยี่สิบคนมาร่วมขบวนในช่วงตั้งรัฐบาลชุดนี้ แต่เกมนี้เริ่มแล้วล่มเพราะมีการแฉกลับแต่ไม่เปิดหลักฐาน


          ในทางลับ ส.ส.อนค.บางรายยังอยู่ในลิสต์ของพปชร.เสมอและรอเพียงเวลามาร่วมงาน


          เพราะภาวะปัจจุบันคนการเมืองพินิจว่าอนาคตของอนค.นั้นยังไม่แน่ชัดว่าจะไปรอดตลอดฝั่งหรือไม่...ดังนั้นคนคุมเกมของพปชร.มองว่าหากต้องรองูเห่าสีส้มในยามนี้และอาจมีเหตุซึ่งหน้าขึ้น พปชร. “คงจะรออนค.ไม่ไหว” เนื่องจากหากจะทาบทามส.ส.พรรคอนาคตใหม่มาลงเรือเหล็กนั้นต้องรอดูชะตาของหัวหน้าพรรคและกรณีเกี่ยวข้องกับพรรคให้เกิดผลการตัดสินความให้ยุติเสียก่อน


          ดังนั้นเกมเร็วของพปชร.คือทาบทามส.ส.เพื่อไทยและส.ส.บางคนจากฝ่ายค้านบางพรรคให้ดำเนินการตรงข้ามแนวทางพรรค


          และอาจเป็นการปูทางสำหรับกลเกมในวันข้างหน้า กรณีนี้จึงเป็นภารกิจของใครบางคนในพปชร.ที่ต้องมีทางหนีทีไล่ไว้รองรับอนาคตทางการเมืองของตัวเอง


          เมื่อเพ่งไปยังแก่นแกนของพปชร. แน่นอนว่าเสียงส่วนใหญ่ที่ไปประกอบร่างขึ้นโครงเป็นพปชร.นั้น พบว่ามีที่มาจากการเป็นอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ดังนั้นหากวันข้างหน้าพปชร.ไม่สามารถขับเคลื่อนไปให้รอดมรสุมการเมือง คนการเมืองที่เคยสวมเสื้อเพื่อไทยในวันวานแต่วันนี้ใส่เสื้อพปชร.ก็พร้อมย้ายขั้วกลับบ้านหลังเก่า โดยยามนั้นเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายเลือกว่า “ใครควรได้สิทธิคัมแบ็ก?”


          แกนนำพท.คนหนึ่งอ่านจังหวะของพชปร.ให้พินิจกันต่อว่า “หลายคนทราบดีว่าภายในพปชร.มีกี่มุ้ง และมีความขัดแย้งอย่างไร กลุ่มที่โดนไล่บี้มากสุดคือกลุ่มสามมิตรของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และสมศักดิ์ เทพสุทิน


          อย่าลืมว่าแกนนำกลุ่มนี้มีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใหญ่ในพรรคสายชินวัตร และส.ส.หลายคนในพรรคพท.สองคนนี้ก็เคยดูแล มันเป็นไปได้สูงว่าหากวันข้างหน้าพปชร.ไปต่อไม่ได้ กลุ่มสามมิตรคงจะกลับมาที่เพื่อไทย แม้กลุ่มนี้จะมีพรรคอะไหล่ไว้แล้วแต่หากสามมิตรกลับมาที่พท.แล้วให้ส.ส.หลายคนในพท.ให้การรับรองในการสมัครกลับมา มันก็เป็นไปได้


          งูเห่าอาจจะเกิดจากจุดนี้ก็เป็นได้ในวันข้างหน้ากับภาวะเสียงปริ่มน้ำแบบนี้ มั่นใจ ส.ส.เพื่อไทยไม่โดนดูด แต่เป็นมุมตรงข้ามว่าสามมิตรกำลังหารันเวย์ลง เพราะหลายคนมองตรงกันว่าอายุรัฐบาลไม่น่าจะยาวนาน การไปตั้งพรรคใหม่มันไม่ง่ายกับการเมืองวันนี้ ดังนั้นไม่ใช่ว่าพท.และพรรคฝ่ายค้านจะโดนดูดเพียงฝ่ายเดียว ฝ่ายรัฐบาลที่ขัดแย้งกันเองก็เกิดเหตุโดนดูดกลับแบบนี้ได้”


