คอลัมนิสต์

กระสุนผ่ากระแส “ทักษิณ” ประดาบ “เนวิน” เปิดสงครามชิงบ้านใหญ่

กระสุนผ่ากระแส “ทักษิณ” ประดาบ “เนวิน” เปิดสงครามชิงบ้านใหญ่

15 มิ.ย. 2567

แก้โจทย์ไร้กระแส ทักษิณ ประดาบ เนวิน เปิดสงครามชิงบ้านใหญ่ ปักธงจอง สส.สายแข็ง ต้านพายุสีส้ม ท้าพิสูจน์ทฤษฎีกระสุนผ่ากระแส

ทักษิณ ชินวัตร - เนวิน ชิตชอบ
 

คู่เอก ทักษิณ ปะทะ เนวิน เปิดสงครามชิงบ้านใหญ่ ปักธงจอง สส.สายแข็ง ต้านพายุสีส้ม ท้าพิสูจน์ทฤษฎีสองนครา กระสุนผ่ากระแส   

 

ทักษิณอ่านเกมขาด เพื่อไทยไร้กระแส เสื้อแดงไร้พลัง เป็นรองค่ายสีส้มเปิดโมเดลไทยรักไทย 2548 รวมพลคนบ้านใหญ่ ทุกซุ้มทุกภาค
 

ความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร นับแต่ช่วงปลายเดือน พ.ค.2567 จนมาถึงปัจจุบัน มีข้อสังเกตประการหนึ่งเกี่ยวกับเป้าหมายการเดินทาไปร่วมกิจกรรมส่วนตัว แต่แฝงไว้ด้วยวาระทางการเมือง
 

สรุปว่า ทักษิณมีแผนจะรวบรวม “บ้านใหญ่” ทุกซุ้มในเมืองไทย ให้มาอยู่ใต้ชายคาชินวัตร เหมือนการเลือกตั้ง สส.ปี 2548


แผนการดังกล่าว จะส่งผลกระทบถึงพรรคภูมิใจไทยโดยตรง เนื่องจาก เนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ค่ายสีน้ำเงิน วางภูมิใจไทยให้เป็น “พรรคบ้านใหญ่”

ก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค.2566 ทักษิณยังเชื่อว่า เพื่อไทยคือ พรรคกระแส พรรคฝ่ายประชาธิปไตย แต่ผลเลือกตั้งได้สอนให้นายใหญ่ได้ตระหนักว่า พรรคของทักษิณ หลุดจากกระแสไปแล้ว
 

พรรคก้าวไกลในวันนี้ ไม่ต่างจากพรรคไทยรักไทย ปี 2544 พรรคสีส้มกลายเป็นความหวังแห่งการเมืองใหม่
 

ย้อนไปดูคิวเดินสายของทักษิณ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งทุกงานที่ไปกลายเป็นประเด็นข่าวร้อน
 

วันที่ 24 พ.ค.2567 ไปงานศพอดีตคนขับรถ จ.นครราชสีมา มีการเปิดดีลล่วงหน้ากับ สุวัจน์ ลิปตพัลลภ คีย์แมนพรรคชาติพัฒนา


วันที่ 7 มิ.ย. ไปงานบวชลูกชายนายกเบี้ยว ประกาศลั่นเสื้อแดงต้องกลับมา และก่อนหน้านั้น ทักษิณนัดพบนักการเมืองบ้านใหญ่เมืองปทุมฯทุกซุ้ม
 

วันที่ 12 มิ.ย. ไปงานวันเกิด สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี เพื่อแสดงความขอบคุณบ้านใหญ่นครนนท์ ที่ไม่ทิ้งเพื่อไทย
 

คาดหมายว่า ทักษิณจะมีคิวเดินสายไปนักการเมืองบ้านใหญ่อีกหลายซุ้ม เพื่อบรรลุยุทธศาสตร์พรรคบ้านใหญ่สีแดง
 

ทฤษฎีเสาเข็มครูใหญ่
 

เมื่อนายใหญ่วางโพสิชั่นนิ่งให้เพื่อไทยเป็น “พรรคบ้านใหญ่” ย่อมกลายเป็นคู่แข่งพรรคภูมิใจไทยไปโดยปริยาย


ปี 2554 เนวิน ชิดชอบ นำภูมิใจไทย ลงสนามเลือกตั้งหนแรก อาศัยนักการเมืองบ้านใหญ่เป็นกองกำลังหลัก แต่เจอพายุสีแดงพัดถล่มสอบตกเกือบเกลี้ยง
 

ปีนั้น ภูมิใจไทย ได้ สส.เขต 29 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 5 คน ส่วนใหญ่เป็น สส.อีสานใต้ และ สส.ภาคกลาง


ปี 2562 ภูมิใจไทย ได้ สส.เขต 39 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 12 คน รวม 51 ที่นั่ง ค่ายสีน้ำเงินเริ่มปรับขบวน ใช้กลยุทธ์บ้านใหญ่ ประสานนโยบายกัญชา


ปี 2566 ภูมิใจไทย ได้ สส.เขต 68 ที่นั่ง และ สส.บัญชีรายชื่อ 3 ที่นั่ง รวม 71 ที่นั่ง จากตัวเลข สส.ล่าสุดทั้ง 2 ระบบ ค่ายครูใหญ่สะท้อนภาพความเป็นพรรคบ้านใหญ่ชัดเจน


ความสำเร็จอย่างดงามคือ สมรภูมิอีสาน ค่ายสีน้ำเงิน ได้ สส.เพิ่มขึ้นเป็น 35 ที่นั่ง จากทั้งหมด 133 ที่นั่ง


นี่เป็นผลงานของครูใหญ่เนวิน เจ้าของทฤษฎีตอกเสาเข็ม ต้านกระแสสีส้มและสีแดง


รื้อถอนเสาไฟฟ้าสีแดง
 

ก่อนเลือกตั้งปีที่แล้ว กูรูการเมืองต่างฟันธงว่า สมรภูมิอีสาน 133 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยจะกวาดไปไม่ต่ำกว่า 110 ที่นั่ง แต่เอาเข้าจริง ได้แค่ 73 ที่นั่ง


การบ้านเฉพาะหน้าของทักษิณคือ โละทิ้งเสาไฟฟ้าสีแดงในภาคอีสาน ดึงบ้านใหญ่เข้าเสริมทีม และลอกการบ้านเนวิน กรณีการสร้าง สส.เสาเข็ม


ภาคเหนือตอนล่าง ทักษิณน่าจะดึงบ้านใหญ่เมืองมะขามหวาน สันติ พร้อมพัฒน์ กลับรังสีแดง ถ่วงดุลเครือข่ายชาดา ไทยเศรษฐ์


ภาคกลาง ทักษิณ เผชิญหน้าชาดา ผนึกซ้อสมทรง บ้านใหญ่อยุธยาวางฐาน สส.ลุ่มเจ้าพระยา-ป่าสัก


ปริมณฑลกรุงเทพฯ เป็นโจทย์ยากของทักษิณ เพราะสมุทรปราการ สมุทรสาคร นนทบุรี และปทุมธานี กลายเป็นส้มทั้งจังหวัด


ภาคตะวันตก ทักษิณคงพึ่งพาบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ นครปฐม แต่ก็อยู่ที่ผลการเจรจา บ้านใหญ่สุพรรณยอมเปิดทางให้หรือไม่


การรวบรวม “บ้านใหญ่” ให้มาอยู่ใต้ชายคาเพื่อไทย เป็นทางรอดเดียวที่ทักษิณ จะเอาชนะค่ายสีส้ม และเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้า