          และบวกกับบางขั้วบ้านริมน้ำของสุชาติ ตันเจริญ ที่แม้ตัวจะอยู่พปชร.แต่สายสัมพันธ์ลึกๆ แล้ว บ้านริมน้ำก็พร้อมย้ายกลับรังเก่าเพราะบุตรชายของสุชาติที่ชื่อมดดำสัมพันธ์อันดีในฐานะเพื่อนรักยังมีเยื่อใยกับลูกชายคนโตของคนไกลบ้าน แปลว่าบ้านริมน้ำก็มีโอกาสกลับพท.เช่นกัน


          สอดรับกับแกนนำพรรคขนาดกลางที่ร่วมรัฐนาวาลำนี้ที่ประเมินไว้ว่า “สิ่งที่น่าห่วงของรัฐบาลและสภาผู้แทนฯ คือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจและเสียงโหวตในสภาผู้แทนฯ “รวมทั้งยังเคยทิ้งปมให้คิดเล่นๆ ว่าการเมืองแบบนี้” ระวังงูเห่าจะเกิดในฝั่งรัฐบาลด้วยจากบางพรรค”


          หากพินิจในเหตุผลข้างต้นของแกนนำพรรคขนาดกลางพรรคนี้ก็มองได้ว่า ในข้อเท็จจริงยามนี้เศรษฐกิจโลกตอนนี้ผันผวน ปัญหาเศรษฐกิจไทยที่หลายคนมองว่าหลังเลือกตั้งควรยุติ เศรษฐกิจไทยน่าจะเงยหัวได้ แต่ความจริงมันไม่ใช่เช่นนั้น เพราะหลากสถาบันที่แสดงผลประเมินภาวะเศรษฐกิจของไทยก็มิใช่ออกมาในเชิงบวก แม้ครม.จะเร่งผลักดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจลงไป แต่เมื่อบวกกับภาวะดินฟ้าอากาศยามนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเดินจังหวะไม่ให้เครื่องสะดุด


          เมื่อประกอบกับสถานะของครม.ชุดนี้โดยลุงตู่นั่งหัวโต๊ะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หลังจากสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ออกตัวไว้หลายวันก่อนว่า “ผมไม่ใช่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ”


          มันแปลความว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนอาจจะลดลงเพราะสภาวการเสมือนปีนเกลียวกันในวงเสนาบดีในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจนั้นเกิดขึ้นกลายๆ ให้ชาวบ้านร้านตลาดและนักลงทุนต่างชาติรับรู้แล้ว


          ดังนั้นหากพิจารณาตามการให้มุมมองของแกนนำทั้งสองฝ่ายในข้างต้น ประเมินจังหวะการเมืองได้ว่า เกมการดึงเสียงขั้วตรงข้ามของพปชร.ที่ต้องเดินหน้าเต็มสูบเพื่อระดมเสียงให้อยู่ในมือแบบไม่ต้องลุ้นรายวันนั้น ยากที่จะเกิดขึ้น เว้นแต่มีเสียงเฉพาะกิจมาลงคะแนนให้ในวาระสำคัญ หรือบางคนเสียงหายรวมทั้งการกำชับพลร่มสัมพันธ์ในขั้วรัฐบาลว่าอย่าบังเกิดเด็ดขาด


          เกมการเมืองเดือนตุลาคมน่าติดตามยิ่งเพราะจังหวะ "ดีล ดูด โดดร่มฝืนมติ” เปิดขึ้นแล้วในยามนี้


          รอเพียงขึ้นเวทีอย่างเป็นทางการเท่านั้น

 


 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